ประชุมภาคีเครือข่าย ๗ มหาวิทยาลัย เพื่อแลกเปลี่ยนรู้ ครั้งที่ ๒
โครงการพัฒนาการเพิ่มขีดความสามารถสู่การเป็นมหาวิทยาลัยสร้างเสริมสุขภาพ
เมื่อวันที่ ๑๔-๑๕ พฤษภาคม ๒๕๕๑
ณ โรงแรมตักสิลา อ.เมือง จ.มหาสารคาม
นายวีระชน พรหมสะวัน (นิสิตต้นแบบ รุ่นที่ ๒) / นางสาวพัชรินทร์ ดอนกระสินธุ์
พิธีกรดำเนินการประชุม
ผศ.ดร.ศุภชัย สมัปปิโต ผู้รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาสารคาม
ประธานกล่าวเปิดงานและต้อนรับผู้เข้าร่วมประชุม
วันพฤหัสบดีที่ ๑๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๑
๑. แลกเปลี่ยนเรียนรู้การดำเนินงาน มีดังนี้
มหาวิทยาลัยแม่โจ้
รองศาสตราจารย์อาคม กาญจนประโชติ กล่าว ขอบคุณโครงการนี้ และได้เล่าว่า หลังจากที่มหาวิทยาลัยแม่โจ้ได้ไปประชุมที่มหาวิทยาลัยบูรพา มหาวิทยาลัยแม่โจ้ก็ได้จัดดำเนินการต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการออกกำลังกาย เพื่อให้สอดคล้องกับโครงการนี้ โดยมองประเด็นเดียวคือจัดอย่างไรให้เกิดการออกกำลัง แต่หลังจากได้รับฟังการบรรยายจากคุณหมอและอาจารย์สุรินทร์ทำให้เกิดความเข้าใจมากขึ้นว่า “เราต้องทำให้เขาฝังเข้าไปในสายเลือดและจิตใจ ไม่ใช่เพียงการออกมาเต้นหรือวิ่ง และดึงคนที่ไม่เคยออกกำลังกายให้เขาออกมาออกกำลังกาย”
โครงการพัฒนาขีดความสามารถสู่การเป็นมหาวิทยาลัยสร้างเสริมสุขภาพถือเป็นโครงการนำร่องจริงๆ ซึ่งหลังจากที่ได้รับฟังยุทธศาสตร์จากท่านอาจารย์สุรินทร์ และการบรรยายจาก นายแพทย์มานิตย์ ประพันธ์ศิลป์ ทำให้ทราบแนวทางการทำงานดังนี้
๑) การทำงานไม่ควรมอบบุคคลใดบุคคลหนึ่ง โดยทุกคนภายในมหาวิทยาลัย เริ่มตั้งแต่ผู้บริหารระดับสูง ก็คือตั้งแต่สภามหาวิทยาลัย อธิการบดี รองอธิการบดี คณบดี บุคลากรทุกระดับชั้น และนักศึกษา ให้ทุกคนมีส่วนร่วมมากที่สุด แล้วทำการสร้างเครือข่าย ซึ่งวิธีการสร้างเครือข่าย โดยมหาวิทยาลัยแม่โจ้จะประกาศว่า “เราเป็นมหาวิทยาลัยสร้างเสริมสุขภาพ โดย สสส” แล้วแจ้งให้สภาทราบ สภาแจ้งให้อธิการบดี อธิการบดีแจ้งให้คณบดี คณบดีแจ้งให้หัวหน้าภาควิชา หัวหน้าภาควิชาแจ้งให้บุคลากรในภาคต่าง ๆ รับทราบว่า ต่อไปมหาวิทยาลัยแม่โจ้ทุกแห่งจะทำกิจกรรมอะไรก็ตาม ให้พูดคำว่า “เป็นมหาวิทยาลัยเพิ่มขีดความสามารถในการสร้างเสริมสุขภาพ” ซึ่งถือว่าเป็นองค์กรมาสู่กอง
๒) ทำให้สังคมเกิดการยอมรับ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ได้จัดทำกิจกรรมขึ้นมา ๖ กิจกรรม โดยแบ่งเป็นประเด็นหลัก ๓ ประเด็น และกิจกรรมเสริมอีก ๓ ด้าน ประเด็นหลัก ได้แก่ ๑) เรื่องอุบัติเหตุ ๒) เรื่องยาเสพติด ๓) เรื่องการอยู่ก่อนแต่ง การไม่รู้จักป้องกันตนเอง โรคติดต่อ การมีเพศสัมพันธ์จนทำให้เกิดการมีบุตร ซึ่งทำให้บั่นทอนการเรียนการสอน ส่วนกิจกรรมเสริม ได้แก่ ๑) ด้านการออกกำลังกาย โดยส่งเสริมให้ทุกคนออกกำลัง ๒) ด้านจิตใจ เน้นสุนทรียการทำงานร่วมกัน เน้นสุนทรียการสัมมนา เป็นต้น ๓) ด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งมหาวิทยาลัยได้พยายามทำให้สังคมและทุกคนยอมรับ โดยทำการผลักดันให้เป็นแบรนด์ของมหาวิทยาลัย ด้วยการมีโลโก้ด้านสุขภาพ เมื่อเห็นโลโก้นี้แล้วทำให้ทุกคนรู้หมดว่าเป็นใคร นอกจากนี้มหาวิทยาลัยแม่โจ้ยังมีการเขียนไว้ในยุทธศาสตร์ของมหาวิทยาลัยอีกด้วยว่า “เป็นมหาวิทยาลัยสร้างเสริมสุขภาพ” และสร้างเครือข่ายให้เป็นที่ยอมรับ
ในการประชุมครั้งนี้รู้สึกดีใจมากที่ทุกมหาวิทยาลัยเดินทางไปตาม ไม่รู้จะถูกหรือไม่ แต่ที่ได้คุยกับ นายแพทย์มานิตย์ ประพันธ์ศิลป์ แล้วรู้ว่าทุกมหาวิทยาลัยค่อนข้างจะเดินมาถูกทางแล้ว
มหาวิทยาลัยทักษิณ
ผศ.ดร.เรวดี กระโหมวงค์ ได้กล่าวถึงปัญหาที่มหาวิทยาลัยทักษิณพบ ได้แก่
๑. การสร้างความเข้าใจ ช่วงแรกมีปัญหาอยู่บ้าง โดยมีบ้างบางหน่วยงานที่จะของบ
เพื่อไปจัดกิจกรรม แต่ผู้รับผิดชอบโครงการได้ขอให้หน่วยงานที่จะของบส่งบุคคลเพื่อมาจัดทำแผนปฏิบัติการร่วมกันก่อน แล้วแผนรวมมหาวิทยาลัยออกมารูปแบบไหนค่อยมาร่วมกันทำ ซึ่งการของบเพื่อไปทำในส่วนของหน่วยงานตนเอง ถือเป็นวิธีการคิดแบบแยกส่วน เอาไปทำเฉพาะในส่วนที่หน่วยงานรับผิดชอบ และเป็นการกระจาย งานที่ออกมาจะไม่เป็นภาพรวม และจะไม่บรรลุวัตถุประสงค์ที่จะเป็นมหาวิทยาลัยสร้างเสริมสุขภาพ
๒. ระบบการเงิน มีปัญหาว่าจะต้องทำตามระเบียบของ สตง. หรือเปล่า จำเป็นต้องมีระเบียบเคร่งครัดว่า จะมีหน่วยงานจาก สสส. มาตรวจด้วยหรือไม่ แก้ปัญหาโดยโทรสอบถามโดยตรง แล้วนำไปประชุมใหญ่ ซึ่งปัญหาครั้งนี้ทำให้เป็นประสบการณ์ว่าควรเดินทางต่อไปอย่างไร
ในส่วนที่มหาวิทยาลัยดำเนินการ ในคณะกรรมการดำเนินการของมหาวิทยาลัยคือ เป็นครั้งแรกที่ได้รับเสียงตอบว่า เป็นคณะกรรมการที่มีสมาชิกจำนวนมากที่สุด แต่สมาชิกที่เข้าร่วมมาจาก
การสมัครใจ เพราะว่าหลังจากที่ได้ทำการ work shop แล้วได้ ๗ ประเด็นปัญหา ก็ได้หาแกนนำใน ๗ ประเด็น ด้วยเทคนิคการเลือกคนว่าคนไหนที่มีเครือข่ายหรือมีเพื่อนที่จะมาช่วยกันทำงานด้วยความสมัครใจ และ ๗ คนนี้ จะมีทีมของตัวเอง ทั้ง ๗ กลุ่ม จะมีการประชุมแลกเปลี่ยนกันประมาณเดือนครึ่งหรือ ๒ เดือน โดยเป็นการประชุมสมาชิกทั้งหมด แต่ประธานและเลขานุการกลุ่มจะแลกเปลี่ยนกันประมาณ ๒-๓ อาทิตย์สักครั้งหนึ่ง
หลังจากได้มาประชุมครั้งนี้ก็ทำให้ทั้ง ๗ มหาวิทยาลัยได้พบกัน ทำให้เกิดการเรียนรู้ร่วมกัน อย่างเช่น มหาวิทยาลัยแม่โจ้ที่มีการเตรียมการรับน้อง และเครื่องจับตรวจไขมันของอาจารย์แป้นเราขอนำไปใช้ประโยชน์เพื่อสุขภาพเด็ก ประโยชน์ที่ดีต่อมหาวิทยาลัยคือหลังจากการแลกเปลี่ยนกันทำให้รู้ว่าทางมหาวิทยาลัยไม่มีข้อมูลประวัติเกี่ยวกับสุขภาพของนักศึกษาเลย สิ่งนี้จะทำให้ได้ในปี ๒๕๕๒ และมีหลายที่ที่มีสิ่งที่ดีอย่างของ ม.นเรศวรก็มีทูตสุขภาพ ม.ฟาร์อิสเทอร์น ก็ดีเยอะ เช่น เรื่องของฐานข้อมูล การบอกผลสมรรถภาพทางกาย ส่วนมหาวิทยาลัยมหาสารคามชื่นชอบสื่อ ที่มียมทูต การประชุมครั้งนี้นับเป็นสิ่งที่ดีทำให้ ๗ มหาวิทยาลัยได้มาเจอเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา
นายพีระ จูน้อยสุวรรณ ได้ชื่นชมมหาวิทยาลัยแม่โจ้ที่มีความเด็ดขาด และกล่าวถึงมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนาว่า ยังมีปัญหาอยู่หลายเรื่อง โดยเฉพาะการให้ความสำคัญกับโครงการนี้ยังน้อย เพราะทางมหาวิทยาลัยให้ความสำคัญกับด้านอื่น แต่ผู้รับผิดชอบโครงการก็มีความพยายามที่จะทำโครงการนี้ให้ประสบผลสำเร็จ สิ่งที่เป็นปัญหาอีกเรื่องคือ เรื่องบัญชี ที่มีความล่าช้า เพราะกองคลังของมหาวิทยาลัยที่ได้เข้ามาร่วมทำงานด้วยยังไม่ยอมให้ผ่าน หลักฐานการเบิกจ่ายมีจะต้องให้เป็นไปตามระเบียบ แต่พอฝ่ายการเงินของมหาวิทยาลัยได้โทรไปปรึกษากับหน่วยงาน สสส ก็บอกว่าไม่ต้องเอาไปเข้าคลังและไม่ต้องยุ่งยากขนาดนั้น จึงทำให้เรื่องโอนกลับมากับทีมงานที่ทำ แล้วจึงได้นำมาเขียนรายงานผลต่อ สสส ได้
จากการเข้าประชุมครั้งนี้มีสื่อหลายสื่อที่มหาวิทยาลัยชอบมาก ขออนุญาตนำสื่อไปใช้ ขอขอบคุณที่ให้ได้เชิญมา และจะพยายามทำให้ได้
อาจารย์กิตติพงษ์ แดงเสริมศิริ ได้ขอชื่นชม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา มีความพยายามอย่างยิ่งที่จะทำแผนการพัฒนานิสิตอุดมคติไทย เป็นที่แรกที่มีการเอาจริงเอาจังมาก วางกรอบไว้ชัดเจน
มหาวิทยาลัยฟาร์อิสเทอร์น ได้ให้ข้อเสนอแนะในการจัดดำเนินงานโครงการ ดังนี้
๑. เราควรมีการปรับกลยุทธ์การมีส่วนร่วม โดยปรับที่โครงสร้างให้ทุกคนยอมรับ และให้มีส่วนร่วม และทำห้องเรียนให้เป็นห้องเรียนสุขภาพ เช่น ก่อนเรียนให้อาจารย์มีการนำเสนอเรื่องสุขภาพ สัก ๑๕ นาที เป็นต้น นอกจากนี้ควรมี out put view board เช่น แสดงสถิติการเกิด-ลดอุบัติเหตุ เป็นต้น ซึ่งเมื่อเราเห็นตัวเลขจะทำให้รู้สึกว่าเรามีส่วนร่วมที่ทำให้ลดการเกิดอุบัติเหตุด้วย กำลังมองเป็นเรื่องกลยุทธ์ กลับไปแล้วมหาวิทยาลัยจะไปทำ
๒. ความคิดสร้างสรรค์ในการใช้สื่อ สื่อสำหรับวัยรุ่นต้องเป็นสื่อที่กระตุ้นให้เขาแรงๆ ทำแล้วให้เขาสามารถจำง่าย ๆ โดยควรทำสื่อง่าย ๆ ชัด ๆ แต่ให้จำได้ มีการนำสื่อมาใช้ซ้ำ จัดทำสื่อในรูปของภาพยนตร์ และควรมีศูนย์สื่อกลาง ที่เป็นสื่อเฉพาะทางมหาวิทยาลัยจัดขึ้น โดยทุกคนสามารถหยิบนำไปใช้ได้เลย
๓. แกนนำเยาวชน มีแนวคิดว่าทำอย่างไรให้นักศึกษาที่เป็นแกนนำมีความซาบซึ้งกับเรื่องนี้มาก ๆ และทำอย่างไรให้แกนนำเยาวชนมีความตระหนักเรื่องสุขภาพ และทำให้กลายเป็นวัฒนธรรมเรื่องสุขภาพ
มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
รองศาสตราจารย์สุรชา อมรพันธุ์ ได้กล่าวว่า สิ่งต่าง ๆ ที่ได้รับจากการประชุมครั้งนี้ทำให้ได้ข้อคิดและแนวคิดต่าง ๆ มากมาย และสิ่งสำคัญที่ได้ครั้งนี้คือเรื่องสื่อ สื่อต่าง ๆ ถือว่าไม่มีลิขสิทธิ์ สามารถนำไปปรับและประยุกต์ใช้ได้ แต่ขอให้มีการอ้างอิงแหล่งที่มาด้วย เพื่อให้เกียรติสถาบันที่เป็นต้นคิด ขอยอมรับว่าสื่อพวกยมทูตนั้นได้ Idea จากมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ซึ่งต้องขอขอบพระคุณมหาวิทยาลัยแม่โจ้ และควรนำเผยแพร่ใน Internet และเห็นด้วยถ้าจะมีศูนย์กลางของสื่อต่าง ๆ ประโยชน์ที่ได้เข้าร่วมประชุมครั้งนี้คงทำให้มหาวิทยาลัยต่าง ๆ ได้งานดีขึ้นมาอีก และ
อยากให้โครงนี้อยู่คู่กับมหาวิทยาลัยไปเรื่อย ๆ
มหาวิทยาลัยนเรศวร
อาจารย์พรธิดา จันทร์ที ได้กล่าวว่า มหาวิทยาลัยไม่ได้ทำหลายอย่าง แต่สิ่งที่มหาวิทยาลัยทำนั้นได้ไตร่ตรอง และมีความตั้งใจทำทุกอย่าง สิ่งที่มหาวิทยาลัยทำช่วงปิดเทอมคือ ดึงบุคลากรเข้ามามีส่วนร่วม และจัดกิจกรรมขึ้น โดยทำเกี่ยวกับฑูตสุขภาพ ส่วนนิสิตจะทำในช่วงเปิดเทอม สำหรับเรื่องการมีส่วนร่วม มหาวิทยาลัยยังมีน้อย เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาเน้นงานกีฬาจึงทำให้ยังไม่ได้ลงมือเท่าที่ควร
มหาวิทยาลัยบูรพา
อาจารย์นุชนาถ แก้วมาตร ได้กล่าวว่า หลังจากประชุมที่ ม.แม่โจ้ ก็ได้มาปรับทิศทางและแผนการดำเนินงานโครงการใหม่ โดยไม่มุ่งเน้นการอบรม หรือเฉพาะเรื่องทางกาย หรือมุ่งเพียงทักษะชีวิตเท่านั้น แต่จะเน้นถึงว่า “ทำอย่างไรเมื่อเราเป็นภาคี ๗ เครือข่ายมหาวิทยาลัยแล้ว จะทำให้ประชาคมมหาวิทยาลัยบูรพา ได้รับรู้ว่า มหาวิทยาลัยบูรพาเป็นมหาวิทยาลัยสร้างเสริมสุขภาพ” โดย ทำให้ประชาคมมหาวิทยาลัยบูรพาเข้ามามีส่วนร่วม ได้ร่วมคิด ร่วมทำ จากการประชุมครั้งนี้ทำให้ได้มาเรียนรู้จากมหาวิทยาลัยต่าง ๆ และขอชื่นชมทุกมหาวิทยาลัย ซึ่งทำให้เป็นแนวทางให้มหาวิทยาลัยบูรพามาก และจะนำประสบการณ์ทุกอย่างไปเผยแพร่ ทำงานให้เกิดความชัดเจน
การประชุมดังกล่าวเสร็จสิ้นไปด้วยความเรียบร้อย และได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย
ต้องขอขอบพระคุณทุกท่านที่ร่วมแรงร่วมใจ
......ขอนอกเรื่องตามใจผึ้งบ้างนะคะ กว่าจะลงรูปได้ต้องใช้ความพยายามอย่างสูงมาก เพราะเป็นใจร้อนไม่ชอบทำอะไรซ้ำ ๆ แต่ก็ต้องมาเจอจนได้ คือ โหลดรูปไม่ครบวันนี้ขอแค่นี้ก่อนนะคะ ไว้พรุ่งนี้จะมาลงใหม่ (เหนื่อยแล้ว) เพราะนั่งทำรายงานตั้งแต่เช้า (รายงานรูปเล่ม) เพิ่งจะมาเสร็จตอนประมาณ ๖ โมงเย็น รู้สึกปวดตา...
การได้มีโอกาสเข้าไปศึกษาดูงาน และร่วมเรียนรู้ รวมถึงร่วมแลกเปลี่ยนในระดับหนึ่ง ก็นำพาให้ตนเองได้เห็นแนวคิดอันหลากหลายและกว้างไกลอย่างน่าชื่นชม และสิ่งเหล่านั้นก็เป็นต้นทุนที่ดีในการปรับแต่เนื้องานของตนเองให้มีรูปธรรมมากยิ่งขึ้น
ขอบคุณที่ให้โอกาสพี่และทีมงานได้แสดงถึง "หัวใจ" ที่มีต่อมหาวิทยาลัยอย่างไม่อิดออด
ดีมากเลยครับ
มาเยี่ยมยามท่านผึ้ง มา ลปรร ที่นี่เอง