Cyber love


รักในโลกไซเบอร์

รักในโลกไซเบอร์ Cyber love [1]
                                                    นพ.กัมปนาท ตันสิถบุตรกุล จิตแพทย์

        โลกเราก้าวมาถึงยุคที่เทคโนโลยีด้านคอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ต    เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันอย่างมากมายไม่เว้นแม้กระทั่งเรื่องการสนองอารมณ์ความรักใคร่ซึ่งเป็นเรื่องที่มนุษย์แทบทุกคนให้ความสำคัญ  มีแฟนๆ ที่ติดตามอ่านคอลัมน์นี้มากมายเคยขอให้ผมเขียนบทความถึงเรื่องจิตวิทยาของความรักที่เกิดบนโลกอินเตอร์เน็ตซึ่งกำลังได้รับความนิยมอย่างสูง ไม่ใช่เฉพาะแค่กลุ่มวัยรุ่นแต่ยังรวมถึงผู้ใหญ่หลายคน (โดยเฉพาะคนโสดที่หัวใจยังว่างเปล่าอยู่) ก็ยังติดใจกับการแช็ทรักนี้ด้วยไม่แพ้กัน บางคนเล่าให้ฟังว่ามันทำให้เขารู้สึกดี ชีวิตกระชุ่มกระชวยมีสีสัน ในขณะที่บางคนก็พลาดท่าเสียใจกันมาแล้วก็มี เปรียบเสมือนเหรียญที่มีสองด้าน ซึ่งอาจจะเป็นด้านที่นำความสุขหรือความทุกข์มาให้ก็ได้ ถ้าเราเลือกใช้อย่างไม่ระมัดระวัง ผมจึงมีประเด็นมานำเสนอดังนี้

จินตนาการแห่งรักไร้พรมแดน
           ขึ้นชื่อว่าอินเตอร์เน็ต เราย่อมทราบกันดีว่าเป็นโลกไร้ขอบเขต ไม่เพียงแต่ติดต่อไปถึงได้แทบทุกมุมของโลกแต่ยังรวดเร็วชนิดที่นับกันเป็นวินาที เทียบกันแทบไม่ได้กับสมัยก่อนที่กว่าเราจะส่งจดหมายถึงเพื่อนหรือคนรักสักฉบับต้องรอกันเป็นวันๆ กว่าจะได้รับ แต่ปัจจุบันการส่งจดหมายอิเล็กทรอนิคส์หรืออีเมล์สามารถไปถึงผู้รับข้ามโลกได้ทันที นอกจากนี้ยังสามารถคงความเป็นปัจจุบันอยู่ตลอดเวลา เช่น บรรดาโปรแกรมแชทต่างๆ ที่มีวิวัฒนาการมายาวนานและนับวันจะพัฒนาคุณสมบัติมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ในขณะเดียวกันภัยต่าง ๆ  ที่แอบแฝงมาก็จะยิ่งซับซ้อนยากต่อการระวังมากขึ้นตามไป ความฉลาด ความทันสมัยของระบบย่อมส่งผล ต่อผู้ใช้บริการหลายอย่าง เช่น
-
การนำเสนอภาพและเสียงที่มีมากมาย น่าตื่นเต้นตลอดเวลา ซึ่งย่อมนำมาสู่ความอยากรู้อยากเห็นไม่สิ้นสุด
-
รวดเร็วทันใจ ตอบสนองความอดทนที่ส่วนใหญ่มีอยู่น้อยนิดในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี
-
กระตุ้นให้อยู่ในโลกจินตนาการอย่างไร้ขอบเขต ดังนั้นผู้ใช้บริการจึงมีความสุขจากการปลดปล่อยจินตนาการได้เต็มที่ จนบางทีแทบลืมโลกแห่งความเป็นจริงไปเลย
-
บางครั้งมีรางวัลตอบแทนสำหรับการเข้าไปร่วมด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่ล่อตาล่อใจอย่างดีในการทำให้สมองของเราติดความต้องการนั้นอยู่ตลอดเวลา (โดยอาจไม่รู้ตัว) ไม่แตกต่างจากการติดเกมหรือติดการพนัน 

กรณีตัวอย่าง รักในอินเตอร์เน็ต
     สาววัยรุ่นคนหนึ่งเริ่มได้ยินเรื่องการติดต่อหาคู่ทางอินเตอร์เน็ตจากภาพยนตร์เรื่อง “You’ve got a mail” ซึ่งโด่ง ดังมากเมื่อหลายปีก่อน ทำให้สาวๆ หลายคนที่อยากมีคู่ผ่านทางอินเตอร์เน็ตบ้างพากันเลียนแบบมากมาย เธอเริ่มอยากลอง อยากรู้ อยากเห็น นำไปสู่การฝึกใช้โปรแกรมแชทจนชำนาญมากขึ้น ความใหม่ทันสมัยของเทคโนโลยีช่วยกระตุ้นความรู้สึกให้อยากรู้อยากเห็น ทดลองเรียนรู้มากขึ้นเรื่อยๆ จนเกิดอาการติดและรู้สึกว่าขาดไม่ได้ สิ่งที่ตามมาคือ อาการหงุดหงิดเวลาที่ใครขัดใจ ทักท้วง หรือห้ามไม่ให้เล่น บางครั้งถึงขั้นแสดงความก้าวร้าวออกมาแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ในที่สุดก็เริ่มแยกตัวออกห่างจากเพื่อนที่เคยคบกัน ไปทดลองหาเพื่อนใหม่ที่ทำให้ตื่นเต้น กระชุ่มกระชวยขึ้น หรือถึงขั้นรัก หลงในบางราย วันไหนไม่ได้คุยกันก็แทบทนไม่ได้ ต้องกระวนกระวายคอยเช็คเมล์อยู่ร่ำไป สิ่งที่ตามมาต่อจากนั้นคือการสูญเสียสัมพันธภาพที่ดีกับคนทั่วไป มองว่าโลกธรรมดาเป็นโลกที่โหดร้าย ขาดความมั่นใจในตัวเอง ขาดความจริงใจจากคนรอบข้าง ขอเปลี่ยนมาใช้ชีวิตและความสัมพันธ์ในโลกแห่งจินตนาการแทน ในที่สุดถูกคนที่อยู่ในอินเตอร์เน็ตหลอกลวงจนเสียเงินเสียทองไปมากมาย แต่เธอก็ยังรู้สึกว่าการเสียเงินนี้เหมาะสม เพราะหลงเชื่อข้อมูลต่างๆ ที่ได้รับมาและยินดีที่จะให้ จึงไม่คิดว่าเป็นการสูญเสีย
    
วัยรุ่นชายคนหนึ่งมีประสบการณ์การเล่นอินเตอร์เน็ตมาพอสมควรแล้ว รู้จักโปรแกรมใหม่ๆ ให้ศึกษามากมาย ส่วนใหญ่ที่เข้าไปเล่นก็เพื่อทดแทนความเหงาที่มีอยู่เป็นประจำ เขาใช้เวลาเล่นมากขึ้นเรื่อยๆ มีคนเข้ามาคุยด้วยมากมายจนแทบไม่มีเวลาพัก เขารู้สึกดีที่มีคนเข้ามาทักทายมากมาย จะพูดอะไรก็สามารถทำให้ตนเองดูดีได้ จะสมมติเรื่องใดๆ ก็ได้ตามที่ต้องการ เวลาไม่สบายใจก็มีคนเข้ามาคอยปลอบใจเสมอๆ ดูเหมือนว่าทุกคนในโลกอินเตอร์เน็ตจะมีน้ำใจและเป็นคนดีไปหมด บางครั้งก็ได้คำแนะนำดีๆ บางครั้งก็ไม่แน่ใจว่าควรทำตามหรือไม่ ความเห็นมีหลากหลายจนบางครั้งทำให้สับสน ทุกครั้งที่เขามีปัญหาในชีวิตจะเข้ามาสอบถามวิธีการแก้ปัญหากับคนในอินเตอร์เน็ตอยู่ร่ำไปจนรู้สึกว่าขาดพวกเขาเหล่านั้นไม่ได้ เมื่อต้องเผชิญปัญหาด้วยตัวเองเลยกลายเป็นว่าไม่สามารถจะแก้ปัญหาด้วยตัวเองได้ ขาดการควบคุมอารมณ์ และระเบิดอารมณ์ใส่ปัญหาที่เข้ามาและปฏิเสธปัญหาทั้งปวงโดยสิ้นเชิง
     
สาววัยทำงานคนหนึ่ง ทำงานแบบเช้าไป-เย็นกลับ แบบนี้ตลอดทั้งปี ดูเหมือนว่าชีวิตราบเรียบน่าจะมีความสุขดี แต่บางครั้งก็อดรู้สึกเหงาไม่ได้ จะให้ออกไปเที่ยวก็ไม่ชอบ เพราะสถานที่เที่ยวส่วนใหญ่ไม่ถูกใจและรู้สึกไม่ปลอดภัย จะไปเที่ยวต่างจังหวัดก็ไม่รู้จะเที่ยวกับใคร เพื่อนส่วนใหญ่ก็มีครอบครัว มีภาระไม่ค่อยมีเวลา ตนเองเป็นคนเงียบๆไม่ค่อยมีเพื่อน แต่ไม่ได้มีปัญหากับใคร วันหนึ่งมีโอกาสได้เข้าไปเล่นโปรแกรมแชทผ่านอินเตอร์เน็ต พิมพ์ข้อความคุยกัน ซึ่งอันที่จริงสามารถพูดคุยเห็นหน้ากันได้ด้วย แต่เธอไม่ชอบเพราะรู้สึกว่าเป็นการเปิดเผยตัวเองมากเกินไป การได้คุยกันแบบไม่เห็นหน้ากันทั้งสองฝ่ายทำให้รู้สึกว่ายังมีโลกส่วนตัวอยู่ และที่สำคัญเวลาคุยกันสามารถที่จะจินตนาการไปต่างๆ นานาว่าเขาจะหน้าตาเป็นอย่างไร จะน่ารักเหมือนข้อความที่ส่งมาให้หรือไม่ บางครั้งใจก็อยากจะถามอยากจะเจอให้รู้แล้วรู้รอดไป แต่อีกใจยังไม่กล้าขอเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ ดีกว่า เมื่อวันเวลาผ่านไป เริ่มรู้สึกสนิทกันกับคนที่คุยด้วยมากขึ้น เริ่มอยากเจอตัวจริงๆ จึงนัดหมายเพื่อมาเจอกัน ทั้ง 2 คนรอคอยวันนั้นด้วยใจที่ตื่นเต้น ต่างก็ลุ้นกันว่าอีกฝ่ายจะหน้าตาเป็นอย่างไร ถูกใจหรือไม่ แม้ว่าที่คุยกันมาดูเหมือนจะน่ารักพอสมควร แต่ถ้าหน้าตาน่ารักด้วยคงจะดีไม่น้อยเลย เมื่อเวลานั้นมาถึงจริงๆ ทั้งคู่ก็คลายความตื่นเต้นลง แต่แอบเก็บความเครียดไว้แทน เพราะความคาดหวังนั้นเริ่มจะพังทลายลงไปแล้ว เขาไม่ได้มีหน้าตาเป็นคนอบอุ่นอย่างที่คิด เขาพูดจากับเราแปลกๆ เหมือนไม่ใยดี (เธอไม่รู้เลยว่าเขาก็ผิดหวังในหน้าตาของเธอเหมือนกัน จึงเฉยเมยได้ขนาดนี้) เมื่อการพบปะพูดคุย (ตามมารยาท) จบลง ความเหินห่างก็เริ่มเข้ามาแทนที่ นำมาซึ่งความเศร้า ความท้อแท้ ขาดความมั่นใจในตัวเองอยู่สักพัก แล้วก็เริ่มหาคนใหม่ต่อไป เธอรู้สึกว่าถ้าไม่ทำชีวิตคงเหงาและไร้คุณค่ามากกว่าที่เป็นอยู่แบบนี้อีกไปเรื่อยๆ

ทั้ง 3 กรณีตัวอย่างนี้มีความคล้ายกันพอสมควร จะแตกต่างกันบ้างก็ตรงที่ผลลัพธ์ของการกระทำ อย่างไรก็ตามพอจะสรุปได้ว่า สาเหตุของการเข้าไปเล่นอินเตอร์เน็ตแบบหาคู่ หรือคุยกับ(คนที่อ้างว่าเป็น)เพื่อนนั้นมาจากสาเหตุดังนี้
    
ความเหงา ข้อนี้พบได้บ่อย สมัยก่อนเวลาที่คนเราเหงา ก็ใช้วิธีการเขียนบันทึก หาอะไรทำแก้เหงา แต่พอมีเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามา เราก็เข้าใจว่าจะสามารถทดแทนความเหงาในใจได้ ด้วยวิธีการที่พิสดารมากขึ้นเรื่อยๆ บางทีไม่เฉพาะแค่คุยกันอย่างเดียว บางโปรแกรมก็เปิดโอกาสให้สามารถโชว์หน้าตาแม้กระทั่งของลับของสงวนผ่านอินเตอร์เน็ตได้เลย ซึ่งมีผู้สนใจมากมายเนื่องจากทำให้ตื่นเต้นทดแทนความเหงาได้ โดยทั้งหมดลืมนึกไปว่าปัญหาอยู่ที่ต้นเหตุ คือ ใจ และความคิดของเราเองเท่านั้น แต่เรามักไม่เคยคิดจะแก้ไขที่ต้นเหตุสักเท่าไร
    มีปัญหาเรื่องสัมพันธภาพกับผู้อื่น มีคนจำนวนมากมองโลกภายนอกเป็นโลกที่เลวร้าย (ซึ่งในความเป็นจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้นไปเสียทั้งหมด ล้วนปะปนกันไปทั้งดีและไม่ดี) ส่วนใหญ่ไม่มองส่วนดี จึงทำให้หมดหวังกับโลกภายนอก กลับมาหาโลกส่วนตัวน่าจะดีกว่า ทำแบบนี้นานเข้าทำให้ทักษะการเผชิญหน้ากับผู้คน หรือการมีปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้างเสียไปเรื่อยๆ จนในที่สุดต่างคนก็ต่างแยกตัวอยู่ในโลกแห่งความคิดและจินตนาการของตนเองแทน
    ชอบอยู่กับความคาดหวังที่บางครั้งก็ไม่สามารถเป็นจริงได้ หรือการพยายามหลอกตัวเองอยู่ร่ำไป กรณีของตัวอย่างที่ 3 แสดงให้เห็นว่าการจะมีคู่ครองแบบไหนก็ตาม เป็นสิ่งที่จะต้องค้นหา จะค้นหาอย่างไร? ก็คือการให้เวลาในการคบกัน แม้บางครั้งอาจจะไม่เป็นอย่างที่ต้องการทั้งหมด แต่เราสามารถปรับตัวยอมรับกับสิ่งที่ไม่เป็นไปตามที่คาดหวังได้ เช่น การยอมรับในสิ่งที่เขาเป็น การมองในความดีของเขามากกว่ารูปร่างหน้าตา เรียกว่ามองให้ทะลุถึงจิตใจ ถ้าฝึกทักษะตรงนี้ได้ก็สามารถจะมีคู่ครองที่ทำให้ชีวิตมีความสุขได้ ซึ่งดีกว่าการใช้จินตนาการและคาดหวัง เมื่อไม่สมใจก็เปลี่ยนใหม่ไปเรื่อยๆ 

คำแนะนำสำหรับผู้ติดจินตนาการในโลกอินเตอร์เน็ต
      • ขจัดความเหงาที่อยู่ในใจของเราให้ได้
โดยเน้นการแก้ที่ต้นเหตุมากกว่าปลายเหตุ ถ้ารู้สึกชีวิตไร้ค่าน่าเบื่อ ลองทำอะไรที่สร้างสรรค์ ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและผู้อื่นบ้างก็น่าจะดี แต่ถ้ารู้สึกชีวิตมันเศร้าน่าเบื่อตลอดเวลา น่าจะหาเวลาปรึกษาจิตแพทย์บ้างก็จะดีมาก
     บอกตัวเองว่าชีวิตที่มีความตื่นเต้นมักจะจบลงด้วยความทุกข์เสมอ แต่ชีวิตที่ดำเนินอยู่บนพื้นฐานของเหตุผลมากกว่าอารมณ์จะเป็นชีวิตที่มีความสุขอย่างแท้จริง
     การสร้างสัมพันธภาพกับคนรอบข้างที่ยั่งยืนควรเริ่มต้นบนพื้นฐานของโลกแห่งความเป็นจริง ให้ตนเองได้มีโอกาสที่จะศึกษานิสัยใจคอซึ่งกันและกัน การรู้สึกขัดใจไม่พอใจหรือการทะเลาะกันบ้างจะทำให้มิตรภาพยั่งยืนมากกว่าการดีกันตลอดเวลา และที่สำคัญเราคงไม่สามารถมีเพื่อนแท้ได้ ตราบใดที่ยังไม่สามารถมองตากันแล้วเข้าใจความรู้สึกอย่างแท้จริงได้ ซึ่งในโลกอินเตอร์เน็ตที่แม้จะอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์แต่คุณไม่มีวันที่จะรู้ซึ้งถึงความรู้สึกที่แท้จริงในใจของแต่ละคนได้หรอกครับ
มาถึงตรงนี้ ใครที่คิดว่าตนเองไม่สามารถที่จะมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นในโลกความเป็นจริงได้ดีเท่าโลกแห่งจินตนาการ ก็ยังไม่สายที่จะเริ่มต้นฝึกทักษะ ด้วยการก้าวออกไปเผชิญกับโลกแห่งความเป็นจริงจะดีกว่าครับ
        แต่สำหรับท่านใดที่คิดว่าการมีเพื่อนคุยเพื่อแก้เหงาในช่วงเวลาสั้นๆ ไม่มีพันธะผูกมัดใดและสามารถทำให้เองมีความสุขในช่วงระยะเวลาหนึ่ง เช่น เป็นช่วงเวลาแห่งการพักผ่อน ก็ไม่ว่ากัน ที่สำคัญต้องถามตัวเองว่าเราจะสามารถควบคุมเวลาให้ได้ตามที่กำหนดไว้โดยไม่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนต่อตนเองและผู้อื่นได้หรือไม่ก็น่าจะเพียงพอแล้ว

 



[1]  http://www.tttonline.net/TTT2/hotcontent/contents_view.php?page_name=love&conts=1662



ความเห็น (2)

เห็นด้วยกับเรื่องที่นำมาเผยแพร่ เป็นเรื่องที่น่าสนใจ

ขอบคุณค่ะ ที่ออฟฟิศใช้โปรแกรม skype ติดต่อกันเรื่องงาน แต่ก็มีคุยกับเพื่อนๆข้างนอกบ้างค่ะ ก็คลายเครียดไปบ้างเหมือนกันนะคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท