อุปโลกน์และอนุโมทนาบุญแด่โยมป้า

สุณาตุเม ภันเต สงฺโฆ...
ข้าแต่สงฆ์ผู้เจริญ...

วันนี้ซึ่งตรงกับวันอังคารที่ ๒๕ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๕๑

ได้มีอุบาสิกานามว่า “คุณสุมาลี ทอมมัส” ได้ปวารณาถือเอาคุณแห่งพระรัตนตรัย อันได้แก่ คุณพระพุทธเจ้า คุณพระธรรม และคุณแห่งพระอริยสงฆ์ เป็นสรณะถือไว้เพื่อเป็นที่พึ่งอันเกษมแห่งชีวิตและจิตใจ
ได้มีการสมาทานรักษาศีล ปฏิบัติธรรม เจริญสมาธิ ภาวนา ปฏิบัติเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา
โดยตั้งเป็นกัลยาณจิต อุทิศบุญกุศลนี้ไปให้ถึงแด่ คุณพ่อสุวรรณ ชอยประเสริฐนภา และคุณย่าชิต ชอยประเสริฐนภา อีกทั้งบรรพบุรุษ บุพการีชน บุคคลอันเป็นที่รักทั้งที่มีชีวิตอยู่และที่ล่วงลับไปแล้ว
หากท่านทั้งหลายเหล่านี้ไปอุบัติอยู่ในภพภูมิใด ได้โปรดอโหสิกรรมในสิ่งที่คุณสุมาลี ทอมมัส ได้เคยประมาทพลาดพลั้งล่วงเกินด้วยกาย วาจา และใจ รวมทั้งโปรดได้มีใจยินดี หยั่งทราบ รับอนุโมทนาผลแห่งบุญและมหากุศลที่คุณสุมาลี ทอมมัส ได้กระทำแล้วในวันนี้ หากท่านทั้งหลายมีความทุกข์ใดอยู่ ขอจงล่วงเสียจากความทุกข์ทั้งปวงนั้น หากมีความสุขดีอยู่แล้ว ขอจงมีความสุขยิ่ง ๆ ขึ้นไปตลอดกาลนาน

อีกทั้งบุญกุศลผลบุญที่คุณสุมาลี ทอมมัสได้ทำแล้วในวันนี้
ด้วยพุทธานุภาพ ธรรมานุภาพ และสังฆานุภาพ ขอได้เป็นผลสะท้อนย้อนกลับมาถึงคุณสุมาลี ทอมมัส และครอบครัว
ขอให้คุณสุมาลี ทอมมัสและครอบครัวจงประสบพบแต่ความสุข เจริญด้วยอายุ วรรณะ สุขะ พละ ปฏิภาณ และธนสารสมบัติ มีดวงตาเห็นธรรม ตลอดทุกทิพาราตรีกาลจนจวบสิ้นกาลนาน เทอญ....

อนุโมทนารัมภะคาถา
ยถา วาริวะหา ปูรา ปะริปูเรนติ สาคะรัง
ห้วงน้ำที่เต็มย่อมยังสมุทรสาครให้บริบูรณ์ได้ฉันใด

เอวะเมวะ อิโต ทินนัง เปตานัง อุปะกัปปะติ
ทานที่ท่านอุทิศให้แล้วในวันนี้ ย่อมสำเร็จประโยชน์แก่ผู้ที่ละโลกนี้ไปแล้วได้ฉันนั้น

อิจฉิตัง ปัตถิตัง ตุมฺหัง
ขออิฏฐะผลที่ท่านปรารถนาแล้ว ตั้งใจแล้ว

ขิปปะเมวะ สมิชฌะตุ
จงสำเร็จโดยฉับพลัน

สัพเพ ปูเรนตุ สังกัปปา
ขอความดำริทั้งปวงจงเต็มที่

จันโท ปัณณะระโส ยะถา
เหมือนพระจันทร์วันเพ็ญ

มะณิ โชติระโส ยะถา
เหมือนแก้วมณีอันสว่างไสวควรยินดี

สามัญญานุโมทนาคาถา
สัพพีติโย วิวัชชันตุ
ความจัญไรทั้งปวง จงบำราศไป

สัพพะโรโค วินัสสะตุ
โรคทั้งปวงของท่านจงหาย

มา เต ภะวัตวันตะราโย
อันตรายอย่ามีแก่ท่าน

สุขี ทีฆายุโก ภะวะ
ท่านจงเป็นผู้มีความสุขมีอายุยืน

อภิวาทะนะสีลิสสะ นิจจัง วุฑฒาปะจายิโน, จัดตาโร ธัมมา วัฑฒันติ, อายุ วัณโณ สุขัง, พะลัง.
ธรรมสี่ประการคือ, อายุ วรรณะ สุขะ พละ, ย่อมเจริญแก่ผู้มีปกติกราบไหว้, มีปกติอ่อนน้อมต่อผู้ใหญ่เป็นนิจ.

อัคคัปปะสาทะสุตตะคาถา
อัคคะโต เว ปะสันนานัง, อัคคัง ธัมมัง วิชานะตัง
เมื่อบุคคลรู้จักธรรมอันเลิศ, เลื่อมใสแล้วในความเป็นของเลิศ

อัคเค พุทเธ ปะสันนานัง
เลื่อมใสแล้วในพระพุทธเจ้าผู้เลิศ

ทักขิเณยเย อะนุตตะเร
ซึ่งเป็นทักขิไณยบุคคลอย่างเยี่ยมยอด

อัคเค ธัมเม ปะสันนานัง วิราคูปะสะเม สุเข
เลื่อมใสแล้วในพระธรรมอันเลิศ ซึ่งเป็นธรรมอันปราศจากราคะ และสงบระงับเป็นสุข

อัคเค สังเฆ ปะสันนานัง
เลื่อมใสแล้วในพระสงฆ์ผู้เลิศ

ปุญญักเขตเต อะนุตตะเร
ซึ่งเป็นบุญญะเขตอย่างยอด

อัคคัสฺมัง ทานัง ทะทะตัง
ถวายทานในท่านผู้เลิศ

อัคคัง ปุญญัง ปะวัฑฒะติ
บุญที่เลิศย่อมเจริญ
อัคคัง อายุ จะวัณโณ จะ
อายุ วรรณะที่เลิศ

ยะโส กิตติ สุขัง พะลัง
และยศ เกียรติคุณ สุขะ พละที่เลิศ ย่อมเจริญ

อัคคัสสะ ทาตา เมธาวี อัคคะธัมมะสะมาหิโต
ผู้มีปัญญาตั้งมั่นในพระธรรมอันเลิศแล้ว ให้ทานแก่ท่านผู้เป็นบุญญะเขตอันเลิศ

เทวะภูโต มะนุสโส วา
จะไปเกิดเป็นเทพยดา หรือมนุษย์ก็ตาม

อัคคัปปัตโต ปะโมทะตีติ
ย่อมเป็นผู้ถึงความเป็นผู้เลิศ อันเทิงอยู่ ดังนี้...