เล่าเรื่องเมืองหงสา(๑๓) งานแต่งที่ใดเป็นได้แค่แขกรับเชิญ......


มาว...ม่ายมาว...มาว...ม่ายมาว....เอืกกกก....

สวัสดีจากเมืองหงสาครับ

                

                 ฮัมเพลงเปิดบันทึกนี้ด้วยเพลง แค่แขกรับเชิญ ของ ไมค์ ภิรมย์พร ด้วยเหตุที่หมู่นี้ได้รับเกรียติ รับเชิญไปร่วมงานแต่งงานสองสามงานติดต่อกัน แต่ละงานเป็นประเภทที่เกรงใจกันชนิดฝากไปแต่ซองไม่ได้เด็ดขาด บางงานก็ได้รับเกรียติให้นั่งผูกเนคไทนั่งเก็กร่วมโต๊ะประธาน แม้กระทั่งขณะบันทึกนี้ก็ยังเป็นบันทึกที่เจือดีกรีจากงานแต่งยังไม่สร่างดี จึงขอเล่าบรรยากาศและขั้นตอนของพิธีวิวาห์ที่เมืองหงสา ซึ่งมีข้อที่ปลีกย่อยที่น่าสนใจต่างไปจากบ้านเราอยู่พอสมควรทีเดียว

                

                 ขั้นตอนของ พิธีกรรม พิธีการ ในงานมงคลสมรสที่เมืองหงสา        

                 เริ่มที่พิธีผูกแขนในช่วงเช้า เป็นพิธีกรรมในหมู่ญาติพี่น้อง ผู้เฒ่าผู้แก่ แต่ที่หงสานี่ไม่มีการนิมนต์พระมาสวดมาตักบาตรเหมือนบ้านเรา มีแต่หมอพรมาสู่ขวัญอวยชัยให้พรเท่านั้น ค่าสินสอดนั้นแล้วแต่กรณี หากแต่งงานกันภายในหมู่บ้านเรียกว่าภายในกลุ่มเครือญาติพี่น้องบ้านใกล้ ค่าดองก็ราว ๔ แสนกีบ(หนึ่งพันสี่ร้อยบาท) ไม่รวมค่าจัดงานเลี้ยง หากแต่งงานแล้วลูกเขยอยู่บ้านพ่อตาแม่ยายเป็นแรงงานให้ ค่าดองก็ราว ๕ ถึง ๖ แสนกีบ แต่หากเป็นการแต่งงานที่พาเจ้าสาวออกเรือนไปอยู่บ้านสามีค่าดองก็จะสูงขึ้นสองสามเท่าตัว

                 เสร็จจากพิธีผูกแขน ก็เป็นการเลี้ยงข้าวปลาอาหาร และเครื่องดื่ม เครื่องดองของเมาให้กับแขกที่มาร่วมงาน งานเลี้ยงดำเนินไปเรื่อยๆ ทั้งเช้าสายเที่ยงบ่าย แล้วแต่ว่าแขกคนไหนมาเวลาใด หรือแขกสนิทที่อยู่ตลอดวันกินได้ตลอดวัน

                 งานภาคค่ำ เป็นงานกินเลี้ยงเฉลิมฉลองครั้นพอใกล้ถึงเวลาที่เชิญแขกมากินข้าวบรรดาเจ้าโคตรลุงตา หรือเจ้าภาพฝ่ายหญิงฝ่ายชาย แต่ละฝ่ายมีประมาณแปดคนสิบคน พากันมายืนเรียงแถวต้อนรับแขกที่ทางเข้างาน ผู้ชายใส่สูทผูกไทโก้ฝ่ายหญิงแต่งชุดลาวสวยงาม แขกต้องจับมือ(เจ้าภาพเพศชาย) สลับกับไหว้(เจ้าภาพหญิง) จนครบยี่สิบกว่าคนแล้วจึงถึง คู่บ่าวสาวที่รอรับด้านใน (คนไทยไม่เคยก็ขลุกขลักสับสนกันน่าดู)

                 จากนั้นก็ถึงโต๊ะต้อนรับที่มีกล่องสวยงามเตรียมไว้ให้ใส่ซอง สาวๆหน้าแฉล้มคอยต้อนรับ พนมมือไหว้เวลาเราเอาซองใส่กล่อง ถ้าเป็นบ้านเราที่โต๊ะนี้มักจะได้รับของชำร่วย แต่ที่นี่ไม่ใช่ แขกกลับต้องดื่มเหล้าอวยพรหนึ่งคู่ (๒จอก) ต่อหนึ่งซอง ของผมมีคนฝากซองไว้ห้าซอง เท่ากับ ๑๐ จอกแล้วครับท่านผู้ชม

                 พาตัวเองโซซัดโซเซเข้าหาโต๊ะนั่ง รอเวลากินข้าวสามัคคี ระหว่างรอก็มีคนมาทักทายด้วยการเสนอน้ำเมานานาประเภท เบียร์ เหล้าแดง เหล้าดองยา เหล้าอุ เหล้าปตอ.(ประชาชนต้มเอง) โดยเฉพาะแถวๆโต๊ะประธานมีคนมาเสนอเหล้าถี่มากๆๆๆแทบว่ายังไม่ทันวางแก้วนี้ มีอีกแก้วมารอเสนอแล้ว (บอกตัวเองให้ท่องไว้จำไว้อย่านั่งทำเลนี้อีก)

                 เมื่อถึงเวลา พิธีกรออกมากล่าวเชิญให้ คู่บ่าวสาวพร้อมเจ้าภาพทั้งยี่สิบกว่าคนขึ้นมายืนเรียงหน้ากระดานบริเวณเวทีรำวง เพื่อเป็นสักขีพยานในการประกาศตัวเป็นคู่สามีภรรยา โดยพิธีกรเป็นผู้อ่านประกาศ (พิธีการรวบรัดดี ไม่ต้องมีการคล้องพวงมาลัยการกล่าวอวยพร โดยประธานข้างโน้น การอวยพรโดยเจ้านายฟากนี้เหมือนบ้านเรา) ที่หงสาแขกทุกคนปรบมือเมื่ออ่านประกาศจบลง แล้วพิธีกรกล่าวเชิญรับประธานอาหาร

                 ราวสิบนาทีหลังจากเริ่มกินข้าวกัน พิธีกรคนเดิมเริ่มออกมาเชิญรำวงสามัคคี (ส่วนการเสนอเหล้านั้นเริ่มอีกครั้งพร้อมๆกับที่เขาเชิญกินข้าว เรียกว่ากินน้ำเมาหลายลิตรทีเดียว) วงดนตรีอีเลคโทนเจ้าประจำ(สงสัยที่นี่มีอยู่วงเดียวในเมืองหงสา) บรรเลงเพลงยุคกลางของลาวส่วนใหญ่เป็นจังหวะรำวง แต่แปลกที่นี่การรำวงไม่มีการออกมือออกแขนแบบที่บ้านเราเรียก(รำสุดแขน) เพียงแต่เดินยึกยักเป็นวงกลมรอบเสาเฉยๆ (เล่นเอาคนเคยฟ้อนเงี้ยว รำสาละวันอย่างผมอึดอัดเอาการอยู่)

                 เขาจะรำวงกันคราวละเพลงแล้วหยุด แขกพากันเดินกลับเข้ามานั่งโต๊ะ แล้วพิธีกรก็ออกมากล่าวเชิญว่า รอบรำวงนี้จัดเป็นเกรียติให้ท่านใด โดยเริ่มรอบปฐมฤกษ์ให้แก่คู่บ่าวสาว พอประกาศจบคู่บ่าวสาวก็ออกมาที่ลานรำวง ยกมือไหว้เดินรอบลานเชื้อเชิญแขกให้ออกมาร่วมรำวง ต่อจากรอบบ่าวสาว ก็เป็นรอบที่จัดเป็นเกรียติให้ท่านประธาน พ่อแม่บ่าวสาว เจ้าภาพที่มีชื่อปรากฏ และแขกผู้มีเกรียติ โดยผู้ถูกเอ่ยนามก็ต้องออกมาตามคำเชิญและเป็นธรรมเนียมที่ต้องเดินไหว้รอบลานรำวงเชื้อเชิญแขกมาร่วมรำวง ในการเชิญคนออกมารำวงเขาถือเป็นการให้เกียรติ(ภาษาชาวบ้านว่า จัดรอบรำวงให้) ทั้งนี้หากแขกพาภรรยามาด้วย พิธีกรก็ประกาศเชิญภรรยาท่านมาเป็นคู่เต้นพร้อม แต่หากไปเดี่ยวอย่างผมพิธีกรเขาจัดคู่เต้นให้ โดยเลือกเชิญจากบรรดาภริยานายบ้านบ้าง ภริยารองเจ้าเมืองบ้าง (จัดเป็นประเภท สว.เหมือนป้าแดง) โดยมีคู่สมรสท่านนั่งหน้าตาดุดันมองมาจากโต๊ะ นั่นก็เฉพาะรอบที่เขาจัดให้หรอก แต่รอบที่เราร่วมแจมนั้นก็พอมีผู้สาวๆมาเป็นคู่เต้นอยู่

                 ระหว่างที่แขกต่างม่วนซื่นรำวง คู่บ่าวสาวจะเคียงคู่กันเดินทักแขกตามโต๊ะ ฝ่ายชายถือขวดเหล้า ส่วนเจ้าสาวถือแก้วเหล้าเล็กๆรินเหล้าให้แขกทุกคน เป็นโอกาสที่แขกจะได้อวยพรแบบตัวต่อตัว(บ้านเราคงจะเป็นคู่บ่าวสาวมาถ่ายรูปตามโต๊ะ)

                 พอท่านประธานรำวงเฉลิมฉลองแล้วสักพักท่านก็กลับ ส่วนแขกทั่วไปหากได้พบปะกินเหล้าที่คู่บ่าวสาวนำมาคารวะแล้ว อยู่รำวงรอบสองรอบก็ทยอยกันกลับ ถึงตอนนั้นอาจารย์ เป ลี่ ยน ก็ใช้วิชาแว๊ปกลับแบบแมวขี้เมา โซเซ ถึงอยู่ก็คงฟุบไม่ได้สติอยู่ที่โต๊ะแน่

หมายเหตุ: ตลอดงานเช้าสายบ่ายค่ำ เจ้าสาวเปลี่ยนชุด ห้าถึงสิบชุดครับท่านผู้อ่าน

ข้อควรจำไว้เตือนตัวเอง: อย่าไปงานแต่หัววัน ไปเร็วต้องดื่มเยอะ

                                         อย่านั่งร่วมโต๊ะท่านประธาน มีคนมาเสนอเหล้าเยอะ

                                         อย่ารับฝากซองเพื่อนมาก ซองมากต้องดื่มตามจำนวนซอง

มาว...ม่ายมาว...มาว...ม่ายมาว....เอืกกกก....  

 

 

หมายเลขบันทึก: 182709เขียนเมื่อ 16 พฤษภาคม 2008 14:03 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 19:03 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (10)

ชอบคำเตือนที่เป็นประสบการณ์เฮียนฮู้ของอ้ายเปลี่ยนครับ

ข้อควรจำไว้เตือนตัวเอง:

อย่าไปงานแต่หัววัน ไปเร็วต้องดื่มเยอะ

อย่านั่งร่วมโต๊ะท่านประธาน มีคนมาเสนอเหล้าเยอะ

อย่ารับฝากซองเพื่อนมาก ซองมากต้องดื่มตามจำนวนซอง

มาว...ม่ายมาว...มาว...ม่ายมาว....เอืกกกก....  

(อิอิ) โอ๊ก...

เสียงอ๊วกครับ

  • ดูข่าวพายุถล่มพม่านึกถึงอาจารย์
  • แต่เห็นอาจารย์ใน G2K ก็หายห่วง
  • รักษาสุขภาพนะครับ

สวัสดีครับคุณพี่เปลี่ยน

  • สบายดีนะครับ
  • กลับไปอีกแล้วหรือครับ เหตุการณ์พายุเป็นยังไงบ้างครับ ขอให้ปลอดภัย อยู่ดีมีสุขนะครับ
  • ชุดเจ้าสาวสวยแปลกดี
  • ขอบคุณครับ

ที่ว่ามาวววววววว นี่อิจฉาเจ้าบ่าวหรือว่าแอบสงสาร

คนในอยากออกคนนอกอยากเข้า???อารายเอ่ย

                                แหะๆเย็นไว้ๆพี่เปลี่ยน

                                               รพี

ดูๆ แล้วเขาตัดไม้กันเยอะเหมือนกันนะคะ

อ้อ..ชุดเจ้าบ่าว สากลแบบท้องถิ่น ดีเหมือนกันนะคะ ^ ^

สวัสดีครับ

พักหลังบันทึกติดกลิ่น Lกฮ นิดๆ นะครับ อิๆ

  • สวัสดีค่ะ
  • เหมือนเข้าไปอยู่ในบรรยากาศ แต่งงานในเมืองหงสาเลยค่ะ
  • ขอบคุณค่ะ

เขียนละเอียดอย่างกับจะเตรียมตัวไว้จัดเองบ้างเร็วๆนี้เนอะ^___^

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท