สิ่งที่ได้จากการเดินทาง...ในวันธรรมดาๆ กับข้อคิดจากสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่เราอาจมองข้ามไป...
เมื่อวันก่อนผู้เขียนต้องเดินทางไปทำธุระ เมื่อเรียกรถแท็กซี่ได้และบอกจุดหมายปลายทางที่ต้องการจะไป จึงได้สังเกตเห็นว่าคนขับรถเป็นชายหนุ่มอายุน่าจะไม่เกิน 25 ปี ผิวเข้ม แต่งกายไม่เรียบร้อยหน้าตาไว้หนวดเคราดูไม่น่าไว้วางใจ พอก้าวเข้าไปนั่งในรถปิดประตูเสร็จสรรพการสนทนาสั้นๆ จึงเกิดขึ้น
คนขับแท็กซี่ (มองกระจก) รู้ทางลัดแถวนี้ไหมครับ
ผู้เขียน ไปทางธรรมดาๆ นี่ล่ะค่ะ ไม่ต้องไปทางลัด ไม่รีบค่ะ
คนขับแท็กซี่ ครับ
จากนั้นคนขับรถแท็กซี่ก็ขับไปเรื่อยๆ ผู้เขียนก็นั่งเงียบๆ และแอบสังเกตว่าเขาค่อนข้างขับรถได้ดี จนกระทั่งรถมาติดไฟแดงตรงทางแยก ซึ่งยังไม่ถึงจุดหมายของผู้เขียน ทันทีที่ไฟเขียวคนขับเปิดสัญญาณไฟเลี้ยวขวา
ผู้เขียน เราไม่เลี้ยวขวาที่แยกนี้นะคะ
คนขับแท็กซี่ .........................................
คนขับรถหักพวงมาลัยเลี้ยวขวาโดยไม่สนใจคำทักท้วง รถแล่นเข้าสู่ถนนสายใหม่ที่แปลกตาและไม่คุ้นเคย จากนั้นเหมือนได้สติจึงหันมาทำหน้าเหรอหรากับผู้เขียน
คนขับแท็กซี่ ไม่ใช่แยกนี้หรือ
ผู้เขียน ไม่ใช่ค่ะ เมื่อกี้บอกคุณแล้วว่าไม่เลี้ยวแยกนี้
คนขับแท็กซี่ ขอโทษครับ ผมไม่ได้ขับแถวนี้ไม่รู้ทาง แล้วนี่เราจะไปยังไงต่อ
ผู้เขียน ก็ขับตรงไปเรื่อยๆ เพื่อหาจุดกลับรถกลับไปทางเดิม หรือตรงไปเรื่อยๆ จนเจอถนนหลักข้างหน้าแล้วอ้อมไปอีกทางก็คงจะไปได้เหมือนกันมั้งคะ
พูดจบผู้เขียนก็นั่งเงียบๆ มองไปข้างทางที่ไม่คุ้นเคย และรู้สึกโกรธขึ้นมานิดๆ แต่ก็คิดฝึกสติไปด้วยว่านี่เรากำลังโกรธ และคิดได้ว่าทุกคนต่างเคยผิดพลาดทั้งนั้น จะโกรธเขาทำไมกัน อีกทั้งจุดหมายที่จะไปก็ไม่ได้นัดแนะเวลากับใคร จะไปถึงเมื่อไหร่ก็ไม่ได้มีความเดือดร้อนอะไรสักหน่อย ซึ่งตรงกันข้ามกับคนขับแท็กซี่ที่เขาต้องเร่งทำเวลาในการรับผู้โดยสารคนต่อไป คิดเพลินๆ อย่างนี้ครู่หนึ่งรถก็ขับมาถึงจุดกลับรถและกลับไปสู่ถนนเดิมจนกระทั่งถึงจุดหมายได้ปลอดภัยในที่สุด มิเตอร์ค่าโดยสารขึ้นมาที่ราคา 91 บาท ผู้เขียนส่งเงิน 100 บาทให้ไป และคนขับแท็กซี่ทอนเงินคืนกลับมา 20 บาท บอกว่าลดราคาที่พาไปหลงทาง
ทำธุระเสร็จแล้วผู้เขียนเรียกรถแท็กซี่อีกครั้งเพื่อเดินทางกลับ คราวนี้คนขับเป็นชายร่างผอมสูงวัย บทสนทนาเริ่มขึ้นอีกครั้ง
คนขับแท็กซี่ จะไปทาง............... หรือไปทาง.................. (ทางที่คนขับแท็กซี่ถามนั้นเป็นเส้นทางการเดินทางสองสายที่แตกต่าง แต่สามารถไปถึงปลายทางตามที่ผู้เขียนแจ้งกับเขาได้เหมือนกัน)
ผู้เขียน ไปทาง..................ค่ะ
จากนั้นคนขับก็ขับรถไปเรื่อยๆ รถแล่นข้ามสะพาน(แทนที่จะกลับรถใต้สะพานไปอีกทาง) เข้าไปสู่เขตชุมชนซึ่งแม้จะเป็นทางที่ผู้เขียนเลือก แต่ผู้เขียนไม่ได้บอกรายละเอียดมากนัก ทางที่ผู้เขียนเลือกก็ยังสามารถที่จะแยกใช้ถนนได้อีกสองสายด้วย รถแล่นไปติดไฟแดงอีกครั้ง
คนขับแท็กซี่ เดี๋ยวผมขอแวะซื้อน้ำมันเครื่องหน่อยนะ นานๆ จะได้ผ่านมาแถวนี้ (อ้อ...ผู้เขียนรู้แล้วว่าทำไมคนขับจึงเลือกขับรถข้ามสะพานมาทางนี้แทนที่จะกลับรถใต้สะพาน)
ผู้เขียน ค่ะ ร้านอยู่ตรงไหนหรือคะ
คนขับแท็กซี่ ตรงสะพานลอยข้างหน้า ร้านอยู่ริมถนนเลย ร้านนี้ขายราคาถูกกว่าที่อื่นมาก แต่ผมไม่ได้ผ่านมาแถวนี้ ผมซื้อไม่นานหรอกครับ กลัวว่าจะไม่มีที่จอดรถด้วย
พอสัญญาณไฟเขียวรถก็แล่นเข้าทางด้านซ้ายและจอดตรงหน้าร้านที่คนขับรถบอก ก่อนวิ่งลงจากรถคนขับแท็กซี่ไม่ลืมที่จะกดปุ่มให้มิเตอร์หยุด และรีบวิ่งไปที่ร้านและกลับมาพร้อมของอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ขับมาส่งผู้เขียนจนถึงจุดหมายปลายทาง
“ การเดินทางไปสู่จุดหมายปลายทางของผู้เขียน มีเส้นทางที่จะเดินทางไปได้มากกว่าหนึ่งเส้นทาง และแม้ว่าผู้เขียนจะเป็นคนเลือกเส้นทางนั้นเอง การพลัดหลงออกนอกเส้นทางไปในถนนหนทางที่เราไม่คุ้นเคยก็เกิดขึ้นได้เสมอ ผู้เขียนอาจจะไปถึงจุดหมายล่าช้าไปบ้าง แต่ก็ได้รู้จักเส้นทางใหม่ๆ ได้เรียนรู้ความโกรธและการให้อภัยกับใครบางคน ได้ช่วยให้คนบางคนสมหวัง และถึงจุดหมายปลายทางด้วยความอิ่มเอมหัวใจ”