ครูนงเมืองคอน แนะนำว่า ควรจะเขียนเรื่อง เผล้ง ด้วย เพื่อจะได้คู่กับ ป้อย ที่เขียนไปแล้ว... ลองค้นดูภาพในเน็ตก็ไม่เจอที่เหมาะสม จึงถือโอกาสบรรยายตามที่คิดว่า น่าจะพอสื่อให้เห็นภาพได้...
เผล้ง เป็นภาชนะดินเผาประเภทเดียวกับ หม้อ และ ไห ( ไห ปักษ์ใต้บางท้องถิ่นเรียกว่า เนียง )... เผล้ง คล้ายคลึงกับหม้อและไห หรืออาจกล่าวเชิงขำๆ ได้ว่า บิดาของเผล้งคือไห ส่วนหม้อเป็นมารดาของเผล้ง ดังนั้น เผล้งจึงเป็นลูกครึ่ง กล่าวคือ ครึ่งหม้อครึ่งไห
หม้อดิน จะทรงเตี้ย แต่ตรงกลางจะป้อมออกมา... เผล้งก็ทรงเตี้ยเหมือนหม้อ แต่ตรงกลางจะป้อมออกกว้างกว่าหม้อดินทั่วไป... สำหรับคนที่เคยเห็นหม้อดินและเผล้ง ก็จะแยกออกได้อย่างชัดเจนว่าเป็นเผล้งหรือหม้อดิน....
ไห (เนียง) จะทรงสูง ส่วนตรงกลางจะป้อมออกมาเพียงเล็กน้อย... ที่คอของไหจะคอดกิ่วกว่าหม้อดินทั่วไปแล้วก็บานออกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งเผล้งก็เป็นเช่นนั้น... กล่าวคือ ที่คอและและที่ปากของเผล้งจะคล้ายๆ ไห ไม่เหมือนหม้อ ส่วนที่ตรงกลางจะป้อมออกมาคล้ายๆ หม้อ ไม่เหมือนไห... สาเหตุที่เผล้งจะดูป้อมๆ กว่าหม้อเพราะคอกิ่วๆ คล้ายไหนั่นเอง...
ผู้เขียนไม่ทราบว่า เผล้ง ในภาษากลางเรียกว่าอย่างไร ลองค้นหาดูก็ยังไม่เจอ หรือว่าเผล้งเป็นภูมิปัญญาปักษ์ใต้เท่านั้น ไม่มีในท้องถิ่นอื่นๆ....
สำหรับปักษ์ใต้ เผล้งเป็นภาชนะที่พบเห็นทั่วไป จนกระทั้งคำพังเพยบางสำนวนของปักษ์ใต้มีคำว่าเผล้งอยู่ด้วย ซึ่ง นายช่างใหญ่ เคยเล่าไว้บ้างแล้ว ผู้สนใจ คลิกที่นี้
.............
ตามที่เคยเห็น เผล้งไม่นิยมใช้เป็นภาชนะปรุงอาหารเหมือนหม้อ และไม่นิยมเก็บของหมักดองเหมือนไห (เนียง) แต่เผล้งนิยมใส่ข้าวสาร น้ำตาลทราย หรือน้ำกินน้ำใช้ทั่วๆ ไป.... กล่าวได้ว่า ท้องถิ่นปักษ์ใต้บ้านเราตอนผู้เขียนเล็กๆ นั้น เผล้งพบเห็นทั่วไป เช่น ตามศาลาพักร้อนริมทางก็มีเผล้งใส่น้ำไว้บริการคนเดินหนทั่วไป .... ข้างบันไดก่อนขึ้นบ้านก็มีเผล้งใส่น้ำไว้ล้างเท้า.... หรือในครัวก็มีเผล้งใส่ข้าวสาร น้ำตาลทราย เป็นต้น
สำหรับผู้เขียนเอง ผูกพันกับเผล้งมาตั้งแต่เล็กๆ เพราะครอบครัวผู้เขียนเลี้ยงเป็ดเก็บไข่มาตลอด (เลี้ยงสองสามร้อยตัว มากบ้างน้อยบ้างตามโอกาส) และหน้าที่ตักน้ำใส่เผล้งให้เป็ด จึงเป็นของผู้เขียน...
ตอนเช้า หลังจากเก็บไข่เป็ดเรียบร้อยแล้ว ก็ต้องล้างเผล้งให้สะอาด แล้วก็ตักน้ำใส่ให้เต็มเป็ดจะได้กิน... ตอนบ่ายๆ ก็ตักน้ำไปเติมในเผล้งอีกครั้งโดยไม่ต้องล้างเผล้ง และเย็นๆ จึงล้างเผล้งแล้วเติมน้ำให้เต็มอีกครั้ง... นี้เป็นหน้าที่
แต่ผู้เขียนขี้เกียจ ไม่ค่อยรับผิดชอบ มักโดนโยมแม่ดุด่าประจำว่า อยู่พรื้อ ! ให้เผล้งแตกแหง ! (น้ำในเผล้งแห้งสนิท จนก้นเผล้งแตกระแหง)... และบางครั้งก็ถูกลงโทษ เพราะปล่อยให้เผล้งแตกแหงนี้เอง...
...........
เผล้ง นอกจากจะใช้ใส่ข้าวสาร หรือน้ำกินน้ำใช้แล้ว... ผู้เฒ่าผู้แกบางท่านก็นิยมใช้เผล้งเป็นตู้ยาสามัญประจำบ้านด้วย กล่าวคือ นำยาชนิดต่างๆ ใส่รวมๆ ไว้ในเผล้ง แล้วก็ตั้งไว้มุมหนึ่งตามความเหมาะสมภายในเรือน ซึ่งทุกคนจะรู้ว่า เผล้งหน่วยนั้นใช้ใส่ยา เมื่อใครเกิดเจ็บป่วยต้องการยาชนิดไหนก็ไปหาเอาเองในเผล้ง....
ผู้เขียนคิดว่า แม้ปัจจุบัน ยังมีเผล้งใช้อยู่ แต่คงจะใช้ใส่น้ำดื่มเท่านั้น และโดยมากก็ใช้ทำนองอนุรักษ์หรือนำมาใช้ทำนองเป็นเครื่องประดับประจำเรือนเท่านั้น มิใช่ใช้เป็นภาชนะจำเป็นประจำบ้านดังเช่นสมัยก่อน ซึ่งก็เป็นเรื่องธรรมดา....
กล่าวได้ว่า เผล้ง ได้สูญเสียสถานภาพในการเป็นภาชนะตัวจริงให้แก่สิ่งอื่นๆ เช่น ตู้เย้น คูลเลอร์ ถังพลาสติก กล่องพลาสติก ถุงพลาสติก เป็นต้น.... หรืออาจกล่าวได้ว่า เผล้ง ขึ้นชั้นเป็นภาชนะลายคราม ที่คนบางคนเท่านั้นนิยมชมชอบ หรือเก็บไว้ประดับบารมี...
ผมยังทันใช้เผล้งครับ ที่บ้านปู่และบ้านตาตอนสมัยเด็กๆ ครับ
มีภาชนะอีกอันหนึ่งที่สืบโยด สาวย่าน
ก่อนตักสารใส่เผล้ง คือแล่ง
ทำด้วยพรกเหมือนป้อย
ใหญ่กว่าป้อย
ใช้ตวงข้าวเปลือกใส่สอบนั่ง
ตักข้าวสารใส่เผล้ง
แล้วเอาป้อยตักสารนางกลายจากเผล้ง
ใส่หม้อดิน(เผล้ง)หุงด้วยไม้ฟืน
พอเดือดรินน้ำหม้อใส่ชาม ใส่เกลือสามเม็ด(เกลือผงไม่มี)
น้ำตาลไม่ใส่ (ไม่มี)
อาหารเสริมอย่างดีทุกครัวเรือน
(เหตุที่ใช้ข้าวนางกลายหุง เพราะมีคุณลักษณะพิเศษ
เมล็ดส้นใหญ่
น้ำหนักดี
นวดง่ายหุงขึ้นหม้อ
ให้แป้งสูง
เหมาะกับคนลูกมาก)
vorya9451
เจริญพร
นมัสการอาจารย์
บันทึกอาจารย์ ทำให้ผมนึกถึงของเก่าๆ หลายชิ้นครับ
อาทิ หมาทั้ง (น้ำ), หวัก, โคม, เจี้ยนทิ, พร้อน้ำ, ดานเฉียง ฯลฯ
เจริญพร
นมัสการพระอาจารย์
...ภาชนะใส่น้ำสำหรับดื่มวางอยู่ด้วยเสมอ มักมีโอ่งน้ำดินเผาพื้นเมืองขนาดย่อมๆ ที่ชาวปักษ์ใต้เรียก"เผล้ง"...ของนายช่างใหญ่
ถ้าเป็นทางเหนือเรียกน้ำต้น เป็นภาชนะใส่น้ำแบบล้านนาชนิดหนึ่ง เป็นภาชนะดินเผาแรงไฟต่ำ มีลักษณะทรงสูงคล้ายขวด ตัวน้ำต้นอ้วนกลม มีคอยาว ปากเล็ก มีขนาดประมาณ 6.5 นิ้ว (วัดที่ตัวน้ำต้น) สูงประมาณ 10 นิ้ว ทั่วไปมักจะมีสีแดงอิฐ
การปั้นน้ำต้น นิยมขึ้นรูปโดยการใช้แป้นหมุนและปั้นด้วยมือเป็นส่วน ๆ นำมาประกอบกันเมื่อดินยับไม่แห้งมีการตกแต่งด้วยลายกดประทับและลายขูดขีด บางชนิดพบว่ามีฝาเล็ก ๆ ปิดที่ปากด้วย
ประโยชน์ใช้สอย น้ำต้นใช้สำหรับใส่น้ำไว้ใช้ดื่มบนเรือนและใช้รับแขกโดยวางไว้ที่เติน (อ่าน เติ๋น) หรือห้องอเนกประสงค์
แหล่งผลิตน้ำต้นที่สำคัญในเชียงใหม่ คือ บ้านเหมืองกุง อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่
อาตมารู้จักน้ำต้นดี เพราะเคยอยู่ภาคเหนือหลายสถานที่ เช่น อำเภอปาย แม่ฮ่องสอน ลำปาง ลำพูน และหลังสุดก็ไปเรียนที่เชียงใหม่อยู่ ๓-๔ ปี...
บางวัดสร้างเป็นศาลาเล็กๆ มีน้ำต้นเรียงเป็นแนวดูสวยงาม...
อนึ่ง ภาคเหนือยังรักษาแบบอย่างเก่าๆ ไว้ได้เยอะ โดยเฉพาะบนดอยสูงๆ ซึ่งต่างจากปักษ์ใต้ที่ปรับเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว...
เจริญพร
ท่านพระมหาชัยวุธครับ นมัสการนะครับ
เข้ามาช้าไปหน่อย ขออภัย ต้องขอขอบคุณท่านพระมหาชัยวุธที่ฉลองศรัทธาผมด้วยเรื่องเผล้ง 1 บทความ นึกไม่ถึงว่าท่านพระมหาชัยวุธจะยอนขึ้นเหมือนกัน เต็มอิ่มเลยครับท่าน
เผล้ง คือลูกครึ่งของนายหม้อกับนางไห
เผล้งถูกรุกไล่จนหาที่ยืนในสังคมนี้ไม่ได้แล้ว
เผล้ง คือตัวแทนของอีกหลายเรื่องที่กำลังจะสูญสิ้นไป
อนิจจา!
เจริญพร
กราบนมัสการ...พี่หลวงชัยวุธ
ออม ตามที่นายหนังอธิบายว่ามีขันวางอยู่ที่ปากปิดได้พอดีนั้น ก็เห็นอยู่ทั่วไป... แต่เท่าที่จำความได้ ออม คำนี้ ไม่เคยได้ยินใครเรียก เค้าก็เรียกว่า เผล้ง เหมือนกัน คงจะเรียกต่างกันออกไป...
เจริญพร