เดี๋ยวนี้ In Trend คือสันติวิธีใครไม่พูดใครไม่ทำก็ตกรุ่น
สวัสดีเจ้าค่ะ ลุงเอก
มาสะกิดว่า หนูได้ใส่ชุดทนายด้วยแหละเจ้าค่ะ 5555++ ขอเขาใส่อ่ะ ก๊ากๆ ตำรวจจ้องตาเขียวปั๊ดhttp://gotoknow.org/blog/nongji/172931 เข้าไปดูได้ในบันทึกนี้เจ้าค่ะ เอิกๆๆ ....ทำไมห้องประชุมเขาใหญ่จัง ยังกะรัฐสภาเลย 5555++
เป็นกำลังใจให้เจ้าค่ะ ----> น้องจิ ^_^
มาดูรูปครับ อ่านแล้วจะเกิดสงครามโลกครั้งที่สามมั้ยครับ หลังจากฟองสบู่สหรัฐแตก
เหมือนได้เข้าสัมมนาเองเลยครับลุงเอก ขอบคุณมากครับ
ผมกำลังเกิดข้อสรุปในใจอย่างหนึ่งว่า สงสัยก่อนจะเกิดกระบวนการสันติวิธี คงต้องเริ่มด้วยความรุนแรงก่อนหรือเปล่า ฮาฮาฮา
ทำไมผมคิดอย่างนั้น ก็ตัวอย่างของอาเจะห์ สู้กันอยู่นาน จนผมเองยังคิดว่า คงเลิกยาก แต่แล้วก็พูดง่ายๆ ว่า เบื่อจะสู้กันก็ค่อยมาคุยกัน อีกอย่างหนึ่ง ก่อนการคุยกันแต่ละฝ่ายก็จะต้องทำการประเมินก่อนว่า ถ้าจะคุยกันตอนนี้ เราอยู่ในฐานะทีได้เปรียบหรือเสียเปรียบ
จากตัวอย่างส่วนใหญ่จะพบว่า เราเลือกกระบวนการสันติวิธีเป็นตัวเลือกสุดท้ายหรือเปล่า ออ อาจมองในอีกมุมหนึ่งว่า เริ่มด้วยสันติวิธี แล้วนำไปสู่รุนแรง แล้วก็หวนกลับมาจบที่สันติวิธีอีกทีหนึ่ง แฮะแฮะ เขียนมากไปหรือเปล่าเนี๊ยะ ขอบคุณครับ
สวัสดีค่ะ อ.ลุงเอก
ตามมาอ่านค่ะ
ลุงเอกสบายดีนะคะ
มันคงเป็นเรื่องที่ยากพอสมควรนะคะ การสร้างสันติภาพเนี่ย เพราะแม้แต่ในประเทศประเทศนึง ยังมีความขัดแย้งกันไม่รู้กี่กลุ่ม เหอๆ
เมื่อไหร่ เพลง imagine- John Lennon จะได้เป็นจริงกับเค้าซักทีนะ รออยู่ๆ :)
เดี๋ยวนี้ In Trend คือสันติวิธีใครไม่พูดใครไม่ทำก็ตกรุ่น
สวัสดีค่ะ...ลุงเอก