เมื่อพรรคประชาธิปัตย์ต้องสู้กับ "เงา"ของทักษิณ


นี่ขนาดต่อสู้กับ "เงา"ของทักษิณ ยังเหนื่อยขนาดนี้ หากปล่อยทักษิณออกจาก "ขวด" เลขที่ 111 จะเหนื่อยกันขนาดไหน?

 

          ๐ผมเป็นคนปักษ์ใต้   เลยมีพรรคพวกเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์มากหน้าหลายตา  บางท่านไม่ได้เป็นสมาชิก แต่ก็เป็นยิ่งกว่าสมาชิก คือเป็นแฟน พันธุ์แท้ของประชาธิปัตย์

 

         นอกจากมีพรรคพวกเพื่อนฝูงเป็นสมาชิกพรรค และหลายคนเป็นแฟนพันธุ์แท้ของพรรคเก่าแก่ที่ชื่อว่า "ประชาธิปัตย์" แล้ว  นายหัวของผม ซึ่งผมฝากเนื้อฝากตัวเป็นศิษย์ฝึกวิชาว่าความให้ผม เป็นถึงรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ คือท่านวิทยา แก้วภราดัย อันเป็นที่เคารพรักของชาวเมืองคอน

 

          ซึ่งปัจจุบันท่านรองวิทยา แก้วภราดัย ทำหน้าที่รัฐมนตรีเงาอยู่ด้วย

 

           ย้อนหลังไปสมัยที่ผมเรียนอยู่ที่รามคำแหง ประมาณ ปี2526-2530 ผมกับเพื่อนพ้องน้องพี่หลายคน เคยร่วมกิจกรรมในนาม "ยุวประชาธิปัตย์" และช่วยรณรงค์เลือกตั้งหลายครั้งหลายครา เดินเข้าออกพรรคนี้เป็นว่าเล่น

 

             สมัยนั้น ที่ทำการพรรคยังคับแคบ  รั้วที่ทำการอยู่ติดกันกับบ้านอดีตจอมพลท่านหนึ่ง ซึ่งเรืองอำนาจยุคก่อน 14 ตุลา 16 นั่นแหละ

 

                ถ้าจะว่าไปแล้ว ผมก็แฟนพันธุ์แท้ของพรรคคนหนึ่งเช่นกัน

 

                ฉะนั้นการแสดงความคิดเห็นใดของผมต่อไปนี้ มีหลักประกันว่า ไม่มีทางเลยที่จะมีอคติกับพรรคประชาธิปัตย์   ขอให้แฟนพันธุ์แท้ ชนิด "หลับหู หลับตา เชียร์" อย่าได้ใส่ร้ายผม ว่ามี "อคติ" อย่างเด็ดขาด

 

                เมื่อผมเป็นแฟนพันธุ์แท้ของพรรคประชาธิปัตย์ ก็ย่อมไม่ชอบ ไทยรักไทย   พลังประชาชน  และพรรคอื่นๆแทบทุกพรรค

 

               ทีไม่ชอบ เพราะมีเหตุผลรวมๆหลายประการครับ  เช่น..  พรรคการเมืองอื่นๆ ต่างกับพรรคประชาธิปัตย์ ดังนี้ครับ..

 

                1.เป็นพรรคเฉพาะกิจ เกิดมาเพราะบารมีของหัวหน้าพรรค และดับไปพร้อมความเสื่อมถอยของหัวหน้าพรรค  แต่พรรคประชาธิปัตย์ ไม่เคยล้มหายตายจากไปพร้อมหัวหน้าพรรค มีบุคคลกรของพรรค รองรับภาระกิจมาโดยตลอด

 

                 2.เป็นพรรคของนายทุน ขุนศึก กล่าวคือพรรคอื่นๆ เกิดมารองรับนายทุน และขุนศึก ศักดินาที่จะมาเล่นการเมือง แต่พรรคประชาธิปัตย์ พัฒนาไปอีกขั้นหนึ่ง คือไม่จำเป็นต้องเป็น นายทุน”  หรือ ขุนศึก ก็ไต่เต้าขึ้นเป็นผู้บริหารพรรคได้ ดูท่านชวนเป็นตัวอย่าง พูดง่ายๆ พรรคประชาธิปัตย์ขับเคลื่อนด้วยนักการเมืองอาชีพ  ส่วนกลุ่มทุนสนับสนุน  ต้องอยู่ข้างหลัง ห้ามนำพรรคเด็ดขาด หากจะเข้ามาบ้าง ก็สามารถรักษาสัดส่วนนักการเมืองอาชีพเอาไว้ได้ มิให้ดูน่าเกลียดจนเกินไป

 

                  3.พรรคการเมืองอื่นๆ สื่อสารกับสังคมไม่เก่ง ไม่เครียร์ ดูเสมือนไม่โปร่งใส แต่พรรคประชาธิปัตย์สื่อสารทางการเมืองได้ดีกว่า เมื่อพูดให้สังคมเข้าใจได้ จะผิดถูกอย่างไร ก็มิใช่เรื่องสำคัญ การสื่อสารที่มีเนื้อหาดี แต่อู้อี้ในลำคอจนสังคมฟังไม่รู้เรื่อง  ก็ไม่มีประโยชน์ เช่น ท่านพลเอกเชาวลิตรฯ ท่านเป็นคนดี มีความคิดที่เป็นเลิศ แต่พูดกี่ครั้งๆ คนก็ไม่รู้เรื่อง แม้แต่ผมยังไม่ชอบฟังท่านพูดครับ ชอบอ่านที่ท่านเขียนหรืออ่านจากสื่อที่สรุปมาให้อ่านจะดีกว่า

 

                  นอกจาก 3 ประเด็นหลัก คงไม่มีอะไรที่ทำให้ พรรคประชาธิปัตย์ เป็นขวัญใจของผม และของคนอื่นๆอีกด้วย

 

                  แต่ปัจจุบัน สังคมเปลี่ยนไป  ผู้คนมีการศึกษาเพิ่มมากขึ้น  ช่องทางสื่อสารและการรับรู้ของคนมีมากขึ้น ทัศนคติและค่านิยมของประชาชนที่มุ่งหวังต่อนักการเมืองเปลี่ยนไปมาก

 

                 ที่สำคัญ.....คู่ต่อสู้ของพรรคประชาธิปัตย์ได้เปลี่ยนไปแล้วครับ

 

                  คู่ต่อสู่ของพรรคประชาธิปัตย์ มี 2 อย่าง

 

                  1.พรรคการการเมืองฝ่ายตรงกันข้าม ได้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง แต่เดิมพรรคประชาธิปัตย์  มีคู่ต่อสู้บนเวทีการเมือง เป็นพรรค เฉพาะกิจ ไร้ชั้นเชิงทางการเมือง เพราะเป็นประเภท พ่อค้า หรือทหาร ที่อยากมาเล่นการเมือง บางคนพูดไทยยังไม่ชัด บางคนติดยึดกับระบบราชการทหาร  กลุ่มการเมืองพวกนี้จึงเป็นได้แค่ "เป้า" ให้ ประชาธิปัตย์ซัดเสียจนอ่วมอรทัย

 

                   แต่ปัจจุบัน ...มิใช่อดีต.... ปัจจุบัน ทุนทักษิณ...ร่วมหัวจมท้ายกับทุนใหญ่อื่นๆ พวกนี้นอกจากมีเงินทุนหนาแล้ว ยังพูดไทยชัด พูดภาอังกฤษคล่อง แถมเข้าใจภาษาโลกด้วย ภาษาโลกคือ  การบริหารจัดการที่เป็นวิทยาศาสตร์ ครับ มีการตลาด การประชาสัมพันธ์ มีการวิจัย  (มิใช่การวิจารณ์นะครับ)

 

                  2.ความต้องการของสังคมไทยได้เปลี่ยนไปแล้ว ในอดีต คนไทยส่วนมากถึง 80 เปอร์เซ็นต์  เข้าถึงข้อมูลที่เป็นประโยชน์ของปัจจเจกชนได้น้อย  ผู้มีอำนาจรัฐและผู้กุมสื่อ จึงตอบสนองให้เฉพาะชนชั้นกลาง และชนชั้นสูง (เนื่องจากมีพลังทางการเมืองที่แท้จริง) คนเหล่าได้รับประโยชน์ทางเศรษฐกิจ  ส่วนคนชั้นล่าง แม้ได้รับแบ่งปันโภคทรัพย์ ก็ได้ไปอย่างไม่เป็นธรรม แต่ก็สามารถใช้ความเหนือกว่าตบตาให้เห็นว่าได้จัดสรรไปอย่างเป็นธรรมแล้ว

 

                  แต่ปัจจุบัน....สังคมไทยได้เปลี่ยนไปแล้ว ชนชั้นล่างอันต่ำต้อย..ที่เรียกกันว่า รากหญ้า”  ผู้ไม่เคยได้รับแบ่งปันโภคทรัพย์อย่างชนชั้นกลาง และชนชั้นสูงมาก่อน   เมื่อทักษิณ  ประกาศนโยบายเพื่อคนจน...แม้ในช่วงนั้น จะถูกเย้ยหยันว่าทำไม่ได้ ส่วนประชาชนชาวรากหญ้า แม้จะไม่ค่อยเชื่อว่าจะทำได้จริง(เพราะเคยถูกนักการเมืองหลอกจนชาชิน) แต่เมื่อทักษิณ ทำได้จริง  ก็ย่อมได้ใจคนจน

 

                   เมื่อได้ใจกันก็ย่อมตายแทนได้  อย่าว่าแต่กาบัตรเลือกตั้งเลย  ของเล็กไป

 

                  อย่าลืมว่า คนจนทั้งหลาย เขาจนแต่เงินนะครับ แต่เขารู้ว่า......รัฐบาลทุกยุค ใช้เงินไปกับการกลบหนี้เน่าของสถาบันการเงิน ซึ่งคนโกงแบงค์  และได้ประโยชน์ มิใช่ชาวรากหญ้า

 

                     คนจนรู้ว่า....รัฐบาลทุกสมัย ใช้เงินไปกับโครงการขนาดใหญ่ ที่ผู้ได้รับประโยชน์ เป็นกลุ่มทุนการเมือง และพวกพ้องในชนชั้นสูง  ผู้รับเหมาอะไรทำนองนั้นแหละ ชาวรากหญ้าหาได้ประโยชน์ใดไม่

 

                    เมื่อทักษิณ หยิบยื่นเครื่องชูชีพให้คนใกล้จมน้ำตาย  แม้จะไม่ดีพอ ก็ยังดีกว่าจมน้ำตายไปต่อหน้าคนรวยๆ

 

                    เมื่อคนจนชอบทักษิณ....ก็เกิดปัญหา2 ประการ

 

                     1.จะยุบพรรคการเมืองที่ชื่อ ไทยรักไทย ก็ต้องมีพรรค พลังประชาชนจะยุบ พลังประชาชน ก็ต้องมีพรรค พลังราษฎร  จะยุบพรรค พลังราษฎร ก็มีพรรค พลังคนจนจะยุบพรรคการเมืองไหนซักกี่พรรค กลุ่มการเมืองที่ชาวรากหญ้าเลือก ต้อง เป็นพรรค ที่อยู่ภายใต้ร่มเงา ทักษิณ จะขัง 111 นักการเมือง ก็ย่อมมีทายาทรุ่น 2 จะขังทายาทรุ่น 2 ก็ย่อมมีรุ่น

 

                        นี่มิใช่เพราะเหตุใด นอกจาก การประจบรวมกันของ 3 ประสาน 1.มีทุนใหญ่ 2.มีนโยบายต้องใจ 3.มีการบริหารจัดการแบบใหม่(การจัดองค์กรแบบใหม่) คือการเป็น เจ้าของพรรคโดยไม่จำเป็นต้องเป็นผู้เล่น ก็เหมือนกับการเป็นเจ้าของทีมฟุตบอล โดยไม่จำเป็นต้องเล่นฟุตบอลเป็น

 

                       2.ความแตกแยกในสังคม อันเหตุมาจากชนชั้นสูง และชนชั้นกลาง เริ่มได้รับส่วนแบ่งด้านเศรษฐกิจน้อยลง   อีกทั้งชนชั้นสูง และชนชั้นกลางที่อยู่นอกกลุ่มทักษิณ เสียพื้นที่ทางการเมือง ไร้ที่ยืน ถูกทอนอำนาจ ถูกลดความสำคัญลง   ปัญหาความแตกแยกจึงเกิดขึ้นให้เห็นอยู่ในปัจจุบันและในอนาคต

 

                        สำหรับพรรคฝ่ายค้านสำคัญอย่างประชาธิปัตย์ ก็อย่างรีบถอดใจว่าจะเป็นฝ่ายคานไปนานแสนนาน อย่าได้กลัวเป็นฝ่ายค้าน เพราะการเป็นฝ่ายค้านมีโอกาสสร้างผลงานให้พรรค แต่ที่ต้องตระหนักคือ ประเด็นในการทำหน้าที่ฝ่ายค้านควรเปลี่ยนไปด้วย หากยังหยิบประเด็นหยุมหยิม ไม่อาจทำร้ายความ "มหึมา"ของกลุ่มทักษิณได้

 

                          ประเด็นการค้านจึงต้องอยู่บนพื้นฐานที่ถูกต้อง เป็นจริง เป็นประโยชน์กับประชาชนโดยส่วนรวม

 

                        โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การดึงสถาบันเบื้องสูง อันเป็นที่เคารพบูชาของคนไทยทั้งชาติ เป็นสถาบันที่ทุกคนยอมรับโดยพฤตินัยและโดยกฎหมาย มาเป็นประโยชน์ทางการเมือง ไม่บังควรอย่างเด็ดขาด  หากมองด้วยสายตาที่เป็นธรรมแล้ว ผมเชื่อว่า ไม่มีคนไทยคนไหนจะคิดร้ายต่อสถาบันหลักของชาติอย่างแน่นนอน

 

                          ฉะนั้นในยุคนี้ การดึงเอาสถาบันอันเป็นที่เคารพสูงสุดของคนไทย มากล่าวหาทางการเมือง เป็นเรื่องไม่บังควรอย่างยิ่ง

 

                           หากสงสัยว่ากรณีใดเป็นการทำผิดกฎหมาย ก็ไปร้องทุกข์กับตำรวจ ให้นำคดีไปสู่ศาลยุติธรรมจะเป็นประโยชน์และเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

 

                            ประเด็นการค้านจึงควรเป็นเรื่อง ความไม่ชอบมาพากลในการบริหาร   หรือการบริหารที่ไร้ประสิทธิภาพ ก่อผลร้ายต่อเศรษฐกิจ สังคม  ต่างหาก  ที่สำคัญควรเสนอทางออกที่เหนือกว่าวิธีการบริหารของรัฐบาลควบคู่ไปด้วย มิใช่มุ่งให้รัฐมนตรีคนหนึ่งคนใดต้องติดคุก หน้าที่ดังกล่าวเป็นเรื่องของตำรวจ อัยการ และศาลยุติธรรม

 

                           ท่านเชื่อหรือไม่ว่า หากนายจักรภพ เพ็ญแข  ติดคุก จะมีคนอย่างจักรภพ ที่ทักษิณปั้นเสกขึ้นมาใหม่ได้อีกหลายร้อยหลายพันคน

 

                         การต่อสู้กับพรรคการเมืองภายใต้ร่มเงาของ ทุนทักษิณ จึงต้องมียุทธศาสตร์ใหม่

 

                         นี่ขนาดต่อสู้กับเงาทักษิณยังเหนื่อยขนาดนี้  หากทักษิณออกมาจาก "ขวด" เลขที่ 111 ได้ จะเหนื่อยกันขนาดไหน?

หมายเลขบันทึก: 182939เขียนเมื่อ 17 พฤษภาคม 2008 12:43 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 00:04 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (12)
  • ติดตามเรื่องนี้จน เชื่ออย่างหนักแน่นว่าแผ่นดินไทยเป็นแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ค่ะ  มีองค์พระสยามเทวาธิราชคอยปกป้องและปัดเป่าเสนียดจัญไรของแผ่นดิน
  • เพียงแต่เมื่อกาลเปลี่ยนไป  เล่ห์กลในการบิดเบือนการรับรู้ของผู้คนในสังคมนั้นหลากหลายและซับซ้อน ประกอบกับผู้เกี่ยวข้องหลายระดับ สามัคคีกันลดศักดิ์ศรี และขาดความตะหนักในหน้าที่และบทบาทอย่างรุนแรง
  • เข้าใจว่า การให้การศึกษา การฝึกนิสัยในการแสวงหาความรู้และตรวจสอบข้อเท็จจริง  และการเมืองภาคประชาชนคือคำตอบค่ะ                 

- ขอเป็นกำลังใจให้ ปชป.ด้วยค่ะ

- ต้องสู้กันอีกหลายกระบวนท่า

  • คุณธัญศักดิ์ วิเคราะห์ยอดเยี่ยมจริง ๆ ครับ
  • อยากให้สมาชิกพรรค ปชป.เข้ามาอ่าน
  • การเตรียมการต่อสู้ ของ ปชป.ต้องปรับเปลี่ยนยุทธวิธีอีกเยอะมาก
  • ผมเชื่อว่า ปชป.ต้องทำแผนระยะยาว แล้วไปทีละขั้น แบบว่าบันใด 5-6 ขั้น แบบสั้น ๆ 1-2 ปี คงจะยาก(ยกเว้นว่า ฝ่ายตรงกันข้ามเกิดอุบัติเหตุ "สะดุดขาตนเองแบบสุด ๆ"
  • ผมเป็นคนใต้ แต่วางตัวกลาง ๆ นะครับ(แต่เกลียดสุด ๆ คือ การปฏิบัติ-ผมรับไม่ได้ แม้สถาการณ์บ้านเมืองจะวิกฤติขนาดไหนก็ตาม ชีวิตนี้ จะไม่ยอมรับการปฏิวัติโดยเด็ดขาด)

อิ..อิ..อยากซ๊ะแด็งความคิดเห็นอยู่หร่อกค่ะ..แต่..อนาคตราชการยังอีกยาวไกลลลลลล..เอาแค่นั่งอมยิ้มแล้วกันค่ะ..

              Th_09-04-08_greeting03

ประชาธิปัตย์ เป็นพรรคการเมืองครับ และมีระบบที่ชัดเจน ผมเห็นด้วย และก็คิดว่านี่คือพรรคการเมืองของประเทศไทยเพียงพรรคเดียวด้วยซ้ำในเวลานี้

ส่วนพรรคอื่น ๆ คือกลุ่มผลประโยชน์หรือกลุ่มป้องผลประโยชน์ซะมากกว่า

ในเรื่องกลยุทธ์ของ ปชป.แล้วน่าคิด ไม่รู้ว่าขุนพลด้านวิสัยทัศน์ นโยบายมีใครบ้าง ออกนโยบายมาแต่ละทีผมหายใจไม่ทั่วท้อง ( มันไม่ได้แตกต่างจากคู่แข่งที่แต่งสีสันไว้มากมายอยู่แล้ว ) ผมเอาใจช่วย ปชป.อยู่ เพราะเหตุผลข้อสำคัญคือ ระบบของพรรค

ส่วนเรื่องระบบการเมืองการปกครองของไทยที่ปัญหาคือหลายสิ่งที่พี่กล่าวมาทั้งหมดมันเป๊ะเลย

แล้วในฐานะพรรคการเมือง ปชป.ก็ต้องมองที่ประชาชนให้มาก บางทีที่ผ่านมาการดูแลผลประโยชน์เฉพาะบางกลุ่ม ปชป.ก็ติดกับดักนี้มานานมากเหมือนกัน

การเป็นพรรคการเมือง ปชป.เป็นได้อย่างดี แต่การเป็นพรรคของมวลชน ผมก็ไม่เห็นว่า ปชป.เป็นได้ดีเกินกว่าพรรคอื่น ๆ นัก

เรื่องอดีตนายก ไร้คำบรรยายจริง ๆ ครับ ผมแค่อยากพูดถึงความเป็นมาของความร่ำรวย

การได้สัมปทานอากาศ แล้วดูดเงินคนทั้งชาติ ไปกองที่บริษัท แล้วนำเข้าเทคโนฯต่างชาติ มันก็ไม่เท่ห์นักหรอกครับ ประเทศจน แต่คนไม่กี่คนร่ำรวย

ผมว่าการทำให้ประเทศมั่งคั่งคุณอดีตนายกแทบไม่ได้ทำอะไร สู้แรงงานไทย กับหญิงบริการไม่ได้ด้วยซ้ำ เขาเหล่านั้นทำเงินเข้าประเทศเรามากมาย

ใช้พื้นที่บ่นไปนิดครับ ขอบคุณมากครับ

ดีที่ได้วิเคราะห์ วิจารณ์ ออกมา เชื่อว่าต้องมีผลลัพธ์อย่างใดอย่างหนึ่ง จะสมดังเจตนาที่อุตส่าห์พรรณาหรือไม่ ไม่อาจตอบได้

เดิมเคยชื่นชอบพรรคปชป ที่บังอาจสถาปนาเป็นสถาบัน ปัจจุบันนี้เห็นว่าเป็นแหล่งกำเนิดความชั่วร้ายไม่ใช่เพราะมีพรรคนายทุนอยู่ในใจแต่ประการใด แต่เพราะความเสื่อมที่เกิดจากเนื้อในของปชป นั่นเอง ขณะนี้ถามว่าปชป รักชาติแต่ปากหรือไม่ เทิดทูลสถาบันหรือไม่ หากมีวิจารณญานที่ดีคงรู้ได้ไม่ยาก

เชื่อหรือไม่ไปว่าความ ทนายฝ่ายตรงข้ามเป็นคนใต้ แต่ทัศนะเขาก้าวไกล ไม่ยึดติด ไม่งมงาย

สุดท้าย ใกล้วันเกิดสนธิ ลิ้มทองกุล แล้ว ปีนี้ห้วหน้าพรรคปชป อย่าลืมเอากระเช้าดอกไม้ไปอวยพรด้วยล่ะ ปีก่อนเห็นรูปตบไหล่แล้วประทับใจมาก ปีนี้เก็บรูปตอนรูปหัวมาฝากด้วย

เข้าไปอ่าน ราชดำเนิน พันทิพย์กันหน่อย ข้อมูลใหม่ๆมีตลอด และส่วนมากเป็นกระจกให้ ปชป.เอาไว้ส่องหน้า

จะเห็นธาตุแท้ของคนที่เรียกตัวเองว่า คนซื่อสัตย์ แต่ขาดศีลข้อ 3 4

ไม่รู้ ลูกใคร

ถ้าภาคใต้ไม่เลือก ปชป.พรรคนี้จะเหลือสักกี่คน (น่าจะเปลี่ยนเป็น "ประชาธปักษ์" เสียมากกว่า ก่อนเคยชอบแต่เดี๋ยวนี้เปลี่ยนใจ เพราะไม่มีอะไรใหม่ ๆ เลย เล่นบทเดิม ๆ จนเขารู้ทัน เกมการเมืองก็เดิม ๆ หัวหน้าพรรคก็ร่างทรง วิญญาณเข้าสิงบทบาทตามหลักการ เหมาะสมที่สุดคือเป็นพรรคฝ่ายค้านตลอดกาล เพราะอุดมการณ์ไม่เคยเปลี่ยน

เทพเทือกคือตัวถ่วงพรรคฯ ท่าทีไม่น่าไว้ใจน่าจะไปอยู่กับพังประชาชนจะได้ยุติบทบาท

พรรคจะได้แจ่มใส ไม่ต้องมีบรรหารก็อยู่ได้ ใช้ความรู้คู่คุณธรรม อย่างที่คนดี ๆ เขาพึงจะทำเพื่อประเทศจริง ๆ ไม่ใช่เพื่อตัวเองและพวกพ้องเห็นตัวอย่างพังประชาชนหรือยัง

ขออย่าได้เป็นแบบนั้น เพราะเราเลือกพรรคคุณอยู่นะ ส.ส.ของเราเขาดีด้วยและสังกัดพรรคคุณด้วย จงยึดมั่นอุดมการณ์ ใครพูดว่ากินไม่ได้แต่มันอิ่มใจ อยู่อย่างทรนง

ไม่ใช้ทรราชแบบ คนที่คุณก็รู้ว่ามันคือใคร และสาวกชั่วอีกเต็มคอกเลย

ถ้าหากว่าบ้านเมืองเรา เจอคนนักพัฒนาก็ดีอยู่แล้ว แต่มีไม่กี่คน ที่คอยยับยั้งการพัฒนา ขอเสนอว่า " ถ้าไม่พัฒนา ก็อย่าหยุดยั้งการพัฒนานะคะ "


มาร์คกำลังขุดหลุมฝังตัวเอา

การปราบปราม อ้างผู้ก่อการร้าย คนไทยมิได้โง่อย่างที่คุรคิด และนั่งจินตนาการอยู่ในค่ายทหารนะครับ

ผมไม่เคยนึกเลยว่า คนหน้าตาอย่างอภิสิทธิ์ จะแผ่รังสีอำมหิตย์ได้ขาดนั้น

มาร์ค 100 ศพ คือฉายาที่จะได้รับในวันข้างหน้า

แค่ยุบสภา คือการลงนามในกฎหมาย ไม่ได้ยุ่งยากอะไร

การยุยงปลุกปั่นให้ฆ่าแกงกันกลางเมือง มันน่าจะทำยากกว่า

นับแต่นี้ไป คุณอภิสิทธิ์ ไมอาจเหยีบแผ่นดินไทยได้เต็มฝ่าเท้าแล้ว

ผมกลัวคมขวาน และหัวขวาว(ทอง)จะบิ่น กับน้ำมือของทาสอำมาตย์จัง

ไม่ต้องนับรวมปลายด้ามขวาน มันหักบิ่นได้ด้วยน้ำมือทักษิณตั้งนานแล้ว ยังจำได้ไหม ก็ตั้งแต่วันที่ลูกหลานคนตากใบถูกจับขังผ้าใบตายคราวนั้น

อนิจาประเทศไทย หรือถึงคราวต้องแยกก๊กกันอยู่ ผมขออยู่ชุมนุมนครสรีธรรมราชก็แล้วกัน ไม่เอาชุมนุมเมืองจันทร์ กลัววิญญาณพระเจ้าตากสินครับ ทราบว่า 200 ปีเศษ จะมาทวงคืน (โดยการทุบหม้อข้าวครนไทยที่หลงระเริง )

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท