มัทนา
มัทนา (พฤกษาพงษ์) เกษตระทัต

พระธรรมคำสอนจากวัดลาว


ต่อเนื่องมาจากบันทึกเรื่องไปวัดลาว

พระท่านเทศน์หลายกัณฑ์มากเริ่มจาก ประวัติพระพุทธเจ้าที่เกี่ยวกับวันวิสาขะ

ไปเรื่องมรรค 8 แล้วก็มาเรื่องความสามัคคี

ท่านบอกว่า ให้สามัคคีเหมือนนิ้วของพระพุทธเจ้า อย่ามาเถียงกัน

นิ้วโป้งก็คิดว่าตนสำคัญที่สุด เป็นนิ้วปั้มลายมือ ใช้ในงานราชการ

นิ้วชี้ก็คิดว่าตนสำคัญที่สุด เป็นนิ้วเอาไว้สั่งงาน

ว่าแล้วพระท่านก็ชี้ไปที่พ่อมัคธายกที่นั่งแถวหน้าว่า เอ้าไหนยกนิ้วชี้ขึ้นมาซิ พ่อก็ยก

แล้วพระท่านก็หัวเราะแล้วพูดว่า เอ่อ เชื่อด้วย เห็นมั้ยสั่งได้จริงๆ (ฮา)

ท่านก็เล่าต่อไปว่า นิ้วกลางก็บอกว่าตนใหญ่สุดยาวสุด สำคัญที่สุด

นิ้วนางก็บอกว่าเรื่องเงินๆทองๆสำคัญ มีแหวนเพชรเค้าก็ต้องเอามาใส่นิ้วนาง นิ้วนางซิสำคัญ

นิ้วก้อย (ทุกคนก็คิดว่า เออจะมามุขไหน นิ้วก้อยเอาไว้ดีกันสำคัญที่สุดรึเปล่า)

เปล่า พระท่านบอกว่า นิ้วก้อยพูดเสียงดังว่า ฉันสำคัญที่สุดเพราะถ้าไม่มีฉันจะแคะขี้หูขี้มูกอย่างไร แล้วท่านก็ทำท่าแคะหูจริงๆ (ฮา)

พระท่านสอนต่อว่า แต่ละนิ้วต่างก็เห็นว่าตนสำคัญที่สุด แต่ไหนลองดูซิ ถ้าจะยกแก้วน้ำ ใช้นิ้วเดียวยกได้มั้ย ท่านก็ทำท่านใช้ที่ละนิ้วยก ก็ยกไม่ขึ้น ท่านบอกว่าก็นี่แหละต้องใช้ทั้ง 5 นิ้วช่วยกัน....แบบนี้.....แล้วท่านก็ยกน้ำขึ้นดื่มและทำน่าชื่นใจมาก (ฮาปิดมุขอีกรอบ)

ท่านเทศน์เป็นภาษาลาว เวลาฟังแล้วมันเพลินดีแท้เลยค่ะ

 

ส่วนตอนที่พวกเราจะไปลากลับบ้าน

ท่านสันติก็คุยด้วยอย่างไม่เป็นทางการ ท่านถามพวกเราว่า

รู้จักมั้ย suffering น่ะ  อาตมาถามวัยรุ่นลาวที่โตที่นี่ น้อยนักทีจะบอกว่ารู้จัก

ต้องรู้จักไว้นะ

คนที่ทุกข์อยู่อาตมาจะบอกว่า ทุกข์ come and go ทุกข์ตอนนี้สุขตอนหน้า

แต่ไอ้พวกที่สุขๆอยู่เนี่ยะ ระวังไว้นะ สุขตอนนี้จะทุกข์ตอนหน้า (โดนใจกันไปหลายคน โดยเฉพาะคนที่ยังไม่ส่งงาน แต่หนีมาเที่ยว)

แล้วท่านเห็นว่าพวกเราวัย 20 ปลายๆ 30 ต้นๆ ท่านก็บอกว่า เรียนดีๆนะ ตั้งใจเรียน

เรียนรู้แล้วต้องเรียนรักด้วย ต้องรักให้เป็น (โดนกันไปอีก 2-3 คนที่กำลังมีปัญหาหัวใจ)

รักให้ถูกคือต้องรักตัวเองด้วย รักตัวเองคือทำตัวเองให้ดีซะก่อน

แล้วท่านก็ยิ้ม

เปลี่ยนเรื่อง บอกว่าอยู่ที่นี่สู่อยู่เมืองไทยไม่ได้ อยู่นี่อยู่กัน 2 รูป แต่ก่อนอยู่รูปเดียว จะภาวนาที ก็มีโทรศัพท์ดัง โทรกันมาแล้วปรึกษาปัญหาหัวใจ ปัญหาคน จะภาวนาๆก็มาอีกแล้ว กริ๊งๆ แล้วท่านก็บอกว่าแต่แปลกนะ พอจะไม่ภาวนา ก็ไม่เห็นมันจะโทรมากัน (ฮาอีก)

ที่วัดมีป้ายอยู่ 2 ป้าย ที่เขียนว่า ถ้าห้ามน้ำไม่ให้ไหลได้เมื่อไหร่ ห้ามไฟไม่ให้ไหม้ได้เมื่อไหร่ คนเราถึงจะไม่นินทา

สงสัยจะมีคนมาปรึกษาท่านเรื่องนี้มาก

ตอนที่พระรูปเล็กเทศน์ในศาลาท่านก็เน้นเรื่องนี้ บอกว่า เวลามีคนมาว่า ถ้าเค้าพูดไม่จริงเราจะไปโกรธทำไม แล้วถ้าเค้าพูดจริงเราก็ยิ่งไม่ควรโกรธ ต้องน้อมรับไว้ในใจด้วยซ้ำ

ส่วนอีกเรื่องที่ท่านเน้นมากๆวันนี้คือ ความกตัญญูกตเวที ท่านบอกว่าวันวิสาขบูชา เราน้อมรำลึกถึงพระพุทธคุณ แต่ว่าจริงๆเราทำได้ทุกวัน แล้วอย่าลืมนึกถึงพ่อแม่ด้วย ให้นึกถึงหน้าพ่อแม่ทุกวันก่อนนอน เป็นนักเรียนก็ให้นึกถึงหน้าครูบาอาจารย์ด้วย ถึงตอนนี้ใครได้ครูดีก็ซึ้งในคำเทศน์พยักหน้าหงึกหงัก ใครได้ครูไม่ดีก็หันหน้ามามองกัน ทำหน้าเหวอ ส่ายหน้า ไม่เอาๆ (ฮา) : )

 

หมายเลขบันทึก: 183336เขียนเมื่อ 20 พฤษภาคม 2008 03:35 น. ()แก้ไขเมื่อ 16 มิถุนายน 2012 18:29 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (10)

สวัสดีครับคุณมัท

    บันทึกนี้จับใจจริงๆ ครับ โดยเฉพาะหมัดเด็ดๆ แต่ละมุกนะครับ นี่แค่นิ้วนะครับ ทำให้ผมนึกถึงพระที่นี่เช่นกันครับ แต่ผมไม่ค่อยได้ไปบ่อยนักครับ ไปตามช่วงที่มีโอกาสครับ ข้อคิดจากพระท่านตอนได้มาอยู่ไกลบ้านไกลเมืองนี่สำคัญเหมือนกันครับ มีข้อคิดให้คิดต่อครับ

ขอบคุณมากๆ เลยครับ

สวัสดีค่ะคุณเม้ง

มัทเข้ามาจะมาบันทึกเสริมเพราะนึกขึ้นได้ว่า ตอนกราบลาท่านท่านให้พรว่า

"ปรารถนาสิ่งใดถ้าอยู่ในทำนองคลองธรรมขอให้สมหวัง"

เป็นการให้พรที่ดีจริงๆเนอะคะ : ) ขอบคุณคุณเม้งมากๆค่ะที่แวะเข้ามา

 

ขอขอบพระคุณอาจารย์มัทนา...

  • เป็นข้อคิดที่ดูเหมือนง่าย ทว่า... ลึกมากๆ เลย
  • ขอกราบอนุโมทนาในกุศลเจตนาครับ... สาธุ สาธุ สาธุ

รักให้ถูกคือต้องรักตัวเองด้วย รักตัวเองคือทำตัวเองให้ดีซะก่อน

เป็นอะไรที่เยี่ยมสุดยอดเลย

สวัสดีค่ะคุณมัท ไม่ได้พบกันนานแล้วนะคะ เห็นรูปใหม่คุณมัทดูหน้าตาผ่องใส แจ่มใสเหมือนเดิมในลุคใหม่ พี่มีปัญหาเรื่องโพสต์ติดต่อกันไม่ได้มานานหลายสัปดาห์ค่ะ ก็ลองไปเรื่อยๆ บางทีก็โพสต์ได้ บางทีก็ไม่ได้ แต่ได้แวะเข้ามาเป็นครั้งคราว

ธรรมะเป็นสิ่งที่ทำให้ชีวิตมีความสุขจากความรู้ตัว มีสติจริงๆค่ะ เป็นสิ่งที่ทนยุคสมัยเสมอ และทุกครั้งที่มีการบรรยายธรรมะเป็นต้องโดนใจหลายๆคนเลยล่ะค่ะ

ขอบคุณที่นำความสุขนี้มาแบ่งปันกันนะคะ

สวัสดีค่ะคุณหมอวัลลภ

ดีใจมากๆที่อ.แวะมาค่ะ เดี๋ยวมัทจะแวะไปบ้านโน้นบ้าง

ขอบคุณประจักษ์ มากค่ะ

ท่านธีรธัมโม เคยเล่าให้ฟังว่า เหตุผลหนึ่งที่ท่านสนใจศาสนาพุทธก็เพราะคำสอนนี้ค่ะ
 เพราะศาสนาคริสต์สอนให้รักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง แต่ท่านคิดในใจว่า อ้าวฉันยังรักตัวเองไม่เป็นเลย แล้วถ้าฉันไม่รักตัวเอง ไม่ชอบที่ตัวเองเป็นอยู่ฉันจะไปรักเพื่อนบ้านยังไง : )

ดีใจมากเลยค่ะที่คุณนายดอกเตอร์แวะมา

มัทเห็นด้วยค่ะ ธรรมะทันทุกยุคสมัย : )

ขอบคุณมากๆนะคะ

สวัสดีค่ะ อ.มัท

เข้ามาทักทายและขอบคุณที่เผยแพร่คำสอนดีๆนะคะ

อยู่ที่เพิร์ธ ก็ไปฟังเทศน์ที่วัด ตามที่อ.มัทเคยส่ง ลิงค์ของเว็บไซด์มาให้ ขอบคุณมากๆค่ะ อาจารย์พรหม ก็สอนคล้ายๆ กันค่ะ รู้สึกดีใจที่ได้เรียนรู้ธรรมะมากขึ้นค่ะ เอามาใช้กับชีวิตได้ดีทีเดียวค่ะ

ยังติดตามอ่านบันทึกอ.มัท เรื่อยๆ นะคะ เป็นกำลังใจให้อาจารย์เขียนบันทึกน่าอ่าน อย่างนี้ไปนานๆนะคะ

คิดถึงค่ะ

สวัสดีค่ะคุณศิริกุล ขอบคุณที่ติดตามเป็นเป็นกำลังใจเสมอมานะคะ : ) 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท