การเขียนบทความวิจัย ตอนที่ 7 วัสดุ อุปกรณ์ และวิธีการทดลอง


ต้องทำให้ผู้อื่นทำการทดลองซ้ำได้ และต้องได้ผลเหมือนกับเรา

การเขียนบรรยายเรื่องของวัสดุ อุปกรณ์ และวิธีการทดลอง เป็นส่วนที่ตรงไปตรงมาที่สุดในบทความวิจัยนะครับ โดยส่วนนี้จะมีบทบาทหน้าที่ดังนี้

          บอกรายละเอียดวัสดุ อุปกรณ์ที่ใช้ วิธีการใช้

          บอกชื่อสารเคมี ปริมาณที่ใช้ และแหล่งที่มา

          บอกชื่อพืช สัตว์ เชื้อจุลินทรีย์ ฯลฯ และแหล่งที่มา

          ทำให้ผู้อื่นทำการทดลองซ้ำได้ และต้องได้ผลเหมือนกับเรา

          เป็นส่วนหนึ่งที่บอกคุณภาพและคุณค่าของงานวิจัย

เคล็ดลับที่ผมและทีมได้ช่วยกันรวบรวมมานี้ จะช่วยให้ท่านเขียนบรรยายในส่วนนี้ได้ดีขึ้นครับ

          บอกว่าทำการทดลองอะไร อย่างไร

          บอกชนิดและปริมาณสารเคมี ระบุเหตุผลที่ใช้ และระบุแหล่งที่มา

          บอกชนิดเครื่องมือและปริมาณที่จะวัด อาจรวมถึงวิธีการใช้

          บอกการใช้วัสดุ อุปกรณ์ต่างๆ พร้อมอธิบายเหตุผล

          ยึดหลักความพอดี ระหว่างความกระชับกับความสมบูรณ์

          อธิบายขั้นตอนการทดลองด้วยลำดับเวลา

          เรียงลำดับการทดลองด้วยลำดับความสำคัญ (มากไปน้อย)

          ถ้าวิธีการทดลองเป็นวิธีสากล มีผู้ใช้แพร่หลาย ให้ระบุเอกสารอ้างอิง

          ถ้าวิธีการทดลองที่มีผู้อื่นใช้มาก่อน ให้อธิบายพอสังเขปและอ้างอิง

          การทดลองที่ออกแบบเองต้องอธิบายละเอียดเป็นพิเศษ

          เครื่องมือที่มีการดัดแปลง หรือการสร้างเครื่องมือใช้เอง ต้องอธิบายละเอียดเป็นพิเศษ อาจต้องเขียนแบบประกอบ

          ถ้าทดลองภาคสนาม ต้องบอกวัน เวลา สถานที่ และสภาพแวดล้อม

          การทดลองในมนุษย์และสัตว์ทดลองต้องได้รับอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

 

หมายเลขบันทึก: 179324เขียนเมื่อ 28 เมษายน 2008 23:33 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 มิถุนายน 2012 23:03 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

รบกวนอารย์หน่อยค่ะ

ไม่ทราบว่า อาจารย์มีทฤษฎีเกี่ยวกับปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการพัฒนาตัวเองไหมคะ

ช่วยแนะนำด้วย

สวัสดีค่ะอาจารย์

เอทำงานวิจัยอยู่ วพบ.ราชบุรีค่ะ

รบกวนอาจารย์ช่วยแนะนำด้วยค่ะ

ผมคิดว่าปัจจัยที่มีผลต่อการพัฒนาตนเองมีอยู่ 5-6 ข้อครับ

1.สติปัญญา คนต้องมีสติปัญญาดีขนาดหนึ่งถึงจะพัฒนาได้ แต่ไม่จำเป็นต้องฉลาดเกินไป โดยปรกติ คนทั่วไปก็สามารถพัฒนาตนเองได้

2.การสอนของพ่อแม่ ที่ไม่โอ๋เด็ก ฝึกให้ลูกมีวินัย พัฒนาการทางสมองจะสูงสุดที่อายุ 6-7 ขวบ ซึ่งเป็นช่วงที่อยู่กับพ่อแม่เป็นส่วนใหญ่

3.การสอนของครู ครูต้องสอนให้เด็กคิดเป็น ทำเป็น และเชื่อในการพัฒนาตนเอง เด็กควรกล้าคิด กล้าพูด กล้าทำ เมื่ออยู่กับครู การเรียนควรมีลักษณะของการเรียนรู้ร่วมกัน

4.บรรยากาศการเรียนรู้ ถ้าบรรยากาศดี มีการแข่งขันนิดๆ คนจะพัฒนาได้อย่างรวดเร็ว พ่อแม่ ครู และผู้เกี่ยวข้อง ควรหาเวทีที่สร้างความท้าทายให้กับเด็ก และคอยดูแลคนที่แข่งขันไม่ได้ให้มีแต้มต่อบ้างเพื่อให้แข่งขันได้ครับ

5.การมีพี่เลี้ยงที่ดี เรื่องนี้เป็นใหม่สำหรับสังคมไทยครับ แต่เมืองนอกมีงานวิจัยพบว่า คนจะประสบความสำเร็จในชีวิตสูงสุด ถ้ามีพี่เลี้ยงที่ดีตั้งแต่ช่วงต้นๆ ของชีวิต พี่เลี้ยงจะสอนทุกอย่างทั้งเรื่องทักษะ การใช้ชีวิต การเข้าสังคม ฯลฯ

6.ทัศนคติในการพัฒนาตนเอง ประมาณว่า ถ้าไม่ช่วยตัวเอง ใครจะมาช่วยกันครับ มีงานวิจัยแสดงว่าปรมาจารย์ของโลก อย่าง ไอน์สไตน์ โมสาร์ท ดาวินชี ใช้เวลาฝึกฝนอย่างน้อย 5-10 ปี ก่อนจะสร้างผลงานชนิดที่เรียกว่า "โลกไม่ลืม" แต่คนไทยกลับเชื่อเรื่องโชคลางและงอมืองอเท้า อยากประสบความสำเร็จแต่ขอพรุ่งนี้เลยอะไรประมาณนี้อ่ะครับ

  • ตามมาทักทายอาจารย์
  • อาจารย์หายไปนานนะครับ
  • ฮ่าๆๆ
  • อาจารย์ไม่ได้เข้าระบบ
  • งานยุ่งไหมครับ

ขอบคุณครับพี่ งานยุ่งด้วย ไม่รู้จะเขียนอะไรดีด้วยครับ บางทีเขียนๆๆๆ แล้วก็ลบทิ้งไปเฉยๆ เลยครับ สงสัยจิตตกครับ

ขอบพระคุณมากครับอาจารย์ ผมจะนำไปใช้ผมไม่เข้าใจและไม่สามารถเขียนได้ ข้อมูลของอาจารย์ทำให้ผมมองเห็นภาพชัดเจนขึ้นครับ ดูเป็นเรื่องเล็กน้อยแต่ก็ยากครับ ขอบพระคุณอีกครั้งครับ

ลุงแต๋ง

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท