มหาชีวาลัยสองแควเยี่ยมวงน้ำชา ( 4 )


Bonding ก็คงไม่ใช่ง่ายๆแบบว่าประกาศจัดตั้งเครือข่าย ให้ชุมชนส่งรายชื่อมา แล้วประกาศจัดตั้งเป็นเครือข่าย แต่ไม่รู้จักคำว่า Bonding ชาติหน้าตอนดึกๆก็ไม่สำเร็จ

 

มื้อเย็นที่มีความหมาย  นายดิน  น้องผึ้ง  และหมอเบิร์ด

           เล่าเรื่องสุนทรียสนทนาในตอนก่อนแล้วเครียดนิดๆ  คงติดต่อมาจากน้าอึ่งอ๊อบ  ทำอะไรที่เป็นสาระหน่อยให้เครียดไปหมด  เล่าเรื่องไร้สาระมั่งดีกว่า

           เมื่อจบวงสนทนาที่ห้องนั่งเล่น  น้องผึ้งกับนายดินก็พาเรามาที่ร้านตองตึง  อยู่ระหว่างโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์กับสนามบินเก่าที่คนชอบวิ่งแอบไปวิ่งทุกครั้งที่ไปเชียงราย  อาหารก็เป็นอาหารพื้นเมืองทางเหนือ  มีแกงแค  ใส้อั่ว  อะไรอีกก็จำไม่ได้  จดก็ไม่ได้จด  รูปก็ไม่ได้ถ่าย  กินอะไรก็ไม่ลง  เพราะไม่รู้หมอเบิร์ดจะมาคุยด้วยรึเปล่า  บอกไว้ว่าไปทำงานที่พะเยา  พยายามจะรีบกลับมาให้ทันคุยด้วย  นั่งคอยาวรอ  ข้าวปลาไม่ต้องกินมันละ  (  แปลว่าคอยชะเง้อดู....  อิอิ )

           น้องผึ้งนี่น่ารักมาก  ขอบอก  คุยเก่ง  เป็นกระบวนกรที่เก่งมาก ( แต่วงน้ำชาบอกว่ายังใหม่อยู่  ขนาดใหม่ๆยังขนาดนี้  แล้วที่เก่าๆจะขนาดไหนล่ะเนี่ย ) 
           น้องผึ้งจะร่วมวงสนทนาด้วยถ้าว่างจากภารกิจช่วยคุณเมต้อนรับแขก  เป็นผู้ฟังที่ดี  เก็บรายละเอียดต่างๆเก่ง  แต่จะมีจังหวะพูดที่เหมาะสม  ถ้าได้พูดละก้อ  น่าดูเหมือนกัน  จากการแลกเปลี่ยนประสบการณ์กัน  ก็ได้รับความรู้ต่างๆหลายอย่างจากน้องผึ้ง  ช่วยให้เข้าใจเรื่องที่ติดค้างในหัวใจอยู่ได้มากทีเดียว  เป็นขวัญใจของวงสนทนาบนโต๊ะอาหารมื้อเย็นเลย

           นายดินนี่เป็นหนุ่มน้อยที่มีบุคคลิกเงียบขรึม  อาจารย์วิศิษฐ์เล่าให้ฟังว่าเรียนแบบ Home School  นายดินสนใจการแพทย์แบบธิเบต  วิธีการเล่าเรียนก็ต้องไปอยู่ที่บ้านกับครอบครัวของอาจารย์ที่ธิเบตเลย  มีการทำโครงการนักเรียนแลกเปลี่ยนด้วยนะ  คือลูกของหมอธิเบตก็ถูุกส่งมาอยู่ที่เชียงรายเหมือนกัน  นายดินต้องไปปรนนิบัติที่บ้านอาจารย์  ทำเกือบทุกอย่าง  ฟังดูยังกะหนังบู๊ลิ้มเลย

  
           ที่ห้องนั่งเล่นนายดินจะเป็นผู้ฟังที่ดี  คือพูดน้อยมาก  คิดว่า  มื้อเย็นนี้คงจะกินกันเงียบๆ  แต่ที่ไหนได้  พอน้องผึ้งเห็นบรรยากาศทึมๆ  ก็เลยแหย่ว่าหมอดินนี่  มีวิชาแพทย์แผนธิเบต  เก่งมากคนนึง  แค่นั้นแหละก็เกิดความชุลมุน  เกิดการแย่งคิวหมอดินกัน  นักการอิ่มอาศัยความเก๋า  ไวกว่าคนอื่น  ได้คิวแรกเลย 
           นายดินก็คว้ามือมาจับชีพจร ( เรียกแม๊ะรึเปล่า ? อิอิ )  แล้วค่อยๆซักประวัติ  ใช้เวลานานพอสมควร  ท่าทางเคร่งขรึมขณะตรวจ  แต่หลังจากตรวจเสร็จก็วินิจฉัยแล้วแนะนำ  คราวนี้เป็นที่สนุกสนานเลย  มีเสียงหัวเราะไม่ขาดสาย  นายดินเลยกลายเป็นพระเอกของมื้อนี้ไปเลย  หลังจากนั้นสาวๆก็แย่งกันให้หมอดินตรวจ  หมอดินตั้งข้อสังเกตว่าทีมนักการมีแต่พวกที่เป็นโรคหัวใจ  พวกอกหัก  ใจง่าย  ใจถึง  ใจเต็มร้อย ฯ


           นายดินนี่ไม่ใช่รอบรู้แต่เรื่องแพทย์แผนธิเบตนะครับ  คุยกันอยู่นายดินก็พูดเรื่อง  Bonding  นักการอิ่มตื่นเต้นมาก  ร้องว่าใช่เลยๆๆๆๆ   สงสัยปิ๊งแว๊บ  หรือคลิกอะไรสัักอย่างเข้าให้ 
           Bonding  เองก็เป็นเรื่องที่คนชอบวิ่งสนใจอยู่มาก  เพราะมีหลายโครงการที่ทำร่วมกับประชาชนแล้วไม่ประสบความสำเร็จ ( เท่าที่ควร )  เพราะเราทำความเข้าใจ  ให้ความรู้  ลงไปทำงานด้วยกัน  ติดตามผลสักระยะหนึ่งก็เริ่มตีบตัน  ไม่รู้จะไปทางไหนต่อ  รู้สึกว่าอะไรๆก็เริ่มยากขึ้นเรื่อยๆ  ไม่รู้จะทำอะไรต่อ  ทีมงานก็มีงานหลายด้านเหลือเกิน  รู้สึกเสียดายความพยายามที่ลงมือลงแรงกันไป  แล้วไม่ได้ผล
           นายดินเล่าให้ฟังว่ากระบวนกรไม่ใช่แค่ชวนผู้เข้ารับการอบรมเล่นเกมให้สนุกสนาน  แก้ง่วงแล้วมาอบรมกันต่อ  แต่ต้องทำให้เกิด Bonding  มีความผูกพันกัน  เป็นเครือข่ายกัน  ติดต่อพูดคุยกันเป็นนิจ  ก็จะเกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันไปตลอด

           นักการอิ่มคงปิ๊ง  แว๊บหรือคลิกตรงนี้นี่เอง  โครงการต่างๆที่พวกเราชอบทำกันก็อยู่บนสมมุติฐานที่ว่า  ชาวบ้านไม่รู้  ถ้ารู้แล้วก็คงจะทำ  ก็เลยจับชาวบ้านมานั่งฟังปรมาจารย์ทั้งหลายบรรยายๆๆๆๆๆ   ให้รู้   พอไปติดตามผลก็ไม่เข้าใจว่าทำไมชาวบ้านไม่ทำ  คงไม่รู้จริงก็จับเอามาอบรมใหม่  เพิ่มชั่วโมงบรรยายเข้าไป  จะได้รู้เรื่องดี  มันไม่ง่ายยังงั้นหรอกลุง  อิอิ  ป่านนี้ยังทำกันอยู่เป็นล่ำเป็นสัน
           ถึงจะพัฒนาการฝึกอบรมมาเป็นแบบชาวบ้านมีส่วนร่วม  ร่วมกันคิด  มีแบบฝึกหัดให้ปฏิบัติ  เหมือนที่มหาชีวาลัยกำลังทำอยู่  ถ้าขาด Bonding  ก็อาจไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควรก็ได้  อิอิ 
           Bonding  ก็คงไม่ใช่ง่ายๆแบบว่าประกาศจัดตั้งเครือข่าย  ให้ชุมชนส่งรายชื่อมา  แล้วประกาศจัดตั้งเป็นเครือข่าย  แต่ไม่รู้จักคำว่า Bonding  ชาติหน้าตอนดึกๆก็ไม่สำเร็จ  ใครอยากรู้เรื่อง Bonding ก็ไปหานายดินที่เชียงรายแล้วกัน  อิอิ

           ขออภัยแฟนทั้งหลาย 2 เรื่อง  เรื่องแรกคือการใช้ศัพท์ภาษาอังกฤษ  Bonding  เพราะเป็นศัพท์ที่ใช้ในวงสนทนาจริงๆ  เลยไม่อยากเปลี่ยนให้เสียอรรถรส  อิอิ
           เรื่องที่สองคือ  หัวข้อมีชื่อหมอเบิร์ดอยู่ด้วยแต่ไม่ออกโรงเลย  ต้องขออธิบายว่าเป็นเพราะต้องการชื่อเรื่องไปทาง  เนื้อเรื่องไปทาง  ไม่ใช่ๆๆๆ   เพราะเขียนเรื่องหมอเบิร์ดไปแล้ว  อีกอย่างบล็อกนี้ก็ยาวมากแล้ว  ให้นายดินกับน้องผึ้งเป็นพระเอกนางเอกดีกว่า  อิอิ 

คำสำคัญ (Tags): #bonding
หมายเลขบันทึก: 170232เขียนเมื่อ 11 มีนาคม 2008 00:27 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 23:04 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (17)

เขียนแบบ หักเหลี่ยมโหด ว่างั้นเถอะ

ไปคนละทาง ในเส้นรอบวง เดี๋ยวก็เขอกัน

P 1. ครูบา สุทธินันท์ ปรัชญพฤทธิ์

  • ครูบามานั่งรออ่านเลยนะ  อิอิ  ยังงี้ถ้าเลิกเขียนคงมีคนลงแดงแน่ๆเลย
  • ไม่อยากบอกใคร  กลัวกะปุ๋มว่าเอาน่ะครับ  อิอิ

สวัสดีค่ะ

ตามมาอ่าน มาเรียนรู้ค่ะ อยากมี Bonding มั่งค่ะ...อิอิ

  • หนุ่มเสื้อขาวเท่ห์สุดๆเลยค่ะ อิอิ

สวัสดีค่ะคุณหมอสุธีที่เคารพ

เห็นหัวเรื่องมี..สองแคว..เลยเข้ามาดู..ว่าเขาทำอะไรกันที่พิดโลก..อิๆๆ....คุณหมอเอง.. คงสนุกดีน่ะค่ะกับกิจกรรมต่างๆ..โอกาสหน้ามีอะไรให้รับใช้ เพื่อประโยชน์สำหรับประชาชนชาวสองแคว..แจ้งให้ทราบได้เลยน่ะค่ะ..ยินดีมากค่ะ....

ด้วยความเคารพ

ยายหมูอ้วนเอง

สวัสดีค่ะคุณหมอสุธีที่เคารพ

เรียนถามนอกเรื่องนะคะ..ไม่ทราบว่า พื้นที่แถวมหาวิทยาลัยนเรศวร..จะยกให้ไปอยู่ในความดูแลของเทศบาลฯหรือยังค่ะ

เพราะดูการทำงานของอบต.ท่าโพธิ์ดูเหมือนไม่ค่อยเป็นระบบเลยค่ะ..คือดิฉันมีที่ดินอยู่แถวมหาวิทยาลัยนเรศวรประมาณสิบไร่ ถมดินแล้ว..กลับเมืองไทยคราวที่แล้ว ไปรังวัดที่ดินอีกครั้งหนึ่ง เพราะซื้อมาจะครบสิบปีแล้ว..ค่ะ..ปรากฏดินถูกขุดหายไปเป็นทางยาวประมาณ80เมตร กว้าง 1เมตร..ไปถาม นายก อบต นายกฯ..บอกว่าน้ำท่วมแถว มหาลัย..เลยจำเป็นต้องมาขุดคลองแถวนั้น แต่เผอิญมันรุกล้ำเข้ามาในที่ดินดิฉัน..แล้วดินก็หายไป..(เห็นช่างรังวัดเขาเล่าให้ฟังน่ะค่ะ..ไม่ได้เข้าไปดูเองเนื่องจากมีหญ้าขึ้นเต็มไปหมดแล้ว..)....ก็เลยแจ้งนายก อบต.เป็นลายลักษณ์อักษรในเบื้องต้นว่า ดิฉันได้รับความเสียหายอย่างไรและ ให้ช่วยจัดการหาดินมาถมให้เหมือนเดิม..เมื่อเลยฤดูฝนไปแล้ว..แต่ก็เองยังไม่มีโอกาสได้ไปเช็ค ว่า อบต.ได้ดำเนินให้แล้วหรือยัง..นะค่ะ..

ด้วยเหตุนี้..จึงคิดว่าถ้าพื้นที่แถวนั้น ถ้ายกให้อยู่ในความดูแลของเทศบาลก็คงจะดีกว่า...ค่ะ คิดว่าคงจะเป็นระบบมากกว่านี้ (ความคิดเห็นค่ะ)

ด้วยความเคารพ

จิรประภา มากลิ่น

P 3. paew

P 4. อ.ลูกหว้า

  • ขอบคุณมากครับที่ชม  อ. ลูกหว้าไม่ใช่คนแรก  ทั้งมิใช่คนสุดท้ายที่ชมนะครับ  อิอิ 

P 6. J. Maglin

  • ดีใจที่ได้ทราบข่าวจาก อ. จิรประภา  ครับ
  • ปกติการยุบรวมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้าด้วนกันก็ทำได้ 2 วิธีครับ
  • วิธีที่ 1  รัฐบาลประกาศให้ยุบรวมกันเลย  เหมือนที่ทำกันในหลายๆประเทศ  เช่นญี่ปุ่นเป็นต้น ( Amalgation )
  • วิธีที่สอง  เกิดจากความสมัครใจขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้งสองแห่ง  ซึ่งต้องผ่านการรับฟังความคิดเห็นของประชาคม  อาจต้องลงประชามติ   เพื่อยุบรวมกัน
  • แต่ในกรณีของเทศบาลนครพิษณุโลกกับ อบต. ท่าโพธิ์คงจะลำบากยิ่งขึ้น  เพราะพื้นที่ของ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้งสองแห่งไม่ติดต่อกันด้วย  มี อบต. ท่าทอง  และ อบต. วัดจันทร์คั่นอยู่ครับ

สวัสดีค่ะคุณหมอสุธี

เห็นด้วยว่าค่ะน้องดินและคุณผึ้งนั้นน่ารักมากๆและประกายตาสุกใส กระจ่างเชียวล่ะค่ะ  การคุยกันวันนั้นเบิร์ดก็ได้คำว่า bonding เช่นเดียวกัน และได้เห็นวิธีการตรวจแบบหมอธิเบตที่น่าสนใจมากๆ และจะเน้นการรักษาด้วยสมุนไพร อาหาร และจิตใจ คล้ายๆกับวิถีดั้งเดิมของหลายๆแห่งเลยนะคะ

นอกจากนี้ก็ขอประทานกราบเรียนว่าเบิร์ดได้รับขนมเรียบร้อยแ้ล้ว ตั้งแต่สองทุ่มครึ่งของคืนวันที่ 10 มี.ค.ค่ะ  แต่วันนี้ทั้งวันเบิร์ดต้องไปนิเทศที่ อ.แม่ฟ้าหลวง ( บ้านเทอดไทย ที่ขุนส่า ราชายาเสพติดที่เคยแย่งชิงแผ่นดินกับเราไงคะ  ยิงกันสนั่นดอยเลย อิ อิ อิ )  ทำให้มารายงานตัวช้าหน่อยค่ะ  และพรุ่งนี้เบิร์ดจะเอาของฝากไปฝากหมอหน่อยให้ถึงมือเลยนะคะ

เกือบลืมแน่ะค่ะ  เบิร์ดกอดนักการเมี่ยงและฝากกอดนักการอิ่ม  รวมทั้งให้มากอดคุณหมอด้วยล่ะค่ะ แต่นักการเมี่ยงบอกว่า " เมี่ยงไม่กล้ากอดคุณหมอหรอก  "  อิ อิ อิ ^ ^

สวัสดีค่ะ อ.หมอคนชอบวิ่ง

  • คนเสื้อข้าว ท่าทางจะไม่ได้กินข้างจริงด้วย ผอมเชียวค่ะ

 

 P เบิร์ด

  • วันนั้นเป็นวันที่คุยกันสนุกมาก  แถมได้ความรู้จากนายดิน  น้องผึ้ง  ทั้งเรื่องการแพทย์แผนธิเบต  วิทยายุทธกระบวนกร  โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องอาหารปลอดภัยจากหมอเบิร์ด
  • ประทับใจการทำเรื่องอาหารปลอดภัยของทีมงานหมอเบิร์ด  มีทั่งทฤษฎี  การลงพื้นที่ทำงานร่วมกับชาวบ้าน  การทำงานเชิงรุก  บุกไปดูถึงแหล่งผลิต ( วันอาทิตย์ยังบุกไปถึงพะเยา )  ครบเครื่องทั้งบู๊ทั้งบุ๋น  อิอิ
  • เรื่องการกินอยู่ ( น่าแถมเรื่องหลับนอนด้วยนะ ) ของคนไทยสมัยอยุธยา  อาหารแมคโครไมโอติกก็น่าสนใจมาก  กลับมาถึงพิษณุโลกถึงกับมาเปิดบล็อกของหมอเบิร์ดอ่านต่อ
  • โห  พออ่านบล็อกก็ประทับใจมาก  เห็นการเขียน  การตอบข้อคิดเห็น  การขอโทษถ้าตอบช้า  การชวนคุย  เหมือนได้ไปนั่งคุยในห้องรับแขก  บ้านหมอเบิร์ดเลยนะ  ปลื้มซะจนต้องเขียนบล็อกเล่าให้คนอื่นฟัง 
  • เดี๋ยวนี้ต้องขยันเขียนบล็อก  หัดอ่านบล็อกคนอื่น  อ่านความคิดเห็นอย่างลึกซึ้งและตอบความเห็นด้วยหัวใจ  มีขอโทษด้วยนะถ้าตอบช้า  มีชวนคุยด้วย  อย่างที่คุยอยู่นี่ไง อิอิ

P pa_daeng[มณีแดง คนสวย แซ่เฮ]

  • ผิดหวังพอสมควรครับป้าแดงสวย  คนเก่ง
  • ปกติจะมีคนมาขอถ่ายรูปด้วยเป็นประจำจนรำคาญน่ะ  ไม่ค่อยอยากไปไหนเลย  ( คนหล่อก็ยังงี้แหละ )  
  • วันนั้นมีแต่คนไปขอถ่ายรูปกับคนใส่หมวกคาดผ้าขาวม้า  หล่อสู้เรายังไม่ได้เลย  ไม่เข้าใจเลย  อิอิ

สวัสดีค่ะคุณหมอสุธี

อ่านดูแล้ว  bonding เหมือนความรู้สึกเชื่อมโยงใกล้ชิดผูกพันผ่าน ความไว้วางใจ

เหมือนกระบวนการสร้างความสัมพันธ์ มีความเป็นมิตรและมีปฏิสัมพันธ์ต่อกันนะคะ

ไม่ทราบจะถูกหรือเปล่าค่ะ

P Sasinanda

  • แม่นแล้วครับพี่ Sasinanda 
  • เหมือนคุยกันก็สนิทสนมกันระดับหนึ่ง  ได้กินขนมที่พี่ฝากมาให้ก็ยิ่งผูกพัน  คิดถึงไปตลอดเลย  อิอิ  ใครอยาก bonding  ก็ส่งขนมมาให้คนชอบวิ่งนะครับ  อิอิ
  • กระบวนกรต้องทำให้เกิด Bonding ด้วย  หลังจากการได้พูดคุยกัน  อบรมด้วยกัน  มีความผูกพันกัน  ทำอย่างไรที่จะติดต่อกัน  และมีการพบปะพูดคุยกันเป็นนิจ  ก็เป็นสิ่งที่ต้องสนับสนุนให้เกิดขึ้นด้วยครับ  อิอิ

keyword : Bonding   ชอบใจคะ  ตรงมีความผูกพันกัน ทำอย่างไรจะพยายามติดต่อกัน อิอิ ขอบคุณคนชอบวิ่งนะคะ กับบันทึกดีๆ บทความที่ดี ของคนชอบวิ่งนะคะ

P 16. สุวรรณา

  • พี่นิดชอบแจกยาหอมเรื่อยเลย  อิอิ
  • เวลานัดมาวงส้มตำ  พี่นิดอย่าลืมนะครับ   อิอิ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท