การเขียนบรรยายเรื่องของวัสดุ อุปกรณ์ และวิธีการทดลอง เป็นส่วนที่ตรงไปตรงมาที่สุดในบทความวิจัยนะครับ โดยส่วนนี้จะมีบทบาทหน้าที่ดังนี้
• บอกรายละเอียดวัสดุ อุปกรณ์ที่ใช้ วิธีการใช้
• บอกชื่อสารเคมี ปริมาณที่ใช้ และแหล่งที่มา
• บอกชื่อพืช สัตว์ เชื้อจุลินทรีย์ ฯลฯ และแหล่งที่มา
• ทำให้ผู้อื่นทำการทดลองซ้ำได้ และต้องได้ผลเหมือนกับเรา
• เป็นส่วนหนึ่งที่บอกคุณภาพและคุณค่าของงานวิจัย
เคล็ดลับที่ผมและทีมได้ช่วยกันรวบรวมมานี้ จะช่วยให้ท่านเขียนบรรยายในส่วนนี้ได้ดีขึ้นครับ
• บอกว่าทำการทดลองอะไร อย่างไร
• บอกชนิดและปริมาณสารเคมี ระบุเหตุผลที่ใช้ และระบุแหล่งที่มา
• บอกชนิดเครื่องมือและปริมาณที่จะวัด อาจรวมถึงวิธีการใช้
• บอกการใช้วัสดุ อุปกรณ์ต่างๆ พร้อมอธิบายเหตุผล
• ยึดหลักความพอดี ระหว่างความกระชับกับความสมบูรณ์
• อธิบายขั้นตอนการทดลองด้วยลำดับเวลา
• เรียงลำดับการทดลองด้วยลำดับความสำคัญ (มากไปน้อย)
• ถ้าวิธีการทดลองเป็นวิธีสากล มีผู้ใช้แพร่หลาย ให้ระบุเอกสารอ้างอิง
• ถ้าวิธีการทดลองที่มีผู้อื่นใช้มาก่อน ให้อธิบายพอสังเขปและอ้างอิง
• การทดลองที่ออกแบบเองต้องอธิบายละเอียดเป็นพิเศษ
• เครื่องมือที่มีการดัดแปลง หรือการสร้างเครื่องมือใช้เอง ต้องอธิบายละเอียดเป็นพิเศษ อาจต้องเขียนแบบประกอบ
• ถ้าทดลองภาคสนาม ต้องบอกวัน เวลา สถานที่ และสภาพแวดล้อม
• การทดลองในมนุษย์และสัตว์ทดลองต้องได้รับอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
รบกวนอารย์หน่อยค่ะ
ไม่ทราบว่า อาจารย์มีทฤษฎีเกี่ยวกับปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการพัฒนาตัวเองไหมคะ
ช่วยแนะนำด้วย
สวัสดีค่ะอาจารย์
เอทำงานวิจัยอยู่ วพบ.ราชบุรีค่ะ
รบกวนอาจารย์ช่วยแนะนำด้วยค่ะ
ผมคิดว่าปัจจัยที่มีผลต่อการพัฒนาตนเองมีอยู่ 5-6 ข้อครับ
1.สติปัญญา คนต้องมีสติปัญญาดีขนาดหนึ่งถึงจะพัฒนาได้ แต่ไม่จำเป็นต้องฉลาดเกินไป โดยปรกติ คนทั่วไปก็สามารถพัฒนาตนเองได้
2.การสอนของพ่อแม่ ที่ไม่โอ๋เด็ก ฝึกให้ลูกมีวินัย พัฒนาการทางสมองจะสูงสุดที่อายุ 6-7 ขวบ ซึ่งเป็นช่วงที่อยู่กับพ่อแม่เป็นส่วนใหญ่
3.การสอนของครู ครูต้องสอนให้เด็กคิดเป็น ทำเป็น และเชื่อในการพัฒนาตนเอง เด็กควรกล้าคิด กล้าพูด กล้าทำ เมื่ออยู่กับครู การเรียนควรมีลักษณะของการเรียนรู้ร่วมกัน
4.บรรยากาศการเรียนรู้ ถ้าบรรยากาศดี มีการแข่งขันนิดๆ คนจะพัฒนาได้อย่างรวดเร็ว พ่อแม่ ครู และผู้เกี่ยวข้อง ควรหาเวทีที่สร้างความท้าทายให้กับเด็ก และคอยดูแลคนที่แข่งขันไม่ได้ให้มีแต้มต่อบ้างเพื่อให้แข่งขันได้ครับ
5.การมีพี่เลี้ยงที่ดี เรื่องนี้เป็นใหม่สำหรับสังคมไทยครับ แต่เมืองนอกมีงานวิจัยพบว่า คนจะประสบความสำเร็จในชีวิตสูงสุด ถ้ามีพี่เลี้ยงที่ดีตั้งแต่ช่วงต้นๆ ของชีวิต พี่เลี้ยงจะสอนทุกอย่างทั้งเรื่องทักษะ การใช้ชีวิต การเข้าสังคม ฯลฯ
6.ทัศนคติในการพัฒนาตนเอง ประมาณว่า ถ้าไม่ช่วยตัวเอง ใครจะมาช่วยกันครับ มีงานวิจัยแสดงว่าปรมาจารย์ของโลก อย่าง ไอน์สไตน์ โมสาร์ท ดาวินชี ใช้เวลาฝึกฝนอย่างน้อย 5-10 ปี ก่อนจะสร้างผลงานชนิดที่เรียกว่า "โลกไม่ลืม" แต่คนไทยกลับเชื่อเรื่องโชคลางและงอมืองอเท้า อยากประสบความสำเร็จแต่ขอพรุ่งนี้เลยอะไรประมาณนี้อ่ะครับ
ขอบคุณครับพี่ งานยุ่งด้วย ไม่รู้จะเขียนอะไรดีด้วยครับ บางทีเขียนๆๆๆ แล้วก็ลบทิ้งไปเฉยๆ เลยครับ สงสัยจิตตกครับ
ขอบพระคุณมากครับอาจารย์ ผมจะนำไปใช้ผมไม่เข้าใจและไม่สามารถเขียนได้ ข้อมูลของอาจารย์ทำให้ผมมองเห็นภาพชัดเจนขึ้นครับ ดูเป็นเรื่องเล็กน้อยแต่ก็ยากครับ ขอบพระคุณอีกครั้งครับ
ลุงแต๋ง