วันนี้ขอเล่าบรรยากาศและเนื้อหาสาระของการประชุมเครือข่ายฯสัญจร ครั้งที่ 2/2549 ซึ่งองค์กรออมทรัพย์ชุมชนบ้านแม่พริกเป็นเจ้าภาพต่อเลยนะคะ เมื่อวานนี้ผู้วิจัยเล่าถึงวาระที่ 3 ในส่วนที่คุณกู้กิจ ซึ่งเป็นประธานองค์กรออมทรัพย์บ้านดอนไชย ต.ล้อมแรด อ.เถิน จ.ลำปาง ได้เสนอแนวคิดเกี่ยวกับการบริหารจัดการแบบใหม่ ซึ่งให้ตำบลมีอำนาจเต็มที่ในการบริหารจัดการทุนของชุมชนด้วยตนเอง ซึ่งถือได้ว่าเป็นประวัติศาสตร์อีกหน้าหนึ่งที่ต้องจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ของเครือข่ายฯเลยนะคะ หลังจากการนำเสนอของคุณกู้กิจ มีความเห็นตามมามากมาย เรามาลองดูกันนะคะว่าจะเป็นอย่างไร
วาระที่ 3 เรื่องสืบเนื่อง (ต่อ)
อ.ธวัช ในฐานะประธานองค์กรออมทรัพย์บ้านแม่พริก ได้ยกมือแสดงความคิดเห็นต่อข้อเสนอของกลุ่มบ้านดอนไชยว่า ผมเองก็คิดถึงกลุ่มตัวเองเหมือนกัน ที่ผ่านมาเราทำตามสูตรของประธานมาโดยตลอด พยายามเก็บออมทุกอย่าง ทำทุกอย่าง แต่เงินก็ยังไม่พอใช้ มีปัญหาเรื่องการเงิน ในเดือนที่แล้วสมาชิกของกลุ่มตาย 2 ศพ ต้องจ่ายให้รายละ 15,000 บาท (รวมเป็นเงิน 30,000 บาท) จะให้ทางกลุ่มทำอย่างไร ทั้งๆที่ทุกเดือนเราก็จ่ายค่าเฉลี่ยศพไปที่เครือข่ายฯ แต่ตอนนี้เงินของกลุ่มช็อต (พูดง่ายๆ คือ เงินไม่พอ) ตอนนี้กลุ่มค้างค่าเฉลี่ยศพอยู่ประมาณ 41,302 บาท แต่ตอนนี้ไม่มีเงินที่จะจ่ายแล้ว เงินค่าศพก็ไม่มีจ่าย พอไปเอาที่เครือข่ายฯ เครือข่ายฯกลับบอกว่าไม่ให้ ต้องให้ทางกลุ่มจ่ายค่าเฉลี่ยศพมาที่เครือข่ายฯให้ครบเสียก่อน ทำให้ผมนั่งคิดมาตลอดเดือนที่ผ่านมาว่าผมจะช่วยสมาชิกของผมซึ่งมีประมาณ 770 กว่าคนได้อย่างไร ตอนแรกคิดว่าจะทยอยจ่ายค่าเฉลี่ยศพให้เครือข่ายฯไปเรื่อยๆ แต่เหตุก็เกิดขึ้น เพราะ เดือนที่แล้วทางกลุ่มมีคนตาย 2 ศพ พอจะไปขอเงินค่าศพจากเครือข่ายฯมาจ่ายให้สมาชิกก่อน ปรากฎว่าเครือข่ายฯก็ไม่ยอมให้สักบาทเดียว เมื่อเป็นอย่างนี้ผมก็มานั่งคิดว่าผมจะจัดการอย่างไร จะหาเงินมาจ่ายให้สมาชิกได้อย่างไร โดยที่ไม่ถูกชาวบ้านมาตีหัวเอา ผมนั่งคิดไปคิดมาก็เห็นว่าเงินที่ทางกลุ่มส่งไปที่กองทุนกลาง (กองทุนสำรอง) ของเครือข่ายฯมีถึง 20% ทำไมไม่ให้ผมยืมออกมาก่อน เงินที่ต้องส่งไปที่เครือข่ายฯ ทั้งเงินกองทุนชราภาพ กองทุนเพื่อการศึกษา ทางกลุ่มก็ส่งตลอด ไม่เคยขาด คิดไปแล้วน้อยใจ คณะกรรมการของกลุ่มบางคนรู้เรื่องเข้าก็หมดกำลังใจ เราอุตส่าห์ทำความดีมาตลอด ผมอยากเรียนให้สมาชิกทุกคนของเครือข่ายทราบว่า เมื่อเราลงมือทำงานแน่นอนว่าต้องมีปัญหาตามมา การทำงานทุกอย่างต้องมีปัญหา แต่ถ้าเราสามารถแก้ไขปัญหาทุกอย่างให้ลุล่วงไปได้เราจะเกิดความภาคภูมิใจ นี่คือ หลักการบริหาร เพราะฉะนั้นถ้าเป็นอย่างนี้เราจะทำอย่างไร ในกรณีนี้เรามีเงินอยู่ที่จังหวัด แต่เครือข่ายฯกลับไม่ให้มา ผมจึงได้มาปรึกษากับคณะกรรมการของกลุ่มซึ่งได้ข้อสรุปว่า ต้องเอาเงินออมในเดือนต่อไป (ก็คือเดือนกุมภาพันธ์) มารวมกับเงินกองทุนธุรกิจชุมชนที่มีอยู่แล้วนำไปให้กับญาติของสมาชิกที่เสียชีวิต เพราะฉะนั้นผมจึงอยากขอเงิน 20% ซึ่งเป็นเงินสำรองเอาไว้ที่กลุ่มได้ไหม ผมคิดออกแค่นี้ และขอสนับสนุนความคิดของกลุ่มเถินเต็มที่ เพราะ กลุ่มผมประสบปัญหาด้วยตนเอง ถ้าเราให้เถินเป็นกลุ่มทดลอง แล้วเถินสามารถอยู่ได้ เราก็ทำตามเถินไป รับรองว่าจะต้องดีตามเถินแน่นอน แต่ให้เถินทำแล้วไม่ประสบความสำเร็จ มีปัญหา เราก็ต้องหาทางปรับปรุงแก้ไข
เมื่อ อ.ธวัช กล่าวจบ พี่นก ยุพิน ในฐานะเลขานุการกลุ่มเถิน ได้ยกมือแสดงความคิดเห็นว่า เมื่อมาดูยอดที่คุณกู้กิจคิดออกมาในส่วนของการจ่ายสวัสดิการ (เกิด แก่ เจ็บ ตาย) ภายในกลุ่ม ซึ่งคุณกู้กิจคิดออกมาเฉลี่ยคนละ 3 บาท/เดือนนั้น อย่างสมาชิกของเถินเดือนหนึ่งจ่ายสวัสดิการในส่วนนี้ประมาณ 6,000 กว่าบาท (เถินมีสมาชิกประมาณ 2,015 คน) นี่คือ สถิติของกลุ่มใหญ่ แต่ถ้าเราไปดูที่กลุ่มเล็กๆ จะยิ่งหนักกว่านี้ (หมายความว่าค่าเฉลี่ยจะสูงกว่านี้ค่ะ) เพราะฉะนั้น ยอดรวมจะไม่ใช่ 41บาท/คน/เดือน ยอดจะต้องสูงกว่านี้ ทุกครั้งเราไม่ได้คิดวิเคราะห์แบบนี้ แต่พอเอาตัวเลขมาวิเคราะห์จริงๆเราจะเห็นปัญหาเลย นี่คือ สาเหตุที่ทุกกลุ่มบอกว่าไม่มีเงิน จะมีได้อย่างไร เราเก็บกันเดือนหนึ่ง 30-31 บาท แต่จ่ายจริง 41 บาทขึ้นไป ถ้าเราปล่อยให้เป็นอย่างนี้ต่อไปปัญหาก็จะยิ่งหมักหมมไปเรื่อยๆ เราจะเข้าเนื้อขนาดไหน เราจะอยู่ได้ไหม โดยเฉพาะกลุ่มเล็กๆ นี่คือ ที่มาที่เรามานั่งคุยกัน มาวิเคราะห์กันภายในกลุ่ม ดังนั้น กลุ่มของเราจึงอยากเป็นหนูทดลองวิธีการบริหารจัดการแบบใหม่ดู
จากนั้นคุณกู้กิจ กล่าวเสริมต่อไปว่า ในประเด็นนี้สมมติว่ามีอำเภอ ก , ข , ค เห็นว่าเข้าท่า คิดอยากทำอย่างนี้ ปรากฎว่า อำเภอ ก. อยากจะทำนำดื่ม แต่เงินของอำเภอ ก. ไม่พอ เมื่อ อำเภอ ก , ข , ค และอำเภอเถิน มีความคิดตรงกัน ก็ให้อำเภอ ก. มายืมเงินของอำเภอที่มีความคิดเหมือนกันเลย ทำสัญญาลูกผู้ชาย นี่คือ การให้ชุมชนอย่างแท้จริง แต่ถ้ายังเป็นเหมือนทุกวันนี้ เงินยังไปกองอยู่ที่เครือข่ายฯ นอนอยู่ในห้องแอร์ ไม่ได้ทำประโยชน์ให้กับชุมชน
ประธานพยายามตัดบท โดยบอกว่าพอที่จะเข้าใจแล้ว ก่อนที่ประธานจะกล่าวอะไรต่อไป คุณปิยชัย ในฐานะประธานองค์กรออมทรัพย์ชุมชนบ้านต้นธงชัย ได้ยกมือขอแสดงความคิดเห็นว่า จากแผนภูมิที่ทางกลุ่มเถินคิดออกมา (รายรับ-รายจ่ายสวัสดิการ) เป็นเรื่องที่ทุกกลุ่มน่าจะนำไปศึกษา ผมได้พูดตั้งแต่การประชุมครั้งที่ผ่านมาแล้วว่าในกรณีของกลุ่มบ้านต้นธงชัยจ่ายเงินเข้ามาที่เครือข่ายฯประมาณ 67% ยังไม่รวมที่ทางกลุ่มยังเป็นหนี้อยู่อีกหมื่นกว่าบาท
วันนี้ขอเล่าแค่นี้ก่อนนะคะ เพราะ หากเล่าต่อจะอีกยาวค่ะกว่าจะจบประเด็นนี้ (แถมตอนนี้ก็ดึกแล้วด้วยค่ะ ต้องรีบไปทำงานอื่นที่ค้างเอาไว้) ถ้าพรุ่งนี้โอกาสอำนวยจะเข้ามาเล่าให้ฟังต่อไปค่ะ แต่ขอบอกก่อนว่าไม่ควรพลาด เพราะ บรรยากาศเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆค่ะ