รอยยิ้ม


สื่อสัมพันธ์

       สวัสดีครับวันนี้ผมขอคุยเรื่องรอยยิ้มนะครับเพราะทุกวันนี้ คนเราเครียดมากด้วยสาเหตุหลายๆประการด้วยกัน ไม่ว่าจะเรืองครอบครัว หรือเรื่องนอกบ้านแล้วท่านผู้อ่านอยู่ในจำนวนที่ผมเขียนไว้หรือเปล่า ถ้าจริงก็อย่าไปคิดมาก แต่ถ้าไม่อยู่ในจำนวนที่ผมจะพูดก้ถือว่าโชคดีมีความสุขมาก

        คนเราอย่าลืมนะครับตื่นเช้าขึ้นมา ก็อย่าลืมยิ้มนะครับ บางท่านโทรเข้ามาถามในรายการวิทยุ ขณะที่ผมพูดออกอากาศว่าแล้วเรารูปไม่สวยจะทำไงดีผมก็บอกว่าจะอย่างไรก็แล้วแต่ลองยิ้มดู ต้องมีสักมุมหนึ่งของตัวเราที่ดูแล้วหล่อแล้วสวยลองสังเกตุในกระจกถ้าวันนี้ยังดูตัวเองไม่ออกก็ให้คอยสังเกตุไว้สักวันหนึ่งคุณต้องพบกับความสวยความหล่อแน่นอนครับอันนี้เป็นเรื่องจริงครับคนรักกันทุกคู่ในแต่ละวันมีรอยยิ้มให้กันจะอยู่กันยาว คือขาดความระแวงต่อกันมีอะไรค่อยๆปรึกาหารืออย่าหน้าบึ้งหน้างอเข้าหากันและคุยกันอย่างมีรอยยิ้มอย่าหน้ายักษ์เข้าหากันนะครับ อย่าลืมเชื่อผมเถอะเวลาก่อนออกจากบ้านจะไปทำงานก็ต้องยิ้มให้กับคนในบ้านก่อนนะครับเพราะสังคมในครอบครัวเป็นสังคมที่อบอุ่นหาที่ไหนไม่มีอีกแล้ว ก่อนจะออกไปทำงานนอกบ้านก็ต้องทักทายคนในบ้านก่อนนะครับ คือสร้างความอบอุ่นและสร้างรอยยิ้มให้คนในครอบครัวแล้วก็ไปทำงาน อย่าใส่หน้ายักษ์หน้ามารเข้าหากันเพราะถึงอย่างไรเสียกลับเข้าบ้านเราก็ต้องพบหน้ากันอีก แล้วอย่างนี้เราจะมาหน้างอเข้าหากันทำไม พออารมย์ดีเราก็คุยกันอย่างนี้เราจะมาโกรธกันทำไมสู้เราเข้าใจกันดีกว่าแล้วครอบครัวมีความสุขดีด้วยนะครับ  และเมื่อถึงที่ทำงานเราก็ต้องยิ้มให้กับผู้ร่วมงานด้วยนะครับเพราะผู้ร่วมงานเราต้องเห็นหน้ากันเป็นประจำเหมือนกันและให้รอยยิ้มแก่กันเมื่อสิ่งไหนขาดตกบกพร่องก็ให้อภัยซึ่งกันและกันไม่ใช่ตั้งหน้าจับผิดกันเองแล้วฟ้องนายอย่างนี้ที่เขาเรียกว่าสอพลอหรือเอาดีใส่ตัวสู้เรามาช่วยกันไม่ดีกว่าหรือแล้วทำให้เราทำงานกันอย่างสบายใจ ท่านทำได้อย่างนี้ไม่ว่าท่านจะรับราชการหรือทำงานเอกชนท่านต้องได้เงินเดือนเพิ่มแน่นอน อย่าลืมนะครับรอยยิ้มเป็นการยิ้มที่ไม่ต้องลงทุนซื้อหาเราสามารถนำมาใช้ได้เลยตลอดเวลา แต่อย่านะครับอยู่ๆเดินไปยิ้มไป พูดคนเดียวตลอดเวลาอันนั้นไม่ใช่แล้วนะครับนั้นแสดงถึงอาการของคนอีกแบบหนึ่งนะครับ เมื่อคุณทำได้ในตอนแรกที่ผมแนะนำคุณจะมีแต่ความสุขแน่นอน แล้วอย่าลืมยิ้มนะครับ

    ผมเคยขับรถลักษณะปาดหน้าแต่ไม่ได้ปาดหน้าหมายถึงว่าพอแซงขวาแล้วรีบเข้าซ้ายเร็วเกินไปจึงดูในลักษณะปาดหน้า เมื่อเราแซงแล้วต้องรีบเปิดกระจกขอโทษทันทีเแล้วส่งยิ้มเขาก็บอกว่าไม่เป็นไร มีอีกหลายเรื่องรับที่เราทำผิดแล้วส่วนมากผมทำอะไรผิดผมก็ส่งยิ้มก่อนอันดับแรกและก็ได้ผลจริงๆครับ คนเราถ้ารู้จักรับผิดอะไรที่ว่าจะร้ายก็จะกลายเป็นดีไปหมดครับ นี่แหละครับเสน่ห์ของรอยยิ้ม

                ขอให้โชคดีครับ สำหรับวันนี้สวัสดีครับอย่าลืมเข้ามาทักทายกันบ้างนะครับ

                                                     จากแก้ว สาริกา

                                           

 

หมายเลขบันทึก: 180329เขียนเมื่อ 2 พฤษภาคม 2008 23:44 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 ตุลาคม 2014 07:22 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท