052 สรุปผล....ปรากฏการณ์บุญ ของ Gotoknow อาสาสมัครคนแรกที่กุสินาราคลินิก


ไม่มีอะไรตอบแทนทั้งสิ้น นอกจากบุญ..................... และผลบุญ

   ขออนุญาต นำรายละเอียดเกี่ยวกับ กุสินาราคลินิก อันเป็นสถานที่เกิดเหตุ ปรากฏการณ์บุญในครั้งนี้ ได้คัดลอกมาจากบันทึกของคุณพลเดช  วรฉัตร  บันทึกที่ ๑๕๑  ที่บันทึกหลังจาก ท่านได้ไปอุปสมบท ถวายพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเรา ในปีมหามงคล ครบ๘๐ พรรษา ในครั้งนั้นได้เดินทางมายังวัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ และณ ที่แห่งนี้ คุณพลเดชได้บังเกิดจิตกุศลอันสูงส่ง และศรัทธาในการก่อตั้ง กุสินาราคลินิก และปรารถนาให้มีบุคลากรทางการแพทย์จากประเทศไทย มาเป็นอาสาสมัครช่วยงานที่นี่ และได้ลงบันทึก ประกาศให้ทราบกันในเวลาต่่อมา และผู้เขียนจึงได้สมัครขอเป็นอาสาสมัครมาปฏิบัติงานโดยมิได้หวังผลตอบแทนใดๆ ไม่มีข้อแม้และเงื่อนไข ซึ่งจะได้บันทึกให้ทราบในโอกาสต่อไป

ประวัติความเป็นมาของกุสินาราคลินิก

 

 

 

 

 

กุสินาราคลินิกก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม  ค.ศ 2000 เพื่อเฉลิมฉลองเนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหา มหาราชินี  ซึ่งใน โอกาสนั้น สถานเอกอัครราชทูต ณ นิวเดลี โดยเอกอัครราชทูตธวัธชัย ทวีศรี (ในขณะนั้น)  วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์และมูลนิธิ Harnam Singh Harbans Kaur Charitable Trust New Delhi ได้ร่วมกันตั้งขึ้นในบริเวณวัดไทยกุสินาราเพื่อให้การรักษาพยาบาลแก่คนยากจนในท้องถิ่นกุสินาราและรอบข้าง ซึ่งที่ผ่านมา 6 ปี ปรากฏว่าคลินิกกุสินาราได้ให้การรักษาพยาบาลคนป่วยไปแล้วกว่า 2 แสนคน รวมทั้งผู้แสวงบุญจากทุกประเทศที่ไปเยือนกุสินารา

 

 

 

 

ต่อมาเมื่อเห็นประโยชน์ของการให้บริการดังกล่าว ผู้ร่วมก่อตั้งก็ได้จัดสร้างอาคารคลินิกใหม่เพื่อรองรับผู้ป่วยได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งในวันที่ 1 มีนาคม 2005 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จแทนพระองค์เป็นประธานวางศิลาฤกษ์อาคารคลินิกหลังใหม่ ซึ่งคาดว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จภายในปี 2009 และล่าสุด เมื่อวันที่  2 พ.ค. 2007 ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีอินเดียได้ให้เกียรติไปทำพิธีเปิดห้องตรวจรักษาที่สร้างเสร็จในขั้นแรกอย่างเป็นทางการ  นับเป็นความสำเร็จที่น่าชื่นชม แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลอินเดียได้ตระหนักถึงบทบาทของพระธรรมทูตไทยและงานของคนไทยที่ดำเนินการผ่านวัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์เป็นอย่างมาก ปัจจุบันมีพระราชรัตนรังษี ประธานสงฆ์ เป็นผู้นำศรัทธาการก่อสร้าง มีพระครูปลัด ดร.คมสรณ์  คุตตธมฺโม เป็นผู้อำนวยการดูแลและบริหาร

          คลินิกแห่งนี้เป็นการสร้างเพื่อเป็นพุทธอนุสรณ์แห่งการประชวรหนัก ด้วยพระปักขันธิกาพาธของพระพุทธองค์ ก่อนการเสด็จดับขันธปรินิพพาน ณ กุสินารานคร ทั้งยังเป็นเสมือนสะพานบุญเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับอินเดียที่ควรจะได้รับการสนับสนุนต่อไป

         ปัจจุบันคลินิกมีแพทย์ 2 คนเภสัชกร 3 คน ผู้ช่วยพยาบาล 1 คนซึ่งเป็นขาวอินเดีย ประจำอยู่ (ยังไม่มีนางพยาบาล ) ซึ่งไม่เพียงพอต่อความต้องการและจำนวนผู้มาใช้บริการ ทั้งนี้ คลินิกคิดค่ารักษาพยาบาลเพียง 8 รูปี หรือถ้ายากจนไม่มีเงิน ก็ไม่คิด และเปิดรักษาฟรีในทุกวันพระสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 8 ปี และผู้สูงอายุเกิน 60 ปี  โดยเฉลี่ยจะมีคนไข้มาทำการรักษาประมาณวันละ 150 -200 คน 

 

 

 

 

         การไปเป็นอาสาสมัครช่วยงานที่คลินิกกุสินาราถือเป็นงานมหากุศลสำหรับอาสาสมัครจากประเทศไทยซึ่งคงไม่เป็นงานสบายเลย แต่ถือว่าต้องไปสร้างบุญบารมีในแดนพุทธภูมิ ไปเห็นและสัมผัสกับวิถีชีวิตของคนอินเดียที่ยากจนและได้เรียนรู้สาระของชีวิตที่มีคุณค่า

โครงการส่งอาสาสมัครหมอ/พยาบาลไปช่วยคลินิกกุสินารานี้ เป็นโครงการเล็กๆ ที่เกิดขึ้นอย่างอัศจรรย์ใน www.GoToknow.org ทำให้มีการจัดพิมพ์หนังสือ "หนึ่งคนวาด หนึ่งคนแต่ง" จำหน่ายเพื่อนำรายได้ไปใช้เป็นค่าเครื่องบินและค่าใช้จ่ายที่จำเป็นสำหรับอาสาสมัครในการไปปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าว เท่านั้นโดยไม่มีอะไรตอบแทนทั้งสิ้น นอกจากบุญ..................... และผลบุญ ที่ อาสาสมัครหรือผู้ที่ทำบุญส่งอาสาสมัครไปจะได้แน่นอนก็คือ อนิสงส์ แห่ง พระพุทธพจน์ ที่ตรัสว่า  อโรคยา ปรมา ลาภา  ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ  ในชาตินี้และทุกๆ ชาตินั่นเอง

ด้วยความปรารถนาดี

( คัดลอกมาจากบันทึกคุณพลเดช วรฉัตร http://gotoknow.org/blog/poldejw/152708 )

หมายเหตุ ปรับปรุงข้อมูลด้านบุคลากร

หมายเลขบันทึก: 183271เขียนเมื่อ 19 พฤษภาคม 2008 17:41 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 00:07 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)
  • ติดตามอ่านเพื่อความต่อเนื่อง
  • อันบุญบารมีที่ทั้งท่านทูตพลเดชและคุณรุ่ง
  • ร่วมกันสร้างเพื่อช่วยเหลือผู้ทุกข์ยากนั้นนับเป็นบุญกุศลใหญ่หลวงนัก
  • ใช่ว่าทุกคนจะทำได้
  • ถือว่าเป็นคนมีบุญจึงได้สานต่อบุญและบารมียิ่งขึ้น
  • ขออนุโมทนาค่ะ

เพิ่งเคยได้ทราบประวัติกุสินาราคลีนิค

อนุโมทนาบุญค่ะ

สาธุ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท