หลังจากเสร็จสิ้นฤดูกาลสอบปลายภาค 2/2550 เมื่อประมาณต้นเดือนมีนาคม 2550 นิสิตจีนสาขาภาษาไทยในฐานะภาษาต่างประเทศของฉัน ต่างก็เริ่มทยอยกันกลับประเทศจีน ซึ่งเป็นบ้านเกิดเมืองนอนของพวกเขา
สอบเสร็จเพียงวันสองวัน บางคนก็กลับจีนเลย (สงสัยคงจะคิดถึงบ้านมาก ๆ) ในขณะที่บางกลุ่มก็ขอไปเที่ยวกรุงเทพฯ หรือที่ต่าง ๆ ก่อนกลับ ดูพวกเขาสดใสร่าเริงมาก คงเหมือนตอนที่เราไปต่างประเทศแล้วจะได้กลับประเทศไทยนั่นแหละ ทั้งตื่นเต้น ทั้งดีใจ นั่งนับวันว่าเมื่อไหร่จะได้กลับซักที ขีดวันในปฏิทินออกไปเรื่อย ๆ ...แต่แปลกนะ ยิ่งพอใกล้วันกลับ เวลาก็ยิ่งเดินเร็ว ต่างจากเวลาก่อนหน้านั้นยิ่งนัก...เวลาช่างเดินช้าเสียเหลือเกิน กว่าจะผ่านไปได้แต่ละวัน...
ก่อนที่พวกเขาจะกลับ เราก็ได้แต่ย้ำว่า อย่าลืมทำ Re-entry นะจ๊ะ นิสิตที่รัก...หลายคนทำค่ะ..แต่ก็มีบางคน (ประมาณ 2-3 คน) บอกว่า ทำไม่ทัน สงสัยว่าพวกเขาคงจะไม่ได้เผื่อเวลาไว้มากนัก...เด็กเหล่านั้นจึงโทรมาหาเรา มีทั้งประเภทที่โทรมาจากจีนโดยตรง และฝากข้อความผ่านเพื่อนที่คุย msn กับเรา...เราจึงต้องทำหนังสือรับรองการเป็นนิสิตให้กับพวกเขา เพื่อจะได้นำไปยื่นต่อสถานกงสุลไทยในนครหนานหนิง...เฮ้อ เด็กหนอเด็ก ....เราก็ได้แต่เตือนพวกเขาว่า ครั้งต่อไปถ้าหนูจะทำอะไร ก็ต้องรู้จักเผื่อเวลาและทำให้รอบคอบกว่านี้นะคะ ครั้งนี้ก็จำไว้เป็นบทเรียนให้ดี ๆ ก็แล้วกัน....
เราได้ทำหน้าที่อาจารย์ (ที่เราคิดว่าทำดีแล้ว) ให้กับนิสิตจนกระทั่งส่งแรงใจให้พวกเขากลับถึงบ้านโดยสวัสดิภาพ...อย่างน้อยการทำเช่นนี้ก็ทำให้เรารู้สึกดีแล้วล่ะ
ปลายเดือนนี้ นิสิตจีนทั้งหลายที่กลับบ้านไป ก็จะทยอยกลับมาเรียนในภาคเรียนที่ 1/2551 กันต่อแล้ว พวกเขาจะได้นั่งเรียนในห้องเรียนอีกเพียงหนึ่งภาคการศึกษาเท่านั้น หลังจากนั้นก็จะต้องออกฝึกงานแล้วล่ะ....ช่วงที่เด็กพวกนี้ไม่อยู่ ฉันก็รู้สึกเหงาอยู่เหมือนกันนะ จากที่เมื่อก่อน ไม่ว่าจะเดินไปทางไหน ก็จะเจอแต่เด็กจีน แต่ตอนนี้ที่มหาวิทยาลัย ช่างเงียบเหงาเสียเหลือเกิน ไม่ค่อยมีนิสิตจีนให้ฉันได้ทักทายและพูดคุยแล้ว ... เหงาจัง ...รีบ ๆ กลับมานะจ๊ะ นิสิตที่รัก....อาจารย์คิดถึงพวกหนู :)
เหมือนที่นี่เลยครับ นักศึกษาจีนกลับไปหมดเหลื่อแต่คนไทย ฮ่าๆๆ มีคิดถึงนักศึกษาด้วยดีจังเลบ
อาจารย์ขา
พี่หนิงชอบปิดเทอมค่ะ เงียบสงบดี แหม..ถ้ารู้ก่อนหน้านี้ จะชวนอาจารย์มาอ่านหนังสือเสียงสำหรับนิสิตพิการทางสาย แก้เหงาในช่วงซัมเมอร์นะคะ อิอิ แต่ช่วงนี้ก็ใกล้เปิดเทอมแล้ว อีกหน่อยงานเยอะก็หายเหงาค่ะอาจารย์
พี่หนิงคะ...
จริง ๆ เก๋ก็ชอบช่วงปิดเทอมเหมือนกันค่ะ เพราะถนนว่างดี แล้วก็เงียบสงบดีเหมือนที่พี่ว่านั่นแหละค่ะ...อิอิ เพียงแต่คิดถึงนิสิตน่ะค่ะ เคยเดินไปทางไหนก็เจอพวกเค้า แต่ตอนนี้ไม่ค่อยเจอแล้ว ก็เลยคิดถึงน่ะค่ะ
อ้อ..พี่หนิงคะ เก๋สนใจมาก ๆ เลยค่ะ เรื่องอ่านหนังสือเสียงสำหรับนิสิตพิการทางสายตาน่ะค่ะ เก๋มีสอนเฉพาะวันพุธกับวันศุกร์ ช่วงบ่ายค่ะ งั้นเก๋ขอไปอ่านวันพฤหัสนี้ (8 พ.ค.) ได้มั้ยคะพี่หนิง รบกวนพี่หนิงบอกเวลาและสถานที่ให้เก๋ด้วยนะคะ เอาเป็นช่วงเช้าหรือบ่ายแก่ ๆ ก็ได้ค่ะ (เที่ยงมีประชุมแต่ยังไม่รู้ว่าต้องประชุมถึงบ่ายกี่โมงน่ะค่ะ)
ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ :)
หนูคิดถึงพวกเค้าจริงๆ นะคะอาจารย์ คงเพราะค่อนข้างผูกพันกับเค้าน่ะค่ะ หนูสอนเด็กกลุ่มนี้ตั้งแต่ตอนไปสอนที่จีนแล้วน่ะค่ะ เลยค่อนข้างจะสนิทกับเด็ก ๆ :)
สงสัยมหาวิทยาลัยอื่น ๆ ที่รับเด็กจีนมาเรียนก็คงมีบรรยากาศเหมือนเรานะคะอาจารย์ (อ้อ..คงเว้นแต่ ม.บูรพา เพราะเห็นว่าเด็ก ๆ ต้องเรียนซัมเมอร์ด้วยน่ะค่ะ)
จะเป็นแบบอาจารย์ของผมหรือเปล่าครับ อาจารย์บอกผมว่า
" อยู่ ก็หมั่นใส้
จากไป ก็คิดถึง
ชั่วไม่มี ดีไม่ตราตรึง
ที่คิดถึง เพราะ" ห่วง.........อยากให้ศิษย์....เป็นคนดี "
รพี กวีข้างถนน
แม่นแล้วค่ะ....(แปลว่าถูกต้องแล้วค่ะ)...5555 อาจารย์ของคุณรพี ก็เข้าใจแต่งดีนะคะ... :)