เหมือนจะ(รู้สึก)แปลกแยกทันที ณ เวทีนี้


ยังอยู่ครับยังอยูต่อไปใน GotoKnow.org เพราะเข้าใจว่าเป็นเวทีสาธารณะ ที่ผมชอบธรรมที่จะอยู่ต่อ แต่หากเมื่อรู้ตัวว่าไม่เป็นที่ต้องการ อาจจะเป็นเพราะผิดเงื่อนไข หรือวัตถุประสงค์ หรือ Fact ของ GotoKnow.org จึงค่อย ๆ เดินออกไป อย่างไม่ให้รู้ตัว

     เมื่อวานผมไปเปิดประเด็นแรกโดยให้ความเห็นไว้ที่ “นักวิชาการไทยไม่กล้าเขียนบล็อกจริงหรือ?” ดังนี้

          ผมอยาก ร่วม ลปรร.ด้วยจังประเด็นนี้ hot ครับ! วันที่เสวนา blog ที่ มอ.อาจารย์เอ่ยประเด็นนี้กับผมไว้ด้วย ก่อนอาจารย์จะขึ้นบรรยายในชั่วโมงแรก ในมุมมองที่ผมสรุปคือ "กลัวเสียฟอร์ม" ความรู้สึกนี้ก็เคยเกิดขึ้นกับผมบ้างในครั้งแรก ๆ (เท่านั้น) แต่ "ไม่มีถูกมีผิด" ครับ เพราะเป็นความรู้ซ่อนในตัวตนของเรา จะผิดหรือถูก เราสิตัดสิน หรือเรามีส่วนร่วมตัดสิน (โดยการ ลปรร.กัน) หากให้สังคมตัดสิน มีหลายเรื่องนะครับที่เคยถูก และเชื่อว่าถูกมาตลอดในอดีต ปัจจุบันนี่กลับผิด เช่น...
               เชื่อว่าการรณรงค์ให้คนกลัวเอดส์จะได้ผลหยุดยั้งการระบาดของเอดส์ ผลเป็นไงครับ! ทุกวันนี้ต้องมาทุ่มทรัพยากรให้คนเข้าใจและไม่ปฏิเสธผู้ติดเชื้อฯ เสียหายมาแล้วจนถึงทุกวันนี้อย่างต่อเนื่อง ทั้ง ๆ ที่หากสังคมไม่รังเกียจ ไม่ทอดทิ้งเขา เขาก็จะอยู่ได้อย่างปกติสุข นี่แค่เป็นตัวอย่างหนึ่ง
          ฉะนั้นผมไม่มองว่าเฉพาะนักวิชาการ แต่กลับมองว่า "ใครก็ได้" นำเอาความรู้เชิงนี้มาถ่ายทอดไว้ และร่วม ลปรร.กัน ให้มาก ๆ แม้จะเห็นแย้งกันในตอนแรก สุดท้ายก็จะได้ความรู้ที่ตกผลึก "มีคุณค่า" ครับ ทั้งนี้นอกจาก Blog ก็อาจจะมีอีกหลาย ๆ วิธีการ ที่ทำได้ หากเป็นใน Blog การไม่บันทึกเองแต่คอยต่อยอดความรู้ ผมก็ชื่นชมอยู่มาก เพราะคนเราอาจจะชอบและรักไม่เหมือนกัน แต่ก็มีมีเป้าหมายไม่แตกต่างกัน...ตกลงผมผิดไหมนี่!

     อย่างแรกเลยที่อยากเอ่ย อยากเขียนในบันทึกนี้คือ “นักวิชาการไทย” คนที่ว่านั้นคือตัวผมเอง คนที่ให้ความเห็นไว้คนนั้น (คนเดียว) ผมอยู่ในตำแหน่งนักวิชาการสาธารณสุข หรือจะเอาคุณสมบัติอื่น ๆ ก็พอมีได้ว่าตัวเองเป็นนักวิชาการ จึงเชื่อมั่นตรงนี้ และพยายามจะร้องขอ (ไม่ใช่เรียกร้อง เพราะไม่ใช่สิทธิของผม) ว่าการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การแบ่งปันความรู้เชิงลึก เชิงซ่อนเร้นในตัวตนของเรา ให้กันและกัน เป็นสิ่งที่ “ใครก็ได้” ควรจะทำในสังคมนี้ เพื่อช่วยกันพยุงและพัฒนาสังคมสู่สังคมแห่งการเรียนรู้ ไม่บันทึกเองก็มาเติมเต็ม หรือเปิดประเด็นในส่วนของความคิดเห็นก็ได้ อย่าง “ไร้ระเบียบ” “ไร้รูปแบบ” เป็น “อิสระ” จะอิสระอย่างแท้จริงหรือไม่ (ตามที่ อาจารย์ ดร.ประพนธ์ นำเสนอไว้) ก็ไม่สนใจ แล้วจะเกิดความ “สมดุล” เอง หมายถึง ความสมดุลกันในสังคมแห่งการเรียนรู้ ณ เวทีแห่งนี้ ณ GotoKnow.org แห่งนี้

     แล้วในช่วงกลางวัน ผมติดไปทำเวทีสร้างความเข้าใจแก่ประชาชน โดยการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างกัน ในระบบหลักประกันสุขภาพ (ผู้ซื้อบริการ ผู้จัดบริการ และผู้ใช้บริการ) ณ อำเภอกงหรา จังหวัดพัทลุง ตอนเย็นรีบเคลียร์งาน และจัดการเพื่อส่งเกรดนักศึกษาที่สอนให้ มรภ.สงขลา มาวันนี้ ณ ตอนนี้ได้เข้าไปติดตามอ่านเพราะคิดว่าน่าจะตกผลึกได้อะไรเยอะมาก ก็ต้องพบกับ...

     รู้สึกเศร้า ๆ ยังไงไม่ทราบ หรืออาจจะเป็นเพราะผิดเวทีเสียแล้ว หรือเกิดจากความรู้สึกอันเนื่องมาจากผมไม่ใช่นักศึกษาปริญญาเอก (ตาม Fact ที่ปรากฎ) หรือเวทีแห่งนี้กำลังวัดความเป็นคนกันด้วยใบปริญญาบัตร (คนที่ไม่มีปริญญาบัตรไม่ว่าระดับใด อาจจะเป็นเพราะเขาขาดโอกาสก็ได้ ไม่ใช่เพราะเขาไม่เลือกมี...) ด้วยการศึกษาในระบบเท่านั้น (ถ้าอย่างนั้นงานที่ผมกำลังดำเนินการอยู่ เพื่อบอกว่าชาวบ้านฉลาด คิดเก่ง คิดเองเป็น และมีศักดิ์ศรีในตัวเอง ก็ผิดล๊ะสิครับ) หรือความรู้จากผมและจากทีมงานซึ่งผมนำมาถ่ายทอดไว้ไม่ค่อยมีคุณค่า ด้อยค่า หรืออื่น ๆ ที่พรั่งพรู บันทึกนี้จึงเป็นบันทึกที่ขอระบายออก เพราะอยากบอกว่าผมคิดอย่างนี้ หรือผมคิดผิด...ผิดที่ผิดทางเสียแล้ว โดยเฉพาะประเด็นที่ยกมาว่าได้ Pirot Study ซึ่งผมพอเข้าใจว่าหากทำ Pirot ด้วยกลุ่มตัวอย่างนี้ นั้นแสดงถึงว่าย่อมไม่คาดหวังกลุ่มคนที่เป็นทีมงานเช่นผม (กลุ่มคนชายขอบ) เลย แต่ก็คิดเชิงบวกว่า การวิจัยและพัฒนา ย่อมทำไป เรียนรู้ไป และพัฒนาไป อาจคาดอะไรผิดไปได้ในตอนแรก ๆ แล้วปรับใหม่เสีย แต่เมื่อนำมาอ้างว่าเป็น Fact ของ Gotoknow.org ไม่มีอะไรให้คิดเลยนอกจากเราเป็นส่วนเกินอีกแล้ว “คนชายขอบ ไร้ที่อยู่ ไร้เวทีอีกแล้วครับท่าน

     เมื่อคราวงานวิจัยเรื่อง “หัวเชือกวัวชน” ซึ่งเป็นงานวิจัยที่สนับสนุนโดย สกว. ตีพิมพ์ใหม่ ๆ ก็มีการวิจารณ์กันอย่างกว้างขวางว่า “คนใต้” ตามความหมายที่ผู้วิจัยให้นิยามไว้ ไม่สามารถใช้แทนคนภาคใต้ได้ทั้งหมด ครั้งนี้ผมก็ไม่อาจหาญกล้าที่จะบอกว่าคนใต้เป็นอย่างไร แต่ผมคนหนึ่ง (เน้นที่คนเดียว คนนี้) กล้าพอที่จะบอกว่าไม่ใช่อาการน้อยใจ แต่เป็นอาการรู้สึกเสียศักดิ์ศรี ซึ่งต้องบอกออกไปว่าเป็นอย่างนี้ ไม่ยอมกดไว้เด็ดขาด และไม่ได้ใจร้อนอะไร เพียงแต่เมื่อตัวตนป็นอย่างนี้ก็อยากจะบอกออกไปว่าคิดอย่างไร เมื่อ get ได้ ฉะนั้นเมื่อได้บอกแล้วก็สิ้นสุด ไม่คิดอะไรต่อ ไม่ผูกใจครับ

     เมื่อเขียนเสร็จและตีพิมพ์แล้ว ก็จะบอกว่ายังอยู่ครับยังอยู่ต่อไปใน GotoKnow.org เพราะเข้าใจว่าเป็นเวทีสาธารณะ ที่ผมชอบธรรมที่จะอยู่ต่อ แต่หากเมื่อรู้ตัวว่าไม่เป็นที่ต้องการ อาจจะเป็นเพราะผิดเงื่อนไข หรือวัตถุประสงค์ หรือ Fact ของ GotoKnow.org จึงค่อย ๆ เดินออกไป อย่างไม่ให้รู้ตัว ฉะนั้น ณ ตอนนี้ เวลานี้ คิดว่ายังไม่ผิดตามที่ระบุไว้ใน “เงื่อนไขการให้บริการ (Terms of Service)” ครับ ขอยืนยัน

หมายเลขบันทึก: 18058เขียนเมื่อ 9 มีนาคม 2006 06:28 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 มีนาคม 2015 08:31 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (14)

ดร.จันทวรรณ มาตอบไม่ได้เพราะไปอบรม blog ที่ศูนย์คอมฯ ผมจึงขอตอบแทนครับ

ก่อนอื่นต้องขออธิบายเพิ่มเติมเรื่อง pilot users ที่เราเสนอไปยัง สคส. ในช่วงแรกสุดของการพัฒนา GotoKnow.org ครับ

ในช่วงการพัฒนาเดือนแรกๆ นั้น ดร.จันทวรรณ ได้ไปประชุมกับกลุ่มนักศึกษาปริญญาเอก (ด้าน KM) พบอาจารย์ที่ปรึกษา ซึ่งพบว่านักวิจัยกลุ่มนี้ต้องการเวทีในการสื่อสารและหลายๆ ท่านจะมุ่งเป้ามาที่ สคส. เป็นหลักเพื่อให้เป็นตัวกลางให้ด้วย ซึ่งเราพบว่าเป็นภาระเพิ่มพิเศษของ สคส. ที่ต้องกลายเป็นที่ปรึกษาเสมือนของนักวิจัยกลุ่มนี้

ในตอนนั้นเนื่องจากระบบเรายังใหม่ไม่ได้ทดสอบให้ครบถ้วน ในตอนเสนอโครงการเราจึงระบุใน proposal ว่าเราต้องการจะเริ่ม pilot users ที่กลุ่มนักวิจัยกลุ่มที่เราได้เจอเป็นหลัก เพื่อแบ่งเบาภาระของ สคส. และเป็นการทดลองระบบของเราด้วยก่อนจะประชาสัมพันธ์ในวงกว้างต่อไป

แต่อย่างไรก็ตามเราพบว่านักวิจัยกลุ่มนั้นที่เราได้เจอในการประชุม (และพบว่าต้องการเวที ลปรร.) ได้เข้ามาใช้ GotoKnow.org จริงค่อนข้างน้อย จึงเป็นจุดหนึ่งที่ทำให้เราสงสัยว่าทำไมนักศึกษาปริญญาเอก (ซึ่งเพื่อเป็นนักวิจัยด้าน KM นั้น) ไม่เจ้ามา ลปรร. ในเวทีที่เราจัดให้ (แต่เราก็ไม่ได้ไปหาข้อมูลเพิ่มเติมถึงสาเหตุที่แท้จริง เช่น อาจมีเวทีอยู่ที่อื่นแล้ว หรือมา ลปรร. ที่นี่แล้วแต่ไม่ได้แสดงตัว เป็นต้น)

เมื่อ GotoKnow.org เปิดใหม่ๆ และเราประชาสัมพันธ์ไปที่คนเพียงกลุ่มเดียวก็เลยมีอยู่ช่วงหนึ่งที่ GotoKnow.org จะเงียบมากๆ เพราะ pilot users ไม่มา แต่ช่วงนั้นก็ถือว่าเป็นโอกาสดีที่เราได้แก้ไขระบบไปในหลายส่วน ทำให้ระบบสามารถรองรับคนกลุ่มใหญ่ขึ้นได้

จริงๆ แล้วสีสันที่กลับมาหา GotoKnow.org นี่ได้คุณชายขอบมาช่วยเยอะมากครับ คุณชายขอบเป็นผู้ได้รางวัลสุดคะนึงที่เราภาคภูมิใจที่สุดคนหนึ่งครับ

ส่วนตอนนี้ระบบเราพ้นช่วง pilot test มานานแล้วครับ เราเปิดเพื่อให้เป็นเวที ลปรร. สำหรับทุกคน สำหรับทุกเรื่อง สำหรับทุกวัย สำหรับทุกความเหมือนและทุกความแตกต่างครับ

ตอนนี้เตรียมตัวพบกับ GotoKnow 2.0 ดีกว่าครับ เพราะเราจะ "Go Beyond Blog" เป็น KM เต็มรูป และ pilot users สำหรับ 2.0 คือ "คนไทยทุกคน" ครับ :-)

(ส่วน 2.0 จะเสร็จเมื่อไหร่นั้น บอกยากเหลือเกิน อย่างวันนี้ ช่วงเช้าผมต้องไป "รบ" หนึ่งสงคราม และช่วงบ่ายก็ต้อง "รบ" อีกหนึ่งสงคราม กลับมากลางคืนคงหมดแรงไม่ได้ทำอีก พรุ่งนี้เช้าก็มีกำหนดต้องไป "รบ" อีกหนึ่งสงคราม... ขอบ่นหน่อยนะ)

ผมอ่านเรื่องของพี่อนุชามานานแล้วครับ อยากบอกว่าเป็นแรงจูงใจให้ผมเขียน blog เหมือนกันครับ ผมว่าผมเข้าใจคนใต้ดีนะครับ ผมเรียนที่สงขลาตั้ง 4 ปี หวังว่าจะได้อ่านเรื่องของพี่ต่อไปนะครับ(นักศึกษาปริญาเอก)

เป็นนักศึกษาปริญญาเอกอยู่ค่ะ ตอนนี้สถานภาพคือ PhD candidate

ได้มีโอกาสรู้จักบล็อก gotoknow.org เมื่ออาจารย์หมอชาตรี ไปพูดแนะนำในการประชุมที่เชียงใหม่และอาจารย์ไปสร้างบล็อก cmunursekm.gotoknow.org ให้กับคณะพยาบาล มช

ก็เลยลองทำบล็อกของตัวเองคือ bridgeforhealthy ใน http://gotoknow.org/bridge

กะไว้ว่าจะใช้ยาว ชนิดเรียนจบแล้วก็จะใช้อยู่ และก็ใช้บันทึกไปกับทุกเรื่องที่นำไปสู่สุขภาวะของทุกคนโดยเฉพาะผู้หญิง เพราะมีความเชื่อว่า โลกที่เราอยู่คือ global village และเชื่อในเรื่องของ interdependence คือทุกๆคนมีศักยภาพ ทุกคนเป็นผู้รู้ the known การอยู่ร่วมกันอย่างสันติและมีสุขภาวะที่ดีคือการนำศักยภาพสูงสุดของทุกคนมาใช้ร่วมกันอย่างสร้างสรรค่ะ

ตัวเองไม่ใช่กลุ่มที่ได้รับการอบรมบล็อก และเพิ่งทราบว่ากลุ่มทดลองคือนักศึกษาปริญญาเอกค่ะ

คือตัวเองเป็นคนชอบตั้งคำถามน่ะค่ะ ดังนั้นคำถามของตัวเองว่า ใครคือนักวิชาการ ก็คือคำถามจริงๆที่เกิดขึ้นในใจ ไม่เกี่ยวกับปริญญาบัตรอะไรเลย

แต่ถ้าคำถามจะนำไปสู่การเข้าใจผิด ก็ขออภัยจริงๆค่ะ

 

  ผมคงสถานะใน gotoknow มาได้จนทุกวันนี้ ด้วยการติดตามดูความเติบโตของคุณชายขอบครับ ขอให้อยู่คู่ gotoknow ตลอดไปครับ คำตอบของดร.ธวัชชัย คงชัดเจนครับว่า pilot Users ของ Gotoknow คือ "คนไทยทุกคน" ครับ

สบายใจ ขึ้นบ้างหรือยังคะ? คุณชายขอบ...รับกำลังใจจากพี่เม่ยไปด้วยนะคะ....เอ้า!(โยน)....

ดอกหญ้าดอกหนึ่ง...(คือดอกนี้)...สุข..ได้เพียงหยัดอยู่คู่ตะวัน

วันนี้..หลังจากเสร็จสิ้น...ภาระกิจ.."การสัมมนา เรื่อง การให้คำปรึกษาเชิงลึกใน ผู้บำบัดยาเสพติด" เสร็จสิ้นแล้ว..ดิฉันได้แวะเวียนมาที่ gotoknow.org พบ ว่า...มีประเด็น Hot คะ..หากมองดูน่าจะสืบเนื่องมาจากประเด็นก่อนหน้านี้...ที่ ท่านผู้บันทึก "คุณชายขอบ"...ได้ Link ไว้ให้..."get". เลยคะ..ว่าท่านผู้บันทึก หมายถึงอะไร.."หากไม่ใช่อาการน้อยใจ..." แต่เกิดเป็นข้อคำถาม...ที่มาจากฐาน ความเชื่อ..เรื่อง "ปัญญา"...ที่มีอยู่ใน "มนุษย์" ทุกคนที่มีลมหายใจ...เพราะได้มี การแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันบ่อยครั้ง...อาจสืบเนื่องมาจาก "กระแส KM" มาแรงใน ยุคนี้..หากมองดูไม่ใช่เรื่องใหม่...แต่ "คนไทย"..มีมานาน...ตามวิถีไทย...แต่แวด วงวิชาการตื่นตัว...เพราะมีการประกาศ..มาในนาม.."นักวิชาการต่างชาติ"...แต่ ดิฉันเชื่อว่า (เป็น คห. ส่วนตัวนะคะ) ทุกชาติทุกภาษามีเรื่อง KM มานานแล้ว.. ไม่งั้นคงไม่เกิด "วิวัฒนาการและการพัฒนา"..ชุมชน สังคม และโลก มาจนถึงทุก วันนี้...และรวมถึง "ไทย"..เราด้วย..และในส่วนตัวดิฉันเอง..จะเป็นในนามอะไรก็ ได้ "ผู้ที่ผ่านการศึกษาระดับปริญญาเอก".."นักศึกษาปริญญาเอก".."นักวิชาการ".. หรืออะไรก็แล้วแต่...แต่ดิฉันไม่ได้ยึดติด..กับสถานะ ณ ตรงนั้น...เพราะดิฉันเชื่อ ในเรื่อง "กระบวนการทางปัญญา"...ดังนั้น จึงอยากยึดอยู่ที่ว่า "ดิฉัน คือ มนุษย์" คนหนึ่ง...ที่มีเจตนาที่ดีงาม...ที่จะเชื่อใน "ภูมิปัญญา"...ของมนุษย์ และศรัทธาใน การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ (ลปรร.)..โดยที่ไม่ยึดติดรูปแบบ...จึงได้แวะเวียนมา..ณ สังคม gotoknow.org แห่งนี้...
ไม่เข้าใจว่าทำไม รู้สึกแปลกแยก  แปลกแยกที่ไม่ใช่นักศึกษาปริญญาเอก  เท่านั้นหรือ  แค่คิดก็ผิดแล้วหรือเปล่า
เหมือนจะ(รู้สึก)...K.เปียรุส อย่าไปตัดสิน เพราะไม่น่าจะมีสิทธิ ตัวตนเขา เขาตัดสินเองได้ "อิสระภาพ" เข้าใจด้วย
"รู้สึกแปลกแยก"...แค่คิดก็ไม่ผิดหรอกคะ..เพราะนั่นคือความรู้สึก..หาใช่ความคิดไม่.."ความรู้สึก = Feeling" ส่วน "ความคิด = Thinking"...ความรู้สึกเกิดขึ้นได้ทุกสภาพอารมณ์ แต่ความคิดเกิดขึ้นจากการสั่งสมกระบวนการทางปัญญา...แล้ว Representation ออกมาเป็นถ้อยความ สาระ...หากคุณเปียรุส..ติดตามที่มาที่ไป..แล้วลองใช้กระบวนการคิด > ความรู้สึก...โลกนี้จะเที่ยงธรรมยิ่งขึ้น (ยิ้ม)
โดนใจจริงๆ ผมอ่าน 3 รอบแล้ว  ขอบคุณ คุณชายขอบ

ผอ.บวร

     โดนใจยังไงครับ! เรื่องเก่าก่อนนะครับ ที่แท้จริงไม่มีอะไรเลย (แฮะ ๆๆ)

      ในความมีเหมือนไม่มี ในความไม่มีกลับมีอยู่ เนื้อหาตรงกับกลอนที่ผมเขียนในบันทึกของ น้องนิว ยังกับนัดกันไว้ แปลกมากๆถึงมากที่สุด ยังคิดเลยว่าผมเกือบมาไม่ทันคุณชายขอบ นะครับ(ยิ้มๆๆๆ)

ผอ.บวร

     ผมตามไปอ่านที่อาจารย์บอกไว้อีกครั้งหนึ่ง ก็ถึงบางอ้อ อ่อ! นี่แหละที่ผมเพียรพยายามบอกตัวเองว่า สิ่งใดก็แล้วแต่หากมาจากฐานความเชื่อของเราที่ไม่โลเล และเชื่อมั่นว่าถูกต้องตามสังคม-นิยม ก็จะพบเจอได้วันหนึ่งว่าต้องมีคนที่เชื่อและคิดเหมือนเรา โดยเฉพาะคน ๆ นั้นกล้าเปิดเผยตนออกมาด้วย ขอบคุณอาจารย์มากครับที่กล้าประกาศตัวเป็นกัลยาณมิตร กับทุกผู้คน โดยเชื่อมั่นในตนเองครับ

    ขอจับมือหน่อย ยิ้มด้วยครับ ผมเป็นน้องใหม่นะครับ มาทีหลัง มีอะไรกรุณาแนะนำผมด้วย ห้ามทิ้งกันไปไหนนะ ขอบคุณอีกครั้งครับด้วยความจริงใจ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท