18.00 น. มีนัดทานข้าวที่เอ็มโพเรี่ยม (แต่เขาโทรมาบอกว่า อาจมาถึงช้าหน่อย)
17.30 น. ออกจากที่ทำงานที่ศาลายา
17.45 น. หารถ Taxi ไปเอ็มโพเรี่ยมที่หน้ามหาวิทยาลัย
บอก Taxi ว่าไปเอ็มโพเรี่ยมหรือเกาะไปตามรางรถไฟฟ้าก็ได้
มี Taxi จอดเต็มแต่ไม่ไปสักคัน ....หารถไม่ได้
เพราะแก๊สไม่พอ เพราะแก๊สหมด
และเพราะไม่มีแก๊ส...จึงเอารถออกไปหาเงินมาเติมแก๊สไม่ได้ (ฟังแล้วปวดหัวแทนคนขับ)
17.50 น. ออกมาโบกรถข้างนอกบนถนนใหญ่ คนขับก็บอกว่า แก๊สไม่รู้จะพอหรือเปล่า
ขอหาที่ปั๊มหน้าแต่ถ้าไม่พอก็มีน้ำมันต่อไปได้ไม่เป็นไร (แต่ก็บ่นว่าไม่มีแก๊สจะให้เติม)
18.10 น. รถ Taxi ที่นั่งมาเริ่มมองหาปั๊ม พอเจอปั๊ม ...แก๊สก็หมดปั๊มแล้ว...
คนขับบ่นว่า 200 บาท เติมน้ำมันได้ 5 ลิตร
สุดท้ายคนขับต้องส่งลงที่สถานีรถไฟฟ้าสุรศักดิ์ ก่อนที่จะเจอรถติด
แล้วพวกเราก็นั่งรถไฟฟ้าต่อจนถึงเอ็มโพเรี่ยมตอน 18.30 น.
ไม่ช้ามาก ไม่น่าเชื่อ แต่ทำให้เริ่มเห็นสัญญาณบางอย่าง...วิกฤตพลังงาน
แวะมาอ่านค่ะ
เคยมีประสบการณ์ นั่งรถแท๊กซี่ แล้วต้องช่วยคนขับมองหาปั้ม NGV
บางทีอะไรๆ หลายอย่างที่กำหนดออกมาใช้ก็ควรมีมาตรการที่ดีในการรองรับด้วยนะคะ
แวะมาอ่านค่ะ
เคยมีประสบการณ์ นั่งรถแท๊กซี่ แล้วต้องช่วยคนขับมองหาปั้ม NGV
บางทีอะไรๆ หลายอย่างที่กำหนดออกมาใช้ก็ควรมีมาตรการที่ดีในการรองรับด้วยนะคะ
ก็เพราะเราชอบเร่งทำอะไรแบบไม่คิดหน้าคิดหลังเสมอ
จึงเกิดปัญหาแบบนี้ไม่รู้จบ ปัญหาต่อมาก็คือ น้ำมัน E20 นี่ล่ะ
ผลิตกันยังไม่พอ แต่ส่งเสริมให้เขาใช้...แล้วจะเกิดอะไรขึ้น?