หมาดมยอ
ชัยพฤกษ์ หมาดมยอ กุสุมาพรรณโญ

วันที่ห้า....เดินทางสามประเทศ (อีกแล้ว)


กลับบ้านซะที อยากกินของเผ็ด ๆ

ตื่นแต่เช้าที่โรงแรม (จริง ๆ จำชื่อไม่ได้แน่ น่าจะเป็น จินซื่อ แต่ที่จำได้แม่นก็รอยบุหรี่ไหม้ไง) กินข้าวเช้าที่โรงแรม รีบเช็คเอาท์ แล้วออกเดินทางจากเมืองหล้าไปด่านจีน-ลาว ตอนข้ามมาแดนลาว ได้เห็นตลาดชายแดนของลาวซึ่งเค้าเอาสัตว์ป่ามาขายเยอะมาก ลิง ตะพาบ ลิงลม ลูกหมี ฯลฯ ดูไปแล้วก็ไม่ต่างจากจตุจักรซึ่งช่วงนึงก็มีขายกันเกร่อ ระยะหลังโดนจับไปเยอะ สงสารสัตว์พวกนี้เหมือนกัน ขนาดเราเจอแดดยังร้อนแทบแย่เดินหาที่หลบแดดในร่ม แต่เจ้าพวกนี้อยู่ในกรงกลางแดด (คนขายคงอยากให้ได้วิตามินดี)

จากบ่อเต็น นั่งรถต่อไปเมืองหลวงน้ำทา กินข้าวกลางวัน เมืองนี้เป็นเมืองท่องเที่ยวไปอีกเมือง (ตามตูดเวียงจันทน์ หลวงพระบาง วังเวียง ปากเซ) แต่ไม่ค่อยคึกคักเท่าไหร่ ถนนกว้าง คนน้อย ไม่ค่อยมีฝรั่ง (คุณหมอวรัทพรผิดหวังแย่) ที่สำคัญร้อนโคตร ๆ จนไม่อยากเดินดูอะไรเลย (เค้ามีเวลาให้เดินชมเมืองด้วย) วนรอบกลางเวียง 1 รอบ ถ่ายรูปได้รูปเดียว เดินทางในลาวค่อนข้างลำบากเรื่องห้องน้ำ เพราะจะหาปั๊มแวะฉี่ยากมาก ดังนั้นระหว่างทางเลยหยุดที่ร้านโชห่วยข้างทาง เป็นร้านเล็ก ๆ มีน้ำอัดลม ขนมถุง พอได้ให้สาว ๆ (ทั้งน้อยและใหญ่) เข้าห้องน้ำ ส่วนหนุ่ม ๆ เดินลงหลังร้านเป็นลำธาร หามุมส่วนตัวได้เลย

จากหลวงน้ำทามาถึงท่าเรือบ่อทรายก็ปาเข้าไปสี่โมงกว่า ๆ เกือบห้าโมงแล้ว เห็นฝั่งไทยแล้วใจชื้น จะได้กลับบ้านซะที พอข้ามเรือมาถึงเชียงของก็เปิดโทรศัพท์ คณบดีโทรเข้ามาทันที บอกว่ามีข่าวดี คือ จำนวนนสพ. มศว สอบผ่าน NLE I และ II ได้ในลำดับที่ 5 ซึ่งค่อนข้างน่าพอใจทีเดียว (ประมาณ 90% และ 92%) กะจะเลี้ยงใหญ่เลยทีเดียว เลยเล่าให้พี่ณรงค์ชัยกับอาจารย์กจายศักดิ์ฟังว่า เมื่อกี๊ได้ยินเสียงอะไรมั้ย เสียงเนื้อเต้นไง (คณบดีดีใจจนเนื้อเต้น... หุ หุ)

ถึงตัวเมืองเชียงรายสองทุ่ม กินข้างเย็น อะไร ๆ ก็อร่อยถูกปากไปหมด รสชาติไม่จืด (อีกต่อไป) รถบัสไปส่งที่สนามบินมีเวลาถมเถ ไกด์บอกว่าวันนี้กินข้าวเช้าเมืองจีน มื้อกลางวันเมืองลาว มื้อเย็นเมืองไทยเลยนะเนี่ย เครื่องบินถึงสุวรรณภูมิดึกแล้ว ทุกคนน่าจะได้กลับไปชาร์จแบตเสาร์-อาทิตย์ แต่ที่น่าจะได้กันทุกคนคือ ประสบการณ์การใช้ชีวิตบนรถบัส ลูกโตในรถ นั่งรถมาราธอน ประสบการณ์บุหรี่ + ห้องน้ำในเมืองจีน การออกหน่วยแพทย์แบบ"วจีบำบัด" ภาษาไทลื้อ และการต้อนรับที่ดีจากสถานที่ที่ไปดูงาน จนกลายมาเป็นเรื่องเล่า 5 วัน...

หมายเลขบันทึก: 176994เขียนเมื่อ 15 เมษายน 2008 17:28 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 23:36 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

เล่าเสริมจากอ.หน่องนิดนึงค่ะ..ช่วงที่รอด่าน ตม.ลาวซึ่งทำงานเรียกว่า โคตระช้ามั่กๆๆ

ก็ได้เห็นอีกวัฒนธรรมค่ะ..บรรยายโดยพี่หมู..แต่ภาพนั้นทุกคนที่นั่งรถตู้คันเดียวกับส้ม.

เห็นเหมือนกันหมดเลยค่ะ...มีร้านขายของบริเวณด่าน..พ่อลูกคู่หนึ่งกำลังนั่งอยู่หน้าร้านเป็น

ประมาณร้านขายมือถือค่ะ สายตาพวกเราก็เหลือบไปเห็นชุดของเด็ก พี่หมูแกก็เลยบอกว่า

ชุดแบบนี้ ตอนหลานแกเล็กๆๆแกเคยตัดให้หลาน ...เป็นชุดหมี ตัดเป้าเป็นวงกลมๆๆ ถ้าเป็นชุดสมัยนี้ก็จะสามารถแกะกร้องะดุมได้เหมาะสำหรับเวลาเด็กจะอึหรือฉี่ ซึ่งเด็กคนนั้นก็ใส่แบบที่ว่า..เพียงแต่มันเปิดตลอดเวลา...ระหว่างที่คุยไปก็ปรากฏว่าเด็กคน

นั้นก็นั่งอึหน้าร้าน เสร็จก้อนนึงก็ย้ายที่มาอีกที พอเสร็จภาระกิจ พ่อก็เอาทิชชูเช็ดก้นให้ลูกด้วยท่าคลาสสิก (พี่เก๋บอกงั้นค่ะ) ยกขาเด็กขึ้นข้างแล้วก็เช็ดอย่างบรรจง จากนั้นก็ทิ้งทิชชูบนกอง...ต่อมาซักหลายอึดใจจนคนแอบดูก็คิดไปต่างๆๆนาๆๆว่าทำไม

ไม่จัดการอะไรซักทีเนี่ย..เท่านั้นพ่อก็เหมือนรู้คะ...ไปหยิบไม้กวาดและที่ตักผงมา..ปล่อย

ให้เราลุ้นอยู่ได้...แล้วก็เิดินเลย กอง...ซะงั้น มาเก็บกวาดขยะอื่นๆๆ..เฮ่อไม่เก็บซะที่เดี๋ยวใครมาเจอก็...โชคดีแย่เลย..แต่ไม่เป็นอย่างนั้นค่ะ

พ่อเค้ากวาดขยะไปด้วย...แล้วก็เลยมาตักทรายเพื่อไปกลบ..ก่อนเก็บกวาดอีกที..

ภูมิปัญญาท้องถิ่นจริงๆๆเลยนะคะเนี่ย เพราะลำพังถ้าตักเลยคงเละเลยเอาทรายมาช่วยก่อนแถมไม่ทำลายธรรมชาติอีกต่างหาก

.....เล่าไปก็ขำไปทุกครั้งประทับใจสุดๆๆก็เรื่องห้องน้ำนี่แหล่ะคะ..เพราะไม่ได้ทำใจ

ไปประสบพบเจอ...แต่ประสบการณ์อื่นๆๆนั้นก็มากเกินบรรยายค่ะ..โดยเฉพาะการที่เรา

ได้กัลยาณมิตร เพิ่มอีกมากมายอันนี้ถือเป็นกำไรอันสูงค่าจากการออกหน่วยแพทย์วจีบำบัดในครั้งนี้

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท