การเดินทางกับการแลกเปลี่ยนเรียนรู้


"พระธุดงส์เอ๋ย ท่านดูยังไงจึงบอกว่ากำแพงนี้สวย ในเมื่ออิฐสองก้อนนี้เบี้ยวและไม่สวยเลย "
          เย้ ! ได้เวลากลับบ้านแล้ว   เสียงนี้ช่างคุ้นหูเสียจริง  แต่ก็ดีใจที่จะได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ คิดอีกทีกลับไปก็เซ็ง  ชวนเพื่อนไปเดินตะวันนาดีกว่าเผื่อเจออะไรที่ถูกใจ   วันนี้ครูมอดไปอบรมเคมีพวกเราจึงขาดสมาชิกที่คอยสร้างเสียงหัวเราะ  แต่ก็ยังดีที่มีเรื่องสนุกให้ทำอยู่ตลอดทั้งวัน  ตอนเย็นครูมอดกลับมาจึงได้รวมตัวกันไปเดินตะวันนา 
         หาแท็กซี่ซักคนดีกว่า(ช่างเลือก)   ระหว่างการเดินทางเพื่อนๆต่างคุยกันส่งเสียงหัวเราะไปตลอด(กลัวแท็กซี่รำคาญเหมือนกัน)  แต่สาระที่คุยก็มีเหมือนกัน  คุณครูกระดาษทรายเป็นอีกคนหนึ่งที่ชอบสรรหาเรื่องราวมาเล่าให้พวกเราฟัง  ซึ่งก็ได้แง่คิดที่ดีเหมือนกัน
   เรื่องมีอยู่ว่า  กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว (ล้อเล่น)  คุณครูกระดาษทรายเล่าว่ามีพระภิกษุอยู่องค์หนึ่งไปซื้อที่ดินอยู่บนภูเขา  เพื่อที่จะสร้างวัดและกำแพงล้อมรอบ  พระท่านนี้ต้องการสร้างกำแพงเอง  จึงซื้ออิฐมาเพื่อก่อให้เป็นฐานที่มั่นคง  แต่ในเมื่อตัวเองไม่ใช่ช่างจะทำอย่างไรกำแพงจึงจะสวยงาม  เมื่อสร้างกำแพงเสร็จปรากฏว่า  มีอิฐสองก้อนที่มันไม่สวยแต่ไม่รู้จะทำอย่างไรจะทุบทิ้งก็ไม่ได้  จึงปล่อยทิ้งไว้อย่างนั้นแล้วก็ไม่ได้สนใจอีกเลย  ต่อมามีพระธุดงส์ท่านหนึ่งผ่านมาแล้วก็พูดว่า " กำแพงนี้ช่างสวยงามจริง "  ใครกันหนอช่างสร้างได้สวยงามเช่นนี้  พอพระภิกษุได้ฟังเท่านั้นแหละก็เกิดความสงสัย  จึงถามไปว่า "พระธุดงส์เอ๋ย  ท่านดูยังไงจึงบอกว่ากำแพงนี้สวย  ในเมื่ออิฐสองก้อนนี้เบี้ยวและไม่สวยเลย " พระธุดงส์ตอบว่าอย่างไรทราบมั้ยคะ  เฉลย  ท่านบอกว่าเราไม่ได้มองที่อิฐสองก้อนนี้หรอก  แต่ว่าเรามองอิฐทั้งหมด  ซึ่งก็เหมือนกับคนเรานี่แหละมีทั้งสิ่งที่ดีและไม่ดี  ขึ้นอยู่กับว่าเราจะมองเห็นสิ่งใหนในตัวเค้า  พอพูดถึงตรงนี้ทำให้ดิฉันได้แง่คิดขึ้นมาอีกว่า  คำพูดของคนคนหนึ่งสามารถทำร้ายจิตใจของเราได้  แต่ถ้าเราไม่ใส่ใจกับสิ่งที่เค้าพูด  คำพูดนั้นก็ไม่มีผลอะไรกับเรา  และบางทีเราก็อาจจะมองเห็นสิ่งต่างๆในตัวเค้ามากขึ้น   ทั้งยังสามารถนำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้อีกนะ(ขอบอก) 
    ก็ต้องขอขอบคุณคุณครูคำมอดมากๆนะคะที่ให้แง่คิดอะไรมากมายกับการเดินทางครั้งนี้  แถมค่าแท็กซี่ยังถูกอีก(กำไรสองต่อ)  สงสัยคนขับจะชอบเรื่องที่เล่าจึงลดราคาให้  อย่างน้อยวันนี้ก็ทำให้ดิฉันรู้ว่า  ความมีน้ำใจและการแบ่งปันยังมีให้เห็น  อยู่ที่ว่าเราจะรู้จักแบ่งปันมั้ย  ก็เหมือนกับที่คุณครูกระดาษทรายแบ่งปันความรู้ให้พวกเราชาว Gotoknow  ทุกคนไง
    ช่วงนี้นักเขียนจำเป็นอย่างดิฉันยังไม่มีเวลาจึงไม่ได้สานต่อความฝัน (แบ่งเวลาไม่เป็นต่างหาก)  แต่ก็จะพยายามเขียนเรื่องราวชีวิตตัวเองให้จบเร็วๆ  เพราะเรื่องต่อไปยังมีอีกเยอะ  ขอความกรุณาเพื่อนๆ  พี่ๆ  นักอ่านที่แสวงหาความรู้  แวะเวียนมาอ่านกันบ้างนะคะ  ที่บ้านหลังนี้หลังเดิมค่ะ และก็ขออภัยไว้นะที่นี้ด้วยถ้าเขียนไม่สนุก อิอิ....(ชอบเขียนมาก)
หมายเลขบันทึก: 173394เขียนเมื่อ 27 มีนาคม 2008 14:12 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 23:18 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)

* คอมเม้นให้หน่อยนะคะ

* ดีบ้างไม่ดีบ้างแต่ก็น่าจะเป็นประโยชน์กับทุกท่านค่ะ

* เผื่อจได้แง่คิดดีๆในการทำงานและการอยุ่ร่วมกันในสังคม

* ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

* ข้าวฟ่าง (ตั้งเอง)

สวัสดีค่ะคุณครู

รู้สึกชื่นชมที่ได้แบ่งปันเรื่องราวๆดีๆ  และได้นำมาคิดในเชิงบวกอีกต่างหาก

เห็นด้วย การมองคนจะมองที่ภาพรวม ไม่ได้มองแยกส่วน  จะทำให้เราเข้าใจธรรมชาติของมนุษย์ได้ดี

แวะมาเยี่ยมค่ะ....

ขอบคุณค่ะ

 

  • เห็นด้วยค่ะ
  • แต่เราว่ายากไหม...ที่จะให้คนเรามองคนภาพรวม
  • ยิ่ง  คนนี้  ยิ่งยาก  แต่ก็อยากจะมองอะไรให้เหมือนกับพระธุดงส์นะ  อยากทำได้ ๆ ๆ ๆ ๆ  

* ขอขอบคุณคุณไม่มีชื่อด้วนนะคะ

* ดีนะที่ชี้ทางจนตามหาเจอ

* ยังไงก็แมเยี่ยมอีกนะคะ

สวัสดีครับ

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะครับ......ผมกวางครับ ยินดีรู้จักครับผม คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยามครับ

โหยยย เขียนที่เกี่ยวกะ ครูตุ๊กดิค่ะ

แนนอยากอ่านนนน

* ขอบคุณเพื่อนนักอ่านทุกท่านนะคะที่แวะมาทักทาย

* ขอบคุณพี่กวาง และยินดีที่ได้รู้จัก

* ขอบคุณ คุณคนนี้ ที่มาเม้นให้

* ฝากถึงน้องแนนแสนสวย ตอนนี้ลงแล้วเข้าไปอ่านได้เลยค่ะ

* สุดท้ายขอขอบคุณท่านอาจารย์ panatung มากๆนะคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท