ปีนเขา นมัสการพระบาทพลวง


พวกเรา กับ กลุ่มหมอก สายลม กลิ่นธูป ควันเทียน หินเทิน และผ้าแดง

ช่วงปิดเทอมใหญ่หัวใจว้าวุ่น...ทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ ผู้ปกครอง  ต่างหากิจกรรมมาทำกันถ้วนหน้า ...."เขาพระบาทพลวง" เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่มีผู้คนจากหลายภาคของประเทศไทย พากันมาเที่ยวกันอย่างไม่ขาดสาย  นับตั้งแต่เปิดให้ผู้คนขึ้นเขาได้ตั้งแต่ช่วงตรุษจีนเป็นต้นมา....

วิธีการขึ้นเขามีสอง-สามวิธี ถ้าคุณจะขึ้นไปเที่ยว พิจารณาดังนี้

1. เดินโดยสองเท้าของเรา ตั้งแต่ตีนเขาถึงรอยพระพุทธบาทบนยอดเขาใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมงกว่าหน่อย ๆ บวก-ลบ ตามอายุ เพศและอาชีพ ไม่รวมรายได้..... ส่วนใหญ่พวกเดินทางวิธีนี้จะออกเดินตั้งแต่ เที่ยงคืน เพื่อให้ทันพระอาทิตย์ขึ้น...ไม่ควรลืมเสื้อกันหนาว  ไฟฉาย  ตอนเดินไม่ต้องใช้เสื้อ  แต่ถึงบนยอดเขาหนาวมาก ... ถามว่า เหนื่อยมั้ย...เดินเส้นทางธรรมดายังแทบตาย...แต่ส่วนใหญ่...สนุก...ไปถึงยอดเขาแล้วยังมีแรงกระโดด โลดเต้น อีกหลายรอบ...  เส้นทางเดินเป็นเส้นทางถนนที่รถวิ่งได้  แล้วเดินต่อด้วยทางธรรมชาติ ประกอบด้วยก้อนหินใหญ่น้อย  เถาวัลย์เกาะเกี่ยวกิ่งไม้ใหญ่ ไว้ให้คนเดินโหนได้เป็นครั้งคราว...

2. ขึ้นรถไปครึ่งทาง  ที่เหลือเดินเท้าด้วยเส้นทางธรรมชาติ...พูดถึงวิธีนี้ เราเคยไปมาเมื่อเกือบ 10 ปีที่แล้ว (ทำไมนานจัง) ไปกับพวกพี ๆ น้อง ๆ ที่ทำงาน .. ไปถึงตีนเขาก็พากันไปมอง ๆ รถที่ขับขึ้น ๆ ลง ๆ เขาสูง  ...พี่คนนึงอาศัยว่าอายุมากกว่า (แต่ประสบการณ์เท่ากัน คือ ไม่เคยมา) แสดงความคิดเห็นว่า "เราไปคันที่รถเก่า ๆ ลุงแก่ขับดีกว่า มันจะได้ไม่เสียวมาก"  เราก็เห็นด้วย รีบจองเที่ยวนี้...พอจองเสร็จ..คนที่เพิ่งลงจากรถลุงคันนั้นเดินสวนมา  พูดกับเพื่อน ๆ ในกลุ่มว่า "ไข่ลงไปอยู่ที่ตาตุ่มเลยตู!!!"

3. ขึ้นรถไปถึงยอดเขาโดยไม่ต้องเดิน....ก็สบายหน่อย  ไม่เหนื่อย  แต่น่าคิดนะ ...เขายิ่งสูงทางยิ่งชัน ...ยิ่งหนาววววววววว...

บางคนอาจจะขึ้นเขานี้ปีละหนึ่งรอบ  แต่จะขึ้นแทบทุกปี  บางคนขึ้นทุกปี และปีละหลาย ๆ รอบ ด้วยเหตุผลต่างกัน  ความสุขใจที่เกิดจากความเชื่อของการขึ้นไปทำบุญบนยอดเขาที่มีรอยพระพุทธบาท  การได้ไปดูหินก้อนใหญ่ที่บางคนบอกว่าลอยอยู่บนพื้น  ความสนุกสนานที่ได้ทำกิจกรรมกับเพื่อน ครอบครัวในสถานที่ที่ไม่ธรรมดา  ได้ช่วยเหลือ แบ่งปันกับคนอื่นที่ไม่รู้จัก  บางกลุ่มเที่ยวไปด้วย ช่วยเก็บขยะตามทางไปด้วย...น่าชื่นชมค่ะแบบนี้ 

ไปแล้ว เป็นอย่างไรน่ะเหรอ  ....ต้องลองค่ะ  แต่ปีนี้ใกล้จะปิดเขาแล้ว  ปีหน้าเตรียมตัวให้พร้อมนะคะ!!

หมายเลขบันทึก: 172785เขียนเมื่อ 24 มีนาคม 2008 21:56 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:40 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

มีเรื่องเล่าอยู่เรื่อย ๆ สำหรับการขึ้นไปนมัสการรอยพระบาทอันศักดิ์สิทธิ์ ที่เขาพระบาทพลวง:

น้องสาวกับพรรคพวกรวมกันได้รถตู้หนึ่งค้น เดินทางจากอำเภอสัตหีบ เพื่อมาปืนเขาโดยเฉพาะ  เมื่อก่อนอยู่จันท์ ไม่เคยไป พออยู่ไกล แล้วค่อยนั่งรถมาขึ้นเขา เข้าทำนองตอนใกล้เกลือ ไม่รู้ไปกินอะไรอยู่....ด้วยเวลาที่มีอยู่อย่างจำกัดเพราะมาถึงเช้าจะกลับตอนค่ำ จึงเลือกนั่งรถขึ้นไปสองต่อ  ท่านเคยมาคงทราบว่าทางขึ้นเขานั้นทั้งชันและหักศอกในบางช่วงบางตอน รถที่นั่งขึ้นไปเป็นรถสองแถว เป็นรถกระบะที่นำมาใส่หลังคาและมีที่นั่งยาวสองข้าง  ผู้โดยสารก็จะนั่งเรียงกันจนเต็มพอดี พอถึงช่วงชันมาก ๆ รถมีการกระตุก เปลี่ยนเกียร์  ถ้าไม่ยึดจับราวไว้ให้ดี ผู้โดยสารก็จะถูกเทมารวมเบียดเสียดกันอยู่ด้านท้ายพร้อมกับเสียงอุทานวี๊ดว้าย (เฉพาะผู้หญิงกับเพศที่สาม) ถ้าที่เป็นผู้ชายก็อาจจะโห่อื้ออึงบ้างเป็นปกติ

แต่คราวนี้นอกจากเสียงอื้ออึงแล้ว น้องสาวยังรู้สึกได้ถึงน้ำที่ไหลเปียกบริเวณก้น... ด้วยความงุนงงว่า  ฝนก็ไม่ได้ตก หรือตัวเองฉี่ไม่รู้ตัวเลย ก็ตั้งสติสำรวจตัวเอง พบว่าไม่ได้น้ำนั้นไม่ใช่ฉี่ของตัวเองแน่นอน จึงมองหาว่า น้ำนั้นมาจากไหน??? ที่แท้ป้าที่นั่งอยู่ก่อนน้องสาวปล่อยออกมาให้คนอื่นรับทราบว่า แกกลัวจนกลั้นไม่อยู่!!!

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท