วันพญาวันถือว่าเป็นวันที่ยิ่งใหญ่ดั่งพญาทั้งหลาย ด้วยเหตุว่าวันก่อนๆได้แก่วันสังขานต์ล่อง วันเน่าพระอาทิตย์เพียงแต่เคลื่อนเข้าสู่ราศีเมษแต่ยังไม่ข้ามเส้นราศี แต่วันนี้วันพญาวันพระอาทิตย์ข้ามเส้นราศีเมษถือว่าเปลี่ยนเวลาเข้าสู่ปีใหม่ อย่างเช่นปี 2551 นี้ ตามตำราเมืองล้านนากล่าวว่าพระอาทิตย์ข้ามเส้นราศีเมษเวลา 22 นาฬิกา 53 นาที 24 วินาที คนล้านนาถือเป็นวันพญาวันแต่ผู้คนภาคอื่นเรียกกันว่า" วันเถลิงศก" ก็หมายเอาความว่าเข้าสู่เวลาเปลี่ยนผ่านวันใหม่นั้นเอง
ดังนั้น..ผู้ที่เกิดในวันพญาวันหรือราววันที่ 15 หรือบางปีเป็นวันที่ 16 เมษายน ถือว่าเป็นผู้ที่เกิดปีใหม่ถือตั๋วเปิ้งรูปนักษัตรเป็นรูปหนู กล่าวกันทั่วไปว่าเกิดปี๋ไจ้หรือปีชวดไปจนถึงผู้ที่เกิดวันที่ 14 เมษายน 2552 โน้น
*เช้าตรู่วันนี้ผู้คนต่างพากันนำอาหารไปถวายขันข้าว(สำรับกับข้าว)ให้แก่ผู้วายชนม์ทุกคนถือว่าวันนี้เป็นวันที่ทางนรกปล่อยผีปล่อยเผต(เปรต)มารับอาหารหวานคาว เมื่อทานขันข้าวแล้วก็กลับบ้านทานอาหารเช้า
*หลังจากทานอาหารมื้อเฃ้าแล้วผู้คนแต่งตัวสวยงาม แต่ละคนต่างนำเอาเครื่องสักการุบูชาไปวัด บางคนแบกด้ามตุง ไม้ก๊ำต้นสะหรี บางคนถือขันน้ำ ขันทราย ขันน้ำขมิ้นส้มป่อย ข้าวตอกดอกไม้น้ำอบน้ำหอมไปวัดเมื่อถึงวัดหากมีตุงจะนำตุงไปปักที่เจดีย์ทราย ผู้ที่เตรียมเครื่องสักการะก็จะไปหาที่นั่งตามศาลา หรือในพระวิหาร
*ส่วนผู้ที่แบกไม้ก๊ำสะหรีหรือไม้ค้ำต้นโพธิ์จะนำไม้ก๊ำไปรวมกันตามที่วัดกำหนด การทำไม้ก๊ำสะหรีต้องมีการตกแต่งให้ไม้สวยงาม นำกระบอกไม้เล็กๆพร้อมสวยดอกไม้ผูกติดกับปลายง่ามไม้ด้วยเชื่อว่าการทานไม้ก๊ำสะหรีจะได้ช่วยค้ำชูพระพุทธศาสนา มีบุญช่วยค้ำจุนชีวิตให้ก้านกุ่งรุ่งเรือง
*ส่วนอานิสงส์การอุทิศทานตุงปักบนเจดีย์นั้นมีตำนานเล่าว่า ในกาลก่อนมีคนที่ทำบาปมากมายต่อเมื่อตายไปตกนรก สุดลำบาก เมื่อญาติได้ทานตุงอุทิศให้ในพญาวัน ชายผู้คนนั้นได้เกาะหางชายตุงรอดพ้นจากขุมนรกนั้นขึ้นมา
เมื่อถึงเวลา ทุกอย่างพร้อมพระสงฆ์จะทำพิธีสรงน้ำพระพุทธรูป หลังจากนั้นผู้คนจะร่วมกันดำหัวพระสงฆ์โดยการที่เจ้าอาวาสจะครองผ้าอาบน้ำเข้าไปอยู่ในต๊อมอาบน้ำ(ห้องอาบน้ำ)ที่หลังคาเปิด แล้วเข้าไปอยู่ในนนั้น ชาวบ้านจะเทน้ำขมิ้นส้มป่อยจากรางรินข้างนอกห้องน้ำให้น้ำไหลงรดพระสงฆ์หรือเจ้าอาวาสจนเปียกปอน เสร็จแล้วท่านจะขึ้นไปครองผ้าใหม่ลงมาให้พรแก่ชาวบ้าน ส่วนพระรูปอื่นๆก็จะนั่งบนอาสน์สงฆ์บรรดาชาวบ้านจะนำขันน้ำขมิ้นส้มป่อยประเคนให้ท่าน พระสงฆ์จะเอามือวักน้ำขมิ้นส้มป่อยรดแขนหรือบ่าตนเองจนหมดทุกรูป ถือว่าเป็นการดำหัวพระสงฆ์เสร็จสิ้นแล้ว ต่อไปก็จะดำหัวผู้ใหญ่ที่เป็นชาวบ้าน พ่ออุ๊ยแม่อุ๊ย(ปู่ย่าตายาย)
*การดำหัวญาติผู้ใหญ่ลูกหลานร่วมกันไปที่บ้านผู้ใหญ่ช่วยกันอาบน้ำ สระเกล้าดำหัวให้พ่ออุ๊ย แม่อุ๊ย โดยเฉพาะแม่อุ๊ยที่มีเกล้าผมมวย ลูกหลานจะแก้มวยผมท่านออกมาสางหวีสระดำหัวอย่างดี แล้วให้ท่านนุ่งผ้าใหม่มานั่งโดยมีลูกหลานนั่งล้อมวงอยู่ ตัวแทนลูกหลานจะยกเครื่องสักการะบูชา ให้ผู้ใหญ่รับ พร้อมกับขันน้ำขมิ้นส้มป่อย จนหมดเครื่องดำหัว ทางผู้ใหญ่จะให้พรเสร็จแล้ว ท่านจะเอามือชุบน้ำขมิ้นส้มป่อยจนเปียกดีแล้วนำมือขึ้นปาดเช็ดหัวของตนเอง ถือว่าเป็นการดำหัวเสร็จอย่างงดงามจะไม่มีการเอาน้ำรดที่มือของผู้ใหญ่ คนล้านนาถือว่าเหมือนการรดน้ำศพ ดังนั้นคำพูดทั่วไปคือการดำหัวเฉยๆไม่มีคำว่า รดน้ำ ดำหัว เหมือนคนในภาคอื่นๆ นี่คือพิธีการดำหัวในล้านนาเมื่อสมัยก่อนที่ประเพณียังงดงาม
เมื่อดำหัวผู้ใหญ่เสร็จญาติๆต่างก็จะมีการรดน้ำกันและกันอวยพรให้พร ยกอาหารหวานคาวเหล้า ลาบ หมากเหมี้ยง มูลีขี้โย มาสู่(ต้อนรับ) ขนมทุกอย่างไม่ว่าข้าวแต๋น ข้าวควบ ผลไม้หน้าร้อนต่างก็เอามารับประทาน ทักทายกันอย่างสนุกสนาน
*ตามที่กล่าวจะเห็นว่าผู้คนสมัยก่อนต้องไปบ้านผู้ใหญ่ที่จะดำหัว ต้องไปดูบ้านท่าน ไปดูแลทุกข์สุขท่าน ไม่ใช่นำผู้ใหญ่ ผู้เฒ่ามานั่งเรียงแถวตามสถานที่ต่างๆตามอำเภอใจของคนบางคนบางกลุ่มสั่งให้นำผู้ใหญ่มาดำหัว ณ. ที่ใดที่หนึ่งซึ่งเพี้ยนไปจากประเพณีดั้งเดิมมากมายโดยเพียงเพื่อสะดวก ง่ายดาย ให้ทันเวลาที่รีบเร่ง โดยเอาเวลาเป็นเงื่อนไขกำหนดจนทำลายประเพณีดีงามไปในที่สุด
สวัสดีเจ้าค่ะ
ทางภาคกลางยังใช้การรดน้ำขอพรแบบรดที่มือของผู้ใหญ่ค่ะ(บ้านหนูด้วยแหละ แต่ระยะหลังจะเปลี่ยนมารดที่เท้าแทน..) หนูก็เคยสงสัยอยู่ว่าทำไมถึงเรียก รดน้ำดำหัว...
ยิ้มอย่างเป็นสุขเลยเชียวค่ะสำหรับประเพณีอันอบอุ่นงดงามในครอบครัวของชาวล้านนา
ขอบพระคุณ ด้วยความเคารพค่ะ
สวัสดีเจ้า...
สวัสดีครับคุณตุ๊กแกและหลานพิชชาเจ้า
*ยินดีนักๆที่เข้ามาแว่อ่าน.. เตรียมเล่นสงกรานต์ให้สนุกเน้อ
ด้วยความปรารถนาดีจากลุงหนาน...พรหมมา
สวัสดีหลานคำแสนดอย... ยินดีฮับคำอธิษฐานและขอคำอธิษฐานจุ่งปิ๊กป้อกคุ้มงำตั๋วเจ้าเมินเจ้นเมินเน่อเจ้า..
ด้วยความปรารถนาดีจากลุงหนาน.....พรหมมา
แลกเปลี่ยนประสบการณ์เจ้า
ชาติที่( 300 ปี๋)แล้วข้าเจ้าใส่ซิ่นลายขวาง ใส่เสื้อผ้าฝ้ายสีขาว ถือสะหลุงใส่อาหาร ก๋างจ้องกระดาษสา ไปถวายเพลตุ๊หลวง วัดหลวงละปูน ป๊ะหนานพรหมมาที่บันใดวัด หนานพรหมมาบอกว่า ปะกัน๋แถมล่ะ จำได้ก่อ
ขอหื้อปี้หนานรวย ๆ เน้อ เจ้า
สวัสดีอิหล้ากว่าลุงจะมาอ่านแถมกำก็เลยเวลามาแล้วเป๋นสองปี๋........กำแล้ว...
ปะกั๋นแถมแล้วกาอิหน้อย....ช่วยกั๋นเอาบ้านเมืองจำเริญๆไปไจ้ๆเน้อหมู่เฮา...
ด้วยความปรารถนาดีจากลุงหนาน.....พรหมมา