มีสมาชิกชุมชนโอเพนซอร์ส ถามผมว่า จะเอายังไงกันแน่ เพราะผมใช้เวบไซต์ เวบบอร์ด แล้วก็ยังมีบล็อกอีก ผมตอบว่า ผมฟาดเรียบทุกช่องทางสื่อสาร ที่ไม่เป็นภาระเกินไป
เนื่องจากผมเป็นนักไอที จึงไม่มีปัญหาการจัดการไอที
ตอนเริ่มต้นก็ขึ้นต้นด้วย mailing list เพราะสมาชิกเป็นนักไอที
นิยมใช้อีเมล์
ต่อมาก็สร้างเวบไซต์เป็นโฮมเพจแบบง่ายๆของตนเอง ต่อมา สมาชิกว่าควรมีเวบบอร์ดไว้สื่อสาร ผมจึงได้เปลี่ยนเวบไซต์ ใช้เวบไซต์สำเร็จรูปที่ติดตั้งเวบบอร์ดได้ง่าย http://opensource.psu.ac.th อนุญาติให้ผู้เยี่ยมชมทั่วไปโพสต์ถาม/ตอบได้ และทุกคำถามที่โพสต์ จะมีอีเมล์สำเนาถึงสมาชิกในชุมชนทันที จึงแตกต่างจากเวบบอร์ดอื่นๆทั่วไป ที่สมาชิกต้องเฝ้าเวบบอร์ดเพื่อติดตามข่าวสารเอง จุดอ่อนของเวบบอร์ดนี้ คือเป็นภาระ admin ต้องขยันนั่งลบพวกฉวยโอกาสโฆษณาสินค้า
ผมได้ใส่บันทึกความรู้ใส่เวบไซต์ http://opensource.psu.ac.th นี้ด้วยเหมือนกัน แต่ดูแล้วไม่ขลัง จึงย้ายบันทึกความรู้ไปที่เวบไซต์ใหม่คือ http://rd.cc.psu.ac.th ไม่อนุญาติให้ผู้เยี่ยมชมแสดงความคิดเห็น เพราะขี้เีกียจตามเก็บกวาดโฆษณา เวบไซต์นี้เน้นให้สืบค้นความรู้ได้ง่ายจาก google แล้วใช้่เวบบอร์ดบน http://opensource.psu.ac.th เป็นช่องทางสื่อสาร
ต่อมา ผมได้จัดทำเวบไซต์สนับสนุน COP (ชุมชนแนวปฏิบัติ) ตามนโยบายของมหาวิทยาลัย ผมสร้างเวบบอร์ด http://cop.psu.ac.th ที่ผู้เยี่ยมชมทั่วไปอ่านได้ แต่โพสต์ได้เฉพาะสมาชิกเท่านั้น และผู้มีอีเมล์ของ PSU ทุกคนจะเป็นสมาชิกโดยอัตโนมัติ
ผมเฝ้ารอที่จะนำโปรแกรมบล็อกของ http://gotoknow.org มาติดตั้ง แต่ท่าทางยังไม่น่าจะเป็นระยะเวลาอันใกล้นี้ ผมจึงไปขอเป็นผู้ใช้บริการ เอาเวลามาจัดการ 5 ส. network ในมหาวิทยาลัยให้เร็วขึ้นดีกว่า
วันนี้เอาแค่นี้ก่อน วันหน้าจะเล่าเปรียบเทียบเวบบอร์ด กับบล็อก
ตามประสบการณ์ของผม ที่ใช้อยู่ในปัจจุบันครับ