ลางสังหรณ์กับ (ม.ชีวิต)


(ม.ชีวิต)

 

 

 

     วันเสาร์และอาทิตย์ที่ผ่านมาก็ไปเรียนที่โรงเรียนบ้านเม็กดำตามปกติครับ ซึ่งโรงเรียนบ้านเม็กดำเป็นศูนย์เรียนรู้ประจำอำเภอพยัคฆภูมิพิสัย จังหวัดมหาสารคาม ใน โครงการมหาวิทยาลัยชีวิต ขึ้นต่อ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร

     กระผมตื่นนอนแต่เช้าตรู่เพื่อเตรียมความพร้อมกับมอเตอร์ไซน์คู่กายตรวจเช็คแล้วเอามาจอดรอหน้าบ้านโซรมๆ ปิดฝ่าข้างด้วยไม้ผุๆ กับสังกะสีขึ้นสนิมเก่าๆ หลังหนึ่ง

 

     จากนั้นก็แปลสภาพเป็นเด็กแวน...ออกจากอำเภอพยัคฆ์ฯ ไปทางทิศตะวันตกอีกประมาณ 10 กิโลเมตร เพื่อไปรับหลวงพี่ที่วัดบ้านแก่นท้าว ต.เม็กดำ ฯ  (เรียนด้วนกัน) และรับข้าวก้นบาตรในตอนเช้าเป็นประจำทุกวันที่มาเรียน

     บอกได้เลยว่าแซบหลายมีแต่โบตีนอุดมสมบูรณ์ ไม่ใช่ว่าแต่ตอนเช้านะครับที่กระผมรับข้าวก้นบาตรตอนเพลก็อีกรอบหนึ่ง แห แห...เอาเป็นว่าประหยัดเงินได้หลายสิบบาท

   

     หลังจากนั้นหลวงพี่ก็กลายเด็กแวน... โดยไม่รู้ตัวนั่งสอนท้ายรถมอเตอร์ไซน์ไปกับกระผม... กล่าวหาหลวงพี่เดี๋ยวบาปจะกินหัว คริคริ... อามิตรตาพุทธ...

     ก่อนเข้าห้องเรียนโดยเพราะกลุ่มที่ 9 ที่มีกระผมเป็นหัวโจก คิคิ...ทายกน้อยนำพาเพื่อนๆ ไหวพระสวดมนต์ทำสมาธิเตรียมตัวเตรียมใจให้กับความพร้อมเพื่อรับขาศึก อุ้ย!..ไม่ใช่ แห แห ขาราชการครู “ดร. ครับ ดร.” ส่งตรงมาจากมหาวิทยาลัยฯ (ล้อเล่นนะครับอาจารย์) ศิษย์คนมีสิทธิ์สอบตก เอ่ย เอ่ย...ตายแน่เรา

     เหมือนเป็นลางสังหรณ์กับคำว่า “ตาย” วันเสาร์นี้ได้รับข่าวเศร้าอีกแล้วครับ เพื่อนจากเราไปอีกหนึ่งคน คือ  นายสากร จินโจ (ประธาน อบต. ต.ปะหลาน อ.พยัคฆ์ฯ จ.มหาสารคาม) ประสบอุบัติเหตุด้วยการขับรถมอเตอร์ไซน์กลับจากที่ทำงาน (อบต.) ปะทะรถยนต์ปิกอัพเสียชีวิตติดอยู่กับที่ กระผมและพี่สายทองพร้อมคณะเพื่อนอีกสี่ห้าคนไปส่งเพื่อนเป็นครั้งสุดท้ายด้วยค่าเดินทางเป็นเงินจำนวน 3,500 บาท ซึ่งพวกเราร่วมจัดตั้งขึ้นมาเป็นเงินกองทุนสวัสดิการของนักศึกษาฯ (ม.ชีวิต)

     นาย สากร จินโจ กำลังสร้างเนื้อสร้างตัวด้วยการกู้เงินมาสร้างบ้านใหม่ และบุตรสาวทั้งสองก็กำลังเรียนในระดับมัธยมปลาย พาระต่อจากนี้ตกหนักอึ้งอยู่ที่ภรรยาและลูกๆ...

     เปิดเรียนมาได้เข้าปีที่สามแล้วกับสามชีวิตที่เดินทางไปก่อนเพื่อนๆ หรือ นั้นเป็นลางสังหรณ์ของ (ม.ชีวิต) จุดเริ่มต้นจุดเปลี่ยนอยู่ตรงไหน ชื่อ โครงการมหาวิทยาลัยชีวิต มันชักฟังทะแม่งๆ อยู่ในรูหูชอบกลเสียแล้ว มันจะมีอาถรรพ์จริงๆ เชียวหรือกับชื่อ (ม.ชีวิต) หรือกระผมคิดมากไปเองแต่คนที่อยู่กับวัดกับวามานานๆ เช่นกระผมมักมีลางสังหรณ์ที่เป็นจริง ถ้ามีจริงเปลี่ยนดีไหม...เปลี่ยนยังไง...เพื่อนๆ มหาวิทยาลัยฯ ช่วยกันคิดนะครับ...

หมายเลขบันทึก: 172994เขียนเมื่อ 25 มีนาคม 2008 18:02 น. ()แก้ไขเมื่อ 8 มิถุนายน 2012 17:51 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)
  • มายิ้มๆๆ
  • เห็นหลวงพี่แล้วขำๆๆ
  • ไปที  ชีวรกระจาย
  • ไม่ประมาทเป็นสิ่งสำคัญ
  • แต่ว่ามีอะไรกินบ้าง ห้ามชวนหลวงพี่กินข้าวเย็นด้วย
  • อิอิๆๆ
  • สวัสดีครับคุณ คนเดินดิน
    มอชีวิตแรกเริ่มนั้น       หนหลัง พ่อเฮย
    เป็นแหล่งรวมพลัง       เพื่อนพ้อง
    หลักสูตรนั่นแสนขลัง   ชุมยั่ง ชนยืน
    คืนผ่านวันเลยจ้อง       เริ่มว้าย ปลายเป๋
  • โชคดีครับ

พ่อช่อมะกอก....พ่อดอกมะไฟ

พี่คนเดินดิน.....ชีวินสดใส

มองเห็นหลวงพี่....น้องนี้ห่วงใย

เห็นโต๊ะกับข้าว...แล้วน้ำลายไหล

เป็นมอชีวิต....คิดการณ์ก้าวไกล

น้องจิอยากไป..จะได้ไหมเอย

* สวัสดีเจ้าค่ะ พี่คนเดินดิน น้องจิแวะมาเยี่ยมด้วยบทกลอน คิคิ รักษาสุขภาพด้วยนะเจ้าค่ะ

เป็นกำลังใจให้เจ้าค่ะ ----> น้องจิ ^_^

 

สวัสดีครับอาจารย์ ขจิต

  • เป็นความโชคดีของนักศึกษาฯ ทุกท่านครับ
  • ที่มีหลวงพี่ไปเรียนด้วยและค่อยเตือนใจไม่ให้ประมาท (ลาออก) คิคิ...
  • โดยเฉพาะตัวผมเองนอกจากกินข้าวฟรีแล้วยังได้ค่าน้ำมันรถอีก สำบายหลาย คิคิ...
  • ขอบคุณครับ

สวัสดีครับพ่อครู ครูบา

  • เหมือนสะเดาะเคราะห์ต่อชีวิตเลยนะครับ
  • เป็นความเชื่อที่พึ่ง "อมตะ" อยู่
  • ขอบพระคุณครับ

สวัสดีครับอาจารย์ ทนัน ภิวงศ์งาม

  • โอ้ว่าอนิจจังสังขารเอ๋ย มาลงเอยสิ้นสุดหยุดเคลื่อนไหว
  • เมื่อหมดหวังครั้งสุดท้ายไม่หายใจ  ธาตุลมไฟน้ำดินก็สิ้นตาม
  • นี่แหละหนอชีวิตเรามีเท่านี้  หมดลมแล้วไม่มีซึ่งความหมาย
  • วิญญาณปราศขาดรับดับจากกาย หมดวุ่นวายทุกทุกสิ่งนอนนิ่งเอย

การเปลี่ยนแปลงมีมาทุกยุคทุกสมัยและทำให้เกิดความเจริญขึ้น แต่ชีวิตนั้นไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้เมื่อถึงเวลา "นอนนิ่ง" เฉกเช่นเดียวกับ (ม.ชีวิต) ถ้าไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลงก็เหมือนกับชีวิตที่ "นอนนิ่ง" หลักสูตรจะขลังยังไงก็ช่วยไม่ได้

กระผมเป็นนักศึกษาใน "โครงการมหาวิทยาลัยชีวิต" ถือว่าเป็นนักศึกษาคนแรกที่ยืนหยัดบ้าๆ บอๆ มาจนถึงทุกวันนี้ ก็เพื่อเป็นภาพพจน์ของ (ม.ชีวิต) กิจกรรมต่างๆ ที่นำขึ้นเสนอล้วนออกมาจากหัวใจของชีวิตจริง เปรียบได้ว่านั้นคือการเรียนรู้ชีวิต เป็นตำราชีวิต  เป็นโรงเรียนชีวิต เป็นมหาวิทยาลัยชีวิต หรือ มหาวิทยาลัยวิถีตน

ขอบพระคุณครับ

สวัสดีครับ น้องจิ

  • แม่หนูช่อมะเฟือง  แม่หนูดอกมะขามป้อม
  • น้องจิ นางน้อยเมฆหลา
  • เที่ยวจาริก โปรยดอกไมตรีน่าเชยชม
  • เยียวยาใจพ้องพี่ เปรี้ยวๆหวานๆดังรสมะเฟือง
  • เป็นยาขมดมใจ มากสรรพคุณ
  • มาเป็นเด็กแวน ชิงมอเตอร์ไซน์นำอ้ายตี่

ขอบใจน้องจิมากนะครับ คิคิ...

คุณเดินดิน พี่ติดตามอ่านเรื่องของคุณมาตลอดทุกเรื่อง คิดถึงมากนะ พี่แปลกใจทำไมคุณถึงมีเวลามากมายมาหาเรื่องเขียน และก็เป็นกิจกรรมที่ส่อวิถีชีวิต นักศึกษามหาวิทยาลัยชีวิตจริงๆ พกกล้องติดตัวตลอดเลยหรือไง

ที่มหาวิทยาลัยของพี่ เป็นคนในอำเภอ ทั้งที่เจริญแล้ว ไม่มีใครสละเวลา หารูปหาภาพกิจกรรมมาลงได้ เหมือนคุณเลย ของพี่มีมากมาย แต่พี่คิดว่าเป็นกิจกรรมปกติ และหาคำอธิบายแบบสุดๆ หรือหวือหวา ไม่กล้าลง เพราะคิดว่า ไม่มีค่าเท่ากับคุณทำ ไม่น่าสนใจ เลยละทิ้งไป

หลังจากสอบแล้ว ก็พักผ่อนไม่เท่าไหร่ วันนี้ก็เรียนอีกแล้ว วิชาสร้างเสริมประสบการณ์ เรียนซัมเมอร์กัน แล้วก็มีกิจกรรมไปตั้งค่ายที่สระบุรี ร่วมกับนักศึกษาศูนย์อื่น ในวันที่ 23-24-25 พฤษภาคม คุณไปวันไหนคะ ตรงกันหรือเปล่า

ไปทำรายงานต่อก่อนนะคะ วิจัยตนเองคะ ว่างสุดๆแล้วจะมาลงเล่นคอม โกทูโนใหม่ เรียนหนักมาก ปีหน้ายิ่งจะหนักกว่าเก่า ให้กำลังใจกันไว้อีกนะ เดี๋ยวท้อแท้อีก

เหลืออีกปีเดียวเท่านั้น

เขียนนี้ไม่มีลีลามาก ลืมสูตรใส่ภาพ จะกลับมาเรียนอีก

สวัสดีคะ คิดถึงมิตรภาพที่เข้ามาอ่านบล๊อกนี้ทุกท่านคะ แต่เวลามีจำกัด ว่างแล้วจะไปเยี่ยมทุกคนคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท