ในการเดินทางไปสิกขิม มีอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้พวกเราประทับใจก็คือ เด็กตัวน้อยๆ ของที่นี่ เวลาเรานั่งรถผ่านไปตามหมู่บ้านชนบทในตอนเช้าหรือตอนเย็นๆ เราจะพบเห็นเด็กๆ ในชุดนักเรียนที่กำลังเดินไปโรงเรียน หรือไม่ก็กำลังเดินกลับบ้านเป็นกลุ่มๆ
ระหว่างทางที่ไป Lachen วันนั้นอากาศครึ้มฝนและมีฝนตกลงมาปรอยๆ รถคันที่เรานั่งได้ไปจอดรอรถอีกคันที่ริมถนนของหมู่บ้านเล็กๆแห่งหนึ่ง ฝนที่ตกปรอยๆ ก็เริ่มตกหนักลงมาเรื่อยๆ ขณะนั้นเป็นช่วงเวลาที่โรงเรียนเลิก และเด็กๆ กำลังเดินกลับบ้าน พวกเขาเดินกันไปเป็นกลุ่มๆ ท่ามกลางสายฝน เด็กหญิงและเด็กชายตัวน้อยๆ คู่หนึ่งเดินผ่านรถของเราที่จอดอยู่ เด็กชายนั้นถือร่ม ส่วนเด็กหญิงนั้นถือกระเป๋าหนังสือใบขนาดพอประมาณ เธอเดินนำหน้าเด็กชายไปเล็กน้อย ดูเหมือนทั้งคู่จะเป็นพี่ชายกับน้องสาว เดินไปสักระยะ เด็กหญิงตัวน้อยก็หันมายื่นกระเป๋าหนังสือให้พี่ชายของเธอช่วยถือไว้ แถมเธอไม่ยอมเข้ามาอยู่ในร่มของพี่ชายด้วย เธอเพียงแต่ให้พี่ชายถือกระเป๋าหนังสือเรียนให้ จากนั้นเธอก็กระโดดหยองแหยงไปข้างหน้า บนถนนที่ชื้นแฉะ เธอวิ่งช้าๆนำหน้าพี่ชายไป ดูท่าจะมีความสุขมากทีเดียว เธอกำลังวิ่งเล่นไปท่ามกลางสายฝน โดยมีพี่ชายของเธอเดินตามไปเบื้องหลัง
หลวงปู่ติชกล่าวไว้ว่า เมื่อเรามองดูเด็กๆ กำลังเล่นสนุกสนาน ท่านบอกว่า บางครั้งพวกเขาเหมือนอยู่บนสรวงสวรรค์ เด็กๆไม่เคยคิดกังวลถึงเรื่องในอดีต และไม่ได้อนาทรร้อนใจถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต พวกเขาสนใจแต่ปัจจุบันเท่านั้น และสิ่งที่ทำให้พวกเขามีความสุขก็เป็นเรื่องง่ายๆ เล็กๆน้อยๆ หลวงปู่บอกว่า มีข้อเดียวที่เด็กๆไม่รู้ก็คือ พวกเขาไม่รู้ตัวว่า ตัวเองกำลังมีความสุขอยู่
การมีความสุขของเด็กเล็กๆ จึงเกิดขึ้นง่ายดาย แม้แต่การวิ่งเล่นไปท่ามกลางสายฝนของเด็กน้อยที่น่ารักคนนั้นก็คือความสุขที่เธอได้มาโดยไม่ต้องซื้อหา พวกเราผู้ใหญ่เสียอีก ที่มีความสุขได้ยากเหลือเกิน บางคนอาจมีเงินมากมายในธนาคารแต่ก็ยังมีเรื่องทุกข์ใจ ในขณะที่สำหรับเด็กๆ แล้ว การได้ทานขนมคุ๊กกี้สักชิ้น ก็ทำให้พวกเขามีความสุขมากมายแล้ว ความสุขของเด็กๆจึงเป็นความสุขแบบง่ายๆ ยิ่งถ้าเป็นเด็กๆในชนบท พวกเขามีความสุขและแจ่มใสกว่าเด็กในเมืองเป็นอย่างมาก
รอยยิ้มของเด็กๆ เป็นรอยยิ้มที่ใสซื่อและจริงใจ พวกเขาไม่มีเบื้องหน้าเบื้องหลังอะไรในรอยยิ้ม หลวงปู่ติชบอกว่าเวลาเรารู้สึกขุ่นมัว ไม่สบายใจการได้มองหน้าเด็กตัวน้อยๆ น่ารักที่กำลังมีความสุข ก็อาจทำให้เรารู้สึกดีๆ ขึ้นมาได้
รอยยิ้มของเด็กเป็นรอยยิ้มแห่งพุทธะ พวกเขามีจิตที่แจ่มใส ไม่มีเรื่องราวทางโลกใดๆ ในสมองมาก เมื่อแรกเกิดนั้น จิตของเด็กๆ ยังคงผ่องใสบริสุทธิ์ แต่เมื่อเติบโตขึ้นมาเรื่อยๆ ตัวข้อมูลและสมมุติบัญญัติต่างๆ ในทางโลกที่เราใส่เข้าไปให้พวกเขานั้นคือสิ่งสำคัญ เพราะสิ่งเหล่านั้นจะเป็นตัวชี้นำให้เขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่เช่นไร มีความคิดเห็นอย่างไรต่อโลกและผู้อื่น ยิ่งเราสอนให้พวกเขาติดยึดในสมมุติบัญญัติมากเท่าไหร่ เขาก็จะโตมาพร้อมกับคำว่าตัวกูและของกูมากเท่านั้น
ที่สิกขิม ข้าพเจ้าได้พบกับรอยยิ้มของพุทธะตัวน้อยๆมากมาย ไม่ว่าจะเป็นลามะตัวน้อย ๆ ที่เราเข้าไปพูดคุยด้วย หรือเด็กนักเรียนตัวน้อยๆ ในหมู่บ้านชนบท ที่นี่พวกเขามีความสุข การได้พบเห็นพวกเขาเหล่านี้ ก็ทำให้เรารู้สึกมีความสุข และรู้สึกๆดีกับชีวิตได้เหมือนกัน
หมายเหตุ
ขอขอบคุณสำหรับ ภาพน่ารักๆ ฝีมือของกัลยาณมิตรร่วมทางในครั้งนี้ด้วยค่ะ
เห็นด้วยนะคะที่บรรยายมาอ่ะค่ะอยากให้ที่ทำงานของเราเฮ้อ เป็นแบบนี้จังเลยมีแต่รอยยิ้มและความจริงใจต่อกันอ่ะค่ะเช่นรอยยิ้มของเด็กๆๆเหล่านี้เนอะแต่มันช้าไปเสียแล้วคงต้องทำใจละกันอิจฉาพวกเขานะคะที่เกิดมาในสิขิมเนี่ยเอหรือว่าจะส่งลูกเราไปเรียนบ้างดีไหมอิอิอิอิบรรยากาศดี สวยงามสงบหน้าอยู่ที่สำคัญนะคะคงไม่มีพวกรถตู้ลักเด็กเนอะ555
สุข สดชื่น สมหวัง ในปีใหม่สงกรานต์ แข็งแรงๆครับ
สวัสดีค่ะคุณสิทธิรักษ์ & คุณอัญชลี
ขอบคุณมากค่ะที่แวะมาเยี่ยมเยือน
ขอให้มีความสุขเย็น ในวันสงกรานต์เช่นกันค่ะ
กุ้งจัง
เราสองคนจะยังมีรอยยิ้มและจริงใจต่อกัน ตลอดไปค่ะ
สู้ สู้
Good guality.
you are a good writer .
When I read,I feel it seem to be real( image )as I have seen by myself.
Wish to see your next story in a few day.
Bye Bye......
สวัสดีค่ะคุณ sunny
มาชื่นชมความสุขของพุทธะตัวน้อยๆ ค่ะ ดูรูปก็ชื่นใจแ้ล้วค่ะ ^ ^
ขอบคุณนะคะ
สวัสดีค่ะคุณ Pornchai , คุณกมลวัลย์
ขอบคุณสำหรับกำลังใจ และความคิดเห็นค่ะ
สวัสดีครับ... อยากให้ลูกมาเรียนที่นี่จังนะครับ ผมก็ฝันอยากให้เขามีความเป็นพุทธะ มากๆ และตลอดเวลาเหมือนกันครับ
ดูจากแววตา สัมผัสถึงความดี และการตื่นรู้ครับ..^_^
ชวนพี่มาเยี่มบันทึกผมนะครับ.. http://gotoknow.org/blog/kmsabai/177814
ขอบคุณเรื่องราวดีๆครับ
ปล..บันทึกพี่อ๊อด ล่าสุดครับ
สวัสดีค่ะน้อง kmsabai
ได้แวะไปเยี่ยมบันทึกของน้องๆ มาแล้วจ้า เมื่อวานนี้
อ้อ..พี่ลืมทำ planet รวม blog. จริงๆด้วย
สวัสดีค่ะ
กุ้งตั้งใจจะไปนั่งสมาธิแล้วนะคะพอดีเพื่อนรุ่นพี่ที่สสจ.ชวนมานานแล้วเพิ่งจะได้โอกาศคราวนี้เองแต่ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะไปที่ไหนดีอ่ะค่ะหมอพอจะแนะนำบ้างได้ไหมคะกุ้งกลัวไม่ค่อยได้เจอหมอก่อนกุ้งจะออกอ่ะค่ะไม่อยากได้ที่ไกลมากห่วงลูกค่ะแน่ะขนาดยังไม่ได้ไปนะเนี่ยมีห่วงแล้วแต่คราวนี้อยากไปเองนะไม่รู้ทำไมเหมือนกันสงสัยจะมีบุญแล้วถึงได้มีโอกาสไปได้อ้อขอให้สนุกกะการไปเชียงรายนะคะ
กุ้งจัง
ขอเอาใจช่วยให้มีโอกาสได้ไปดังที่ตั้งใจจ้า ถ้าเอาแบบเข้มข้นเห็นผลทันตา ต้องที่นี่จ้า มูลนิธิศูนย์วิปัสสนาเชียงใหม่ อยู่ที่ วัดห้วยส้ม อ.สันป่าตอง เชียงใหม่นี่เอง แต่ต้องไป 7 คืน 8 วันนะ ได้อะไรดีๆเยอะเลย พี่น้อยที่อยู่วอร์ด O2 ก็ไปมาแล้ว
เห็นว่าพี่น้อยจะไปอีกรอบ แต่ไม่รู้ว่าจะไปช่วงไหนนะ คุยกับพี่น้อยเรื่องนี้ได้ ส่วนหมอจะไปที่นี่อีกทีคงช่วงเดือนตุลาคมนี้จ้า แต่ถ้าเวลาไม่พอ มีสอนเรื่องนี้ที่วัดสวนดอกทุกวันเสาร์และอาทิตย์ ใกล้มากเลยใช่ป่ะ
ถ้าเอาแบบไม่เคร่งเครียดมาก ไปวันแห่งสติของกลุ่มสังฆะพลัมน้อยเชียงใหม่ก็ได้ มีทุกวันอาทิตย์ที่สามของทุกเดือน เริ่ม 9.00 น. ถึง 16.00 น. ของเดือนหน้าตารางยังไม่ออกเด้อ ถ้าออกจะโทรไปแจ้งอีกที ส่วนเดือนกันยายนปีนี้ จะมีงานภาวนาของหมู่บ้านพลัมที่เชียงใหม่ คิดว่าน่าจะเป็น 5 วันนะ โดยจะมีหลวงพี่จากหมู่บ้านพลัมลูกศิษย์ของหลวงปู่ติชมาสอนจ้า และสามารถพาเด็กๆ ไปปฎิบัติด้วยกันได้
ขอแนะนำให้ไปที่ศูนย์วิปัสสนาเชียงใหม่เป็นอันดับแรกถ้ามีเวลานะ ที่นี่ดีมาก อาจารย์สอนดี และทำให้เรารู้จักพุทธศาสนาที่แท้จริงด้วย แถมเห็นผลภายใน 7 วันขอบอก
PM
บางครั้งนึกถึงตอนเป็นเด็ก ๆ นะครับ มีความสุขกับการเล่น ขนาดไปโรงเรียนก็ยังสนุกเพราะได้อยู่กับเพื่อน ๆ ไม่มีเรื่องอะไรให้เครียด แต่พอโตขึ้นมาทำงานแทบจะลืมความสุขตอนนั้นไปเลย ว่าง ๆ คงต้องเคาะอดีตมานั่งอมยิ้มบ้างครับ
สวัสดีค่ะคุณ PM
ขอบคุณค่ะที่แวะเข้ามาแลกเปลี่ยนเรียนรู้