หมอเจ๊ คนสวย แซ่เฮ
พ.ญ. ศิริรัตน์ เอกศิลป์ สุวันทโรจน์

ชวนน้องคุย (๑) : ส่งสาห์นถึงพ่อครูบา.....คิดยังไงจึงจะมาสวนป่า หลังเฮฮาศาสตร์5


จะปลูกไม้ให้ได้ต้นและผล ต้องรู้ธรรมชาติของต้นไม้ แล้วรู้จักธรรมชาติของดิน รู้แล้วประยุกต์ต่อเพาะอย่างไรให้ขึ้นถ้าดินมันไม่เหมาะ และหากดินนั้นเหมาะ ก็ยังต้องเรียนรู้ดูแลดิน

เชื่อว่าใครต่อใครที่กลับไปจากสวนป่า ยังคงหวนอาลัย  เวลาที่ได้มาพำนักกายใจอยู่ที่สวนป่า   แต่ยังไงก็ต้องจากเนื่องจากภาระการงานที่ต้องดูแลรวมไปกับชีวิตตน   สำหรับตัวฉัน   ได้ให้สัญญาไว้กับใจว่าถ้ามีโอกาสจะไม่ลังเลที่จะมาสวนป่าอีก   มาเพื่อสร้างโอกาสให้น้องๆที่ทำงานร่วมได้เปิดตาเรียนรู้โลกกว้าง     

 

ในส่วนตัวฉัน ฉันให้คำแปลกับคำว่า สาธารณสุข   ว่า  มันหมายถึง  ความสุขที่เป็นสาธารณะ   เมื่อเติมคำว่า คน ลงไปข้างหน้าคำว่า สาธารณสุข  ความหมายของคนสาธารณสุข  จึงหมายถึง ผู้ที่มีความสุขที่เป็นสาธารณะ  

 

ฉันว่าความสุขที่เป็นสาธารณะเก็บเกี่ยวรวบรวมมาได้ง่ายๆจากธรรมชาติที่รังสรรค์ความสุขเหล่านี้ไว้แล้วอย่างแยบยล    แต่คนต้องรู้จักธรรมชาติที่อยู่ในโลกกว้างและโลกภายในแห่งตนจึงจะรู้จักและเก็บเกี่ยวความสุขเหล่านี้ไว้ได้    จึงควรอย่างยิ่งในฐานะพี่ที่จะทำให้น้องมีโอกาสได้สัมผัสธรรมชาติเพื่อการเป็นคนสาธารณสุข    

 

เมื่อพ่อครูบาส่งข่าวมาว่า  จะมีนักเรียนแพทย์ (นศพ.) มาที่สวนป่า   ใจมันจึงแว๊บ เออ!  โอกาสนั้นมาแล้วหนา   ก็อยู่ที่เราจะมีเมตตาให้โอกาสมีมาสู่น้องๆไหม   ในเมื่อจะมาก็อย่าได้มาเพื่อที่จะรับ   แต่ควรจะมาเพื่อแบ่งปันกันด้วย   นี่คือเหตุผลว่า ทำไมจะมาช่วยค่ะ

  

แล้วเมื่อพ่อถามมาจะพูดอะไรกับคนหนุ่มสาว   พี่บางทรายแนะว่าให้ใช้ทำนองแบบของขวัญเมืองที่ผ่านในเฮฮา5   น้องเบิร์ดมาเสริมเห็นด้วยว่าน่าจะเป็นอย่างนั้น   หมอเจ๊เห็นด้วยที่พ่อมา post เพื่อแลกเปลี่ยนกัน  ทำอะไรดี? กับกลุ่มนศพ.ปี 3 ที่มา  มาแลกเปลี่ยนว่า สิ่งที่หมอๆไม่ใคร่ได้ฝึก  จะมีประเด็นเรื่องความอ่อนที่ต้องหัดที่ควรช่วยเติมเมื่อมีโอกาสตั้งแต่ยังละอ่อนค่ะ  

  

เรื่องที่ความอ่อนหัด  มีหลายเรื่องเลยค่ะ  ที่สำคัญฉันว่า  อ่อนการสนทนาประสาคน   ด้วยในการฝึกฝนให้สนตามตำรา  การฝีกจึงให้สนแต่ขอบเขตแห่งโรค  เรียนเพื่อรู้จักหน้าตาว่าโรคเป็นอย่างไร   มีโคตรเหง้าอย่างไร  ใครคือผู้ให้กำเนิดโรค  โรคมีการกำเนิดอย่างไร   ชีวิตโรคหลังกำเนิดเป็นอย่างไร   เมื่อไรโรคจะหมดอายุขัย   จะสลายมันอย่างไร   เป็นการเรียนอยู่ในกรอบ ที่ต้องครูทั้งหลายครอบ   ด้วยเป็นแก่นความรู้ที่จำเป็นต้องจำ   เพราะว่าถ้าไม่จำเลย   ข้อเฉลยจะกลายเป็นบทถลำทำร้ายคนที่มีเสียได้ 

 

การฝึกฝนอย่างนี้ปูพื้นด้วยตำรามาตั้งแต่ปี 2   ครั้นมาเข้าปี 3  จะเริ่มการฝึกฝนโดยมีคนไข้บ้างตำราบ้างเป็นครู  มีการเรียนบางบทจับต้องสดๆตัวคนไข้   ใจที่จับจดอยู่กับการฝึกทำ จึงอาจพลั้งทำเกินเลยทำคนไข้ให้ได้เจ็บ มีดีอยู่ตรงที่ไม่ให้ทำรวดกับคนไข้ทุกคน  ส่วนพอขึ้นปี 4  ทีนี้แหละเริ่มให้ซ่า  ให้พาตนฝึกฝนโดยตรงกับครูคนมากขึ้น  ทั้งบทลงมือทำ  จับต้องตัว ขยำตัว มั่วไปถึงการสนทนา  แต่คราวนี้ให้ทำไปรวดทุกคนไข้ที่จ่ายชื่อมา   พอเข้าปี 5 เต็มขั้นทุกเรื่องเลย นับแต่การสนทนาเพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูล  ไปจนถึงเรื่องเพิ่มพูนรายละเอียดการจับต้อง  มีการใช้ของขลังในบรรดาที่มีอยู่  คือ ตาดู มือเคาะคลำรวมหูฟัง  ผสมผสานเครื่องมือตรวจวินิจฉัย เพื่อหาข้อมูลกันต่อไป เพื่อมาใช้สรุปโรคอะไรกันหนา  ต่อมาก็เรียนรู้วิชา วิธีสลายละลายโรคให้ยาไม่ให้ยาหรือบำบัดด้วยวิธีอื่น  โอ๊ยมีอีกมากหลาย ที่กล่าวได้ไม่หมด

 

 

 เฮฮา5 ที่สวนป่าพ่อครูบาพร่ำสอน  จะปลูกไม้ให้ได้ต้นและผล ต้องรู้ธรรมชาติของต้นไม้ แล้วรู้จักธรรมชาติของดิน รู้แล้วประยุกต์ต่อเพาะอย่างไรให้ขึ้นถ้าดินมันไม่เหมาะ และหากดินนั้นเหมาะ ก็ยังต้องเรียนรู้ดูแลดิน   บริบทของปี 3  จึงเหมือนกับตัวเมล็ดหรือกิ่งพืช  จะให้งอกหน่ออ่อนหรือรากอ่อนที่คาดหวัง  ว่าเมื่อเป็นต้นไม้ เขาคือหมอที่ดูแลคนด้วยหัวใจของความเป็นมนุษย์   การเริ่มแต่ปี 3  ถือเป็นนาทีทองสำหรับสร้างหมอรุ่นใหม่ที่อยากได้ค่ะ   มาช่วยกันสร้างให้ได้หมอที่คนคาดหวัง ในหลากหลายมุมมองเหมือนดังต้นไม้เหล่านี้

 

ต้นไม้บ้านชาวเฮ

 

( ยังมีต่อตอนต่อไป )

หมายเลขบันทึก: 184145เขียนเมื่อ 23 พฤษภาคม 2008 19:41 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 19:05 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (13)

คิดถึงหมอจ๊เโดยเฉพาะในชุดผ้าถุง และก็ทำอาหารด้วย น่ารักมาก เหมาะจะรักษาคนไข้ค่ะ

เข้ามาสนับสนุนความตั้งใจคุณหมอท่านนี้ครับ

ขออภัยคุณน้องหมอที่แอบถ่าย อิอิ

ไม่มีใครรู้ว่าคุณหมอยืนทำอะไร แต่พี่ซาบซึ้ง ในจิตใจของคุณหมอครับ

ดูซิ พาทีมงานข้ามน้ำข้ามทะเลมาอยู่สวนป่า ด้วยเจตนาที่เปี่ยมด้วยความหวังดี เพื่อสร้างสรรค์ ทีมงาน ด้วยกระบวนวิธีที่ถึงแก่นที่สุด  แล้วพี่จะมองว่าคุณหมอท่านี้เป็นคนอย่างไรล่ะ หากไม่ใช่คุณหมอของประชาชน ของสังคมที่แท้

ดอกพุทธรักษา ในความหมายของพี่คือ ขอให้พุทธานุภาพจงหนุนเนื่องผู้คิดดี ทำดีแก่บ้านเมืองท่านนี้ด้วยตลอดไปครับ น้องหมอเจ๊

หมอเจ๊

  • สวนป่า....มีให้ทุกอย่างมากกว่าที่คิด
  • เล่าอีก..เร็วๆ.....อยากรู้
  • ขอบคุณมาก

ภาพนี้ถ่ายยากมาก

แมลงตัวเล็ก อุ้มไข่ใต้ท้องไต่ไยไปมา

ใกล้ค่ำแล้ว แม่คุณยังชักใย

นี่ไง สายใยรักของแม่  

เอาไว้หมอมาจะพาไปเยี่ยม

บอกแม่แมงมุมไว้แล้ว

นักศึกษาแพทย์กลุ่มนี้โชคดีจริงๆที่ได้เจอหมอเจ๊  อิอิ

 

  • ตามมาอ่าน
  • และจะตามไปในตอนต่อไปครับ
  • อิอิ
  • นักการหนิงค่ะ....ถ้าหมอเจ๊ใส่ผ้าถุงไปรักษาคนไข้....สงสัยว่าคนไข้จะไล่ตะเพิดออกมาแน่เลยค่ะ....ก็เขาอาจจะเข้าใจผิดว่า...แม่นี่เป็นหมอปลอม.....อิอิ
  • ด้วยเหตุนี้ขอเลือกใส่เมื่ออยู่ที่ที่เรียกว่า "บ้าน"  อย่างเช่นที่สวนป่าดีกว่าค่ะ สบายตัวด้วยค่ะ
  • ขอให้พุทธานุภาพจงหนุนเนื่องผู้คิดดี ทำดีแก่บ้านเมืองท่านนี้ด้วยตลอดไปครับ น้องหมอเจ๊
  • ธุ...รับพรค่ะพี่
  • คุณเกษตรยะลา
  • อยากรู้ต้องตามไปสวนป่าค่ะ
  • สมองอันน้อยนิดของหมอเจ๊...รู้เรื่องการเกษตรไม่มากนักหรอกค่ะ....ก็จับๆประเด็นมาเล่าตามที่เข้าใจค่ะ
  • ดีใจที่เป็นประโยขน์ค่ะ
  • พ่อครูบาค่ะ....แมงมุมคือตัวอย่างที่ดีของแม่นะค่ะ
  • .......
  • นักเรียนแพทย์ที่มา...สถาบันไหนค่ะครู
  • ท่านพี่ค่ะ  หมอเจ๊ยังนึกว่า กามนิตหนุ่มจะแวะไปสวนป่าดุจสลาตันอีกครั้งเลยอ่ะ....หรือไปญี่ปุ่นเลยไปไม่ได้ค่ะ
  • น้องสิงห์ป่าสักค่ะ
  • หมอเจ๊กำลังหาเวลาว่าง...เพื่อไปไล่อ่านเรื่องการเกษตรที่น้องเขียนไว้ในบันทึก....เพื่อเปิดโลกตัวเองให้กว้างขึ้นในมุมของการเกษตรค่ะ.....
  • ........
  • วันนี้คุยกับทีมงานของหมอเจ๊ไป....เราคาดหวังกันว่างานต่อไปในชุมชนจะเบนเข็มเพิ่มมาในด้านการเกษตรปลอดภัยให้มากขึ้นค่ะ......
  • แล้วบางโอกาสนั้นอาจขอคารวะให้น้องสิงห์มาช่วยชี้แนะให้กันบ้างค่ะ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท