ที่เลือกเป็นกวีข้างถนนอีกเหตุผลหนึ่งคือ เคยเป็นกวีข้างหอพักหญิงมาก่อน แล้วในช่วงเวลานั้น เป็นช่วงเวลาที่มีวิสัยทัศน์แคบที่สุด(กว้างแค่รูปากกา) การถ่ายทอดความรู้สึกออกมาเป็นตัวหนังสือดูมันไม่เป็นตัวของตัวเอง และการยอมรับจากผู้คนรอบข้างก็อยู่แค่ใน แวดวงเสือถ้ำ เขียนมาถึงตอนนี้ขอแวะหน่อย มีเสือถ้ำรุ่นใหญ่เคยถามผมว่า"รู้ไหมว่าทำไมเสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้" เฉลย "ก็เพราะห้องน้ำหญิงมีรูแอบดูแค่รูเดียว" ผมเลยถึงบางอ้อว่า"เสือสองตัวย่อมอยู่ถ้ำ(มอง)เดียวกันไม่ได้ (ฮาๆๆๆ)"
ก็เลยลองเปลี่ยนวิถีตัวเองมาเป็น กวีข้างถนน ทำให้ ได้เห็น ได้รู้ ได้สัมผัส กับโลกที่กว้างขึ้น และที่สำคัญผมได้รู้อีกอย่างหนึ่งว่า ความ"เซ็กซี่"ไม่ได้อยู่ที่คุณสุภาพสตรีเพียงอย่างเดียว "การเคลื่อนตัวของการจราจรที่เป็นระบบระเบียบ การมีรอยยิ้มเปื้อนบนทุกใบหน้า การดำเนินชีวิตของผู้คนในสังคม ที่มีแต่ความโอบอ้อมอารี เอื้ออาทรต่อกัน มีความสมัครสมานสามัคคีในหมู่ชน" อันนี้ต่างหากที่ผมเห็นเป็นความ"เซ็กซี่" ตามวิถีของ "กวีข้างถนน"
แกะรอยจากพี่เปลี่ยนมาค่ะ
อิอิ
ขอบคุณครับที่อ่านแล้วอารมณ์ดีได้
ยินดีครับ
ความสุขที่เรียบง่าย หาได้ข้างๆถนนนี่เอง
นั่นแหละ คือ สัจธรรม อยู่ในตัว
แต่มองเลยไปเสียไกลเลย
ยินดีด้วยที่ค้นพบก่อนจะสาย
ดีนะ ทีเสือสองตัวไม่กัดกันตาย
เพราะแย่งกันดูรูโหว่นั้น อิอิ
สวัสดีครับ
ขอบคุณจ๊าดนักครับ คุณเก็จถวา
ที่ติดต๋ามมาอ่าน ขอบคุณจากใจครับ
รพี
สวัสดีครับ ครูข้างถนน
ชีวิตตามทางของเราน่าจะมีโอกาสได้พบเจอกันบนท้องถนนที่ใดที่หนึ่งซักครั้งนะครับ
แต่ขอแนะนำให้เดิน เลนขวานะครับเวลารถสวนมา จะได้หลบทัน อิ อิ
ขอบคุณครับ
รพี