ในที่นี้ก็เช่นกันผมจะขอนำเสนอบทความธรรมะที่เป็นแนวทางแห่งการศึกษาและการปฏิบัติสู่มิตรที่รักทั้งหลายเช่นเคย ผมเชื่อแน่ว่าถ้าโลกนี้ทุกคนมีความตระหนี่ขาดการเกื้อกูล การดูแลเอาใจใส่นะ ผมว่าสังคมเดือดร้อนเช่นกัน เพราะอะไร เพราะสัตว์ชั้นสูลอย่างมนุษย์ รวมจนถึงสัตว์ชั้นต่ำอย่างสัตว์ดิรัจฉาน ย่อมต้องการความรัก ความเมตตา และความอบอุ่นเอาใสใส่ ทั้งนั้น
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า"บุคคลพึงนำความตระหนี่ออกไปเสีย พึงข่มความตระหนี่ซึ่งเป็นมลทิน แล้วพึงให้ทาน เพราะบุญทั้งหลายเป็นที่พึ่งของสัตว์ในโลกหน้า"
การให้ทานเป็นความสุขของผู้เอาชนะตวามตระหนี่ได้ เพราะความส่วนใหญ่มักถูกความตระหนี่เข้าครอบงำ แต่เมื่อใดเราสละตวามตระหนี่หวงแหนออกไปด้วยความหวังว่า สิ่งที่ให้ไปแล้วจะก่อให้เกิดประโยชน์ เมื่อนั้นความสุขจะบังเกิดขึ้น กระแสแห่งบุญก็จะเข้ามาแทรกแทรงความตระหนี่ที่หมักหมมอยู่ในจิตใจ การเสียสละการดำรงอยู่ในสถานะของผู้ให้ จึงเป็นสัญลักษณ์ขอฝผู้ชนะอันประเสริฐ
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงตรัสว่า ผู้ให้ทานย่อมมีอานิสงส์ 5 ประการ คือ
1. ย่อมเป็นที่รักของชนเป็นอันมาก
2. สัปบุรุษผู้สงบย่อมคบหา
3. ชื่อเสียงอันดีงามย่อมขจรขจายไปทั่วสารทิศ
4. ย่มเข้าสู่ที่ประชุมอย่างผู้องอาจ กล้าหาญ
5. เมื่อละโลก ย่มมีสุคติเป็นที่ไป
ท่านทั้งหลายครับ ไฟไม่อิ่มด้วยเชื้อ ทะเลไม่อิ่มด้วยนำ ผู้ให้ย่อมไม่อิ่มด้วยการให้ทานครับ
การที่ผมนำเสนอธรรมะนี้ก็เป็นแนวทางหนึ่งครับที่เพื่อน ๆ มิตรที่รักทั้งหลายจะได้อ่านเผื่อได้ความรู้ทางธรรมและแนะผู้อื่นได้ เพราะเป็นความรู้ที่เป็นธรรมทาน เมื่อผมเป็นพระก็มักจะได้เทศนาบ่อย ๆ เมื่อมาสู่ความเป็นฆารวาสก็ขาดไป ผมจึงหาโอกาสที่จะนำเสนอธรรมะบนบล๊อก เพื่อระลึกถึงเมื่อก่อนและจะได้เป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านอื่น ๆ ในสังคมบ้าง
สวัสดีครับ......
ธ.ฉันทะ......
สวัสดีค่ะ
ขอบคุณค่ะ
ขอบคุณคุณครูมากที่มาลิ้มรสพระธรรมครับ