น้องฟุง ลูกชายคนเล็ก ติดตามไปตอนคุณแม่ไปเรียนต่อที่ออสเตรเลียตั้งแต่เค้าอายุ 2 ขวบ ยังพูดไม่ได้เลย (เป็นเด็กพูดช้า) ดังนั้นจึงไปเริ่มพูดเอาที่โน่น แต่ดีที่เค้าขอให้พวกเราพ่อแม่และพี่ชาย 2 คนพูดไทยกับเค้าที่บ้าน เราจึงมีกฎว่าต้องพูดไทยในบ้าน ห้ามพูดภาษาอังกฤษ ที่ต้องมีกฎนี้เพราะเจ้าพี่ชายทั้งสองที่อายุ 7 และ 8 ขวบตอนไป โดนเพื่อนที่โรงเรียนว่า เวลาพูดกันเป็นภาษาไทย (เพราะเค้าฟังไม่รู้เรื่อง) ก็เลยชอบคุยกันเวลาเล่นด้วยกันเป็นภาษาอังกฤษ แล้วก็ติดมาที่บ้าน น้องฟุงจะเป็นคนคอยดุว่าให้พูดไทย เค้าจึงสามารถฟังและพูดภาษาไทยได้ดี (เราคิดกันเอง) แต่ปรากฎว่าครั้งแรกๆที่เจอน้าๆนักเรียนไทย มีบางคนมาถามคุณแม่ว่า น้องฟุงพูดภาษาอะไรคะ ฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง จะว่าภาษาอังกฤษก็ไม่ใช่ ต้องฟังกันสักพักจึงเข้าใจ เพราะจริงๆน้องฟุงพยายามพูดไทย (ที่พวกเราพ่อแม่คิดว่าพูดได้ดี เพราะเราฟังรู้เรื่อง แต่จริงๆมันไม่ใช่แบบที่คนไทยทั่วๆไปพูดกัน เค้าจะพูดแบบประโยคภาษาอังกฤษแปลมาเป็นไทย)
กลับมาแล้วได้สามสี่เดือน น้องฟุงอ่านภาษาไทยได้คล่องแล้ว แต่ก็ยังมีอะไรให้เราได้ฮาเสมอ เช่น น้องฟุงจะอ่าน ปาดังเบซาร์ ว่า ปา-ดัง-บะ-เซา แล้วก็เถียงเวลาเราบอกเสียงที่ถูกว่า ก็เหมา, เศร้ายังอ่านว่า เหมากับเส้า เลย ไม่ใช่ เห-มาหรือเส-ร้า
ป้ายทางเข้าที่เขียนเฉลิมฉลองพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเอาไว้ น้องฟุงก็อ่านว่า ที-คา-ยุ-โก-โหด-มะ-หา-รา-ชา พอบอกว่า โห-ตุ น้องก็ยกตัวอย่างว่าทำไมไม่เหมือน เหตุล่ะ
ทำให้นึกถึงที่มีอาจารย์มาบ่นให้ฟังว่าเจอเด็กมหาวิทยาลัยแล้ว อ่าน one, misuse ว่า ออน-เน่ กับ มิ-ซู-ซี
นึกไม่ออกเหมือนกันว่าจะโทษอะไรดี ก็คงต้องช่วยๆกันแก้ไขและบอกต่อ เหมือนๆกับที่พวกเรากำลังช่วยน้องฟุงกันอยู่