เมื่อวันที่ 8 มีนาคม นายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
กล่าวถึงกรณีที่บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ฟิทช์ เรทติ้งส์
ระบุว่าวิกฤตการเมืองของไทยที่เกิดขึ้นขณะนี้มีผลต่อเศรษฐกิจของประเทศ
โดยเฉพาะในโครงการที่สามารถกระตุ้นสภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทย เช่น
โครงการลงทุนขนาดใหญ่ (เมกะโปรเจ็คต์) ที่อาจล่าช้าออกไปว่า
ขณะนี้คงต้องรอให้การเลือกตั้งที่คาดว่าจะแล้วเสร็จจนมีคณะรัฐมนตรีเข้ามาบริหารงานได้อย่างถูกต้องและเหมาะสมภายในเดือนพฤษภาคมนี้ก่อน
จึงจะทำให้การเมืองไทยมีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น
เชื่อว่าผลกระทบจะเกิดเพียงระยะสั้น
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากสิงคโปร์ในวันเดียวกันนี้
อ้างคำให้สัมภาษณ์ของนาย จิ้น ลี่ฉุน
รองประธานธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (เอดีบี)
แสดงความเชื่อมั่นว่า
สภาพปั่นป่วนทางการเมืองทั้งในไทยและ
ในฟิลิปปินส์จะไม่ส่งผลกระทบต่อแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศทั้ง
2 ในขณะที่ภาพโดยรวมของภูมิภาคดีเป็นพิเศษ
แม้จะมีปัญหาราคาน้ำมันแพงและอัตราดอกเบี้ยกำลังเพิ่มขึ้นสูงก็ตามที
โดยเอเชียตะวันออกไม่รวมญี่ปุ่น
จะมีอัตราขยายตัวของเศรษฐกิจรวมทั้งภูมิภาคสูงถึง 7.2
เปอร์เซ็นต์ในปีนี้
สำหรับปัญหาด้านการเมืองของไทยจะคลี่คลายได้
และไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นนโยบายสำคัญจะไม่เปลี่ยนแปลงอีกทั้งเศรษฐกิจสามารถดำเนินไปได้ด้วยตัวเอง
มติชน 9 มีนาคม 2549