หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นที่ฮาวาย Honolulu Advertiser ฉบับวันที่ 24 กุมภาพันธ์นี้ ได้เขียนบทความในส่วนของ โฟกัส เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับไทย ว่าวันที่ 20 มีนาคมที่จะถึงนี้จะเป็นวันสำคัญวันหนึ่งคือ เป็นวันฉลองครบรอบ 175 ปี ความสัมพันธ์อย่างเป็นทางการระหว่างไทยกับอเมริการวมทั้งฮาวายด้วย ซึ่งยาวนานที่สุดกว่าทุกประเทศในเอเชีย โดยเจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธรฯ ซึ่งเสด็จมาเป็นผู้แทนพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเพื่อรับมอบรางวัล "The East-West Center's Asia-Pacific Community-Building Award"
โดยในปี 1967 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถได้เสด็จ พระราชดำเนินมายัง อีสเวสต์เซนเตอร์ ซึ่งอยู่ภายในมหาวิทยาลัยฮาวาย เพื่อทรงพระราชทานศาลาไทยเป็นของขวัญส่วนพระองค์ โดยส่งมาทางเรือ ซึ่งศาลาไทยนี้มีชื่อว่า พระที่นั่งปาฏิหารย์ทัศนัย โดยชื่อภาษาอังกฤษว่า " Throne of the Miracle Vision" ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่ศาลาที่อยู่นอกประเทศไทยและมีตราสัญลักษณ์ประจำพระองค์ด้วย
ศาลาไทยหลังเดิมนั้นเป็นไม้เนื้ออ่อน เมื่อเวลาผ่านไปนาน ทำให้เกิดชำรุดเสียหาย ซึ่งทางรัฐบาลไทยและอีสเวสต์เซนเตอร์ได้ร่วมกันขอพระบรมราชานุญาติปลูกสร้างใหม่ในปี 2006 โดยศาลาไทยหลังใหม่นี้ เป็นไม้สักทั้งหลัง ทาด้วยทองโดยมีสถาปนิกผู้ควบคุมดูแลในการก่อสร้างคือ ดร.ภิญโญ สุวรรณคีรี
ศาลาไทยหลังนี้มีความโดดเด่นอย่างมากและยังแสดงถึงสัญลักษณ์ความเป็นไทยในฮาวาย และตั้งตระหง่านที่มหาวิทยาลัยฮาวาย ที่โฮโนลูลู โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงตรัสถึงวัตถุประสงค์ในการพระราชทานศาลาหลังนี้ โดยขออนุญาติพิมพ์พระราชดำรัสเืมื่อครั้งทรงมอบให้ในปี 1967 ดังนี้
" It is my wish that this pavillion may serves as (a) symbol of universal hospitality and brotherhood at this center," " Let it be a haven of love and understanding for all travelers from East and West."
ในวันศุกร์ที่ 29 กุมภาพันธ์และ 1 มีนาคมที่ผ่านมา เป็นบุญของชาวไทยที่อาศัยในฮาวายได้มีโอกาสเข้ารับเสด็จสมเด็จพระเทพฯ โดยพระองค์ทรงมีอารมณ์ขัน ทำให้ทุกคนได้หัวเราะ อีกทั้งยังทรงจำได้ว่าเคยเสด็จมาเมื่อ 16 ปีที่แล้วเป็นการส่วนพระองค์ ซึ่งในครั้งนั้นผู้เขียนได้มีโอกาสเข้าเฝ้ารับเสด็จด้วย ในครั้งนั้นพระองค์ทรงฉลองพระองค์เรียบง่าย ทรงสะพายย่ามอีกด้วย ซึ่งผู้เขียนจำได้แม่นยำมาก ไม่รู้ว่าฟิลม์อยู่ไหน น่าจะเก็บอยู่เมืองไทย
เพื่อนคนไทยที่อาศัยอยู่ที่นี่ เธอไม่เคยมีโอกาสได้เห็นพระองค์ท่่านเลย เมื่อทราบว่าผู้เขียนได้มีโอกาสในหลายๆครั้งด้วยกันทั้งนอกและในประเทศไทย ทำให้เธอตื่นเต้นอยากได้มีโอกาสเช่นนั้นบ้างเพื่อชื่นชมพระบารมีใกล้ๆ ผู้เขียนได้แนะนำให้ถวายสิ่งของหรือพวงมาลัย ซึ่งส่วนใหญ่แล้วต้องแจ้งและลงทะเบียนล่วงหน้า เธอจึงเกิดแรงบันดาลใจทำตามที่แนะนำ
ในงานเลี้ยงเย็นวันศุกร์ที่โรงแรมมีผู้ร่วมงานกว่า 800 คนอย่างเป็นทางการ ทำให้ไม่มีโอกาสเท่าใดนัก แต่ในวันรุ่งขึ้นนั้นที่อาคารด้านข้างศาลาไทยจะได้มีโอกาสอีกครั้ง เธอจึงนำสิ่งของที่เตรียมมาถวายไปด้วย แต่ผู้ที่พบเห็นหลายคนได้แต่บอกให้เธอทำใจ อาจไม่ได้มีโอกาสถวายแด่พระองค์ท่าน และต้องนำกลับบ้าน เธอก็ไม่ละความพยายาม ในตอนแรกเธอไม่สามารถเข้าด้านในอาคารได้เนื่องจากไม่ได้ลงทะเบียนไว้ แต่สุดท้ายเธอก็ได้เข้าไป มีคนไทยมากมายเตรียมพวงมาลัยดอกไม้ ที่นี่เรียก "Lei"(อ่านว่า เล) เพื่อนไม่ได้อยู่ด้านหน้า คือห่างออกไปพอควร
ในที่สุด เมื่อได้เวลาเสด็จพระราชดำเนินออกจากอาคารดังกล่าว พระองค์ท่านได้เสด็จพระราชดำเนินผ่าน โดยได้ทอดพระเนตรเห็นสิ่งของที่เพื่อนเตรียมมา จึงได้ตรัสถามว่า "นั่นอะไรเหรอ?" เพื่อนผู้เขียนตื่นเต้นดีใจมากจึงได้มีโอกาสเดินขึ้นมาด้านหน้าพร้อมตอบว่า "อุคุเลเลเพคะ" (เครื่องดนตรีพื้นเมืองของฮาวาย หน้าตาเหมือนกีตาร์ตัวเล็กๆ) เธอจึงได้ถวาย พระองค์ท่านทรงพระกรุณารับไปจากเพื่อน หลายคนยินดีกับเธอ เพราะอีกหลายคนไม่มีโอกาส
เธอดีใจมากกล่าวขอบคุณผู้เขียนมากมายที่ให้คำแนะนำที่ดีแก่เธอ ทำให้เธอได้รับโอกาสดีๆนี้ พร้อมทั้งได้ให้ข้อคิดว่า หากตั้งใจทำอะไรแล้ว ขอให้ทำอย่างจริงจัง และทำให้ถึงที่สุด ไม่ว่าจะมีอุปสรรคใดๆก็ตาม ไม่ย่อท้อ เพื่อที่จะไม่ต้องเสียใจและไม่พลาดโอกาสดีๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต
อ่านแล้วรู้สึกซาบซึ้งในเรื่องราว และยินดีด้วยกับเพื่อนของพี่อุ๊ด้วยครับ
ผมเองอยู่บนดอยบ่อยครั้งที่มีโอกาสเข้ารับเสด็จอย่างใกล้ชิด แต่เสียดายที่ไม่ได้ถวายสิ่งใดแก่พระองค์เลย
ก็เป็น"คนดี" ครับ คิดว่าสิ่งนี้พระองค์ต้องการที่สุดครับ
ขอบคุณครับสำหรับเรื่องราวน่าประทับใจที่เช้าวันนี้ที่เมืองไทย
ดีใจแทนเพื่อนพี่อุ๊ค่ะ ^ ^
ตัวเองโชคดีได้มีโอกาสได้อยู่ในรัศมีใกล้ๆ หลายครั้ง
ส่วนใหญ่จะเป็นงานพระราชทานปริญญาบัตร มีอยู่ปีหนึ่งเป็นคนขานชื่อบัณฑิตคณะิวิศวฯ ก็รู้สึกเหมือนได้ถวายงาน ดีใจมาก ส่วนอีกครั้งหนึ่งที่ได้ยืนเข้าเฝ้าใกล้ชิดมากเลยก็คือตอนนั้นท่านเสด็จงานที่โรงแรมหนึ่ง น่าจะเป็นการส่วนตัว เพราะไม่มีแถวรับเสด็จอะไรเลย ตัวเองไปต้อนรับ Prof. พาไปพักที่โรงแรมแห่งนี้พอดี.. กำลังนั่งรออาจารย์อยู่ ท่านเสด็จกลับออกมาพอดี และทรงมีปฏิสันถารกับผู้เฝ้ารับเสด็จบางคนอย่างเป็นกันเองด้วย เรียกว่าอยู่ใกล้จนได้ยินเลยว่าทรงตรัสอะไรบ้าง นับว่าเป็นโชคและโดยบังเอิญจริงๆ
จริงๆ งานพระราชทานป.บัตรครั้งที่ผ่านมาของมจพ.ก็คงจะได้มีโอกาสได้เข้าเฝ้ารับเสด็จด้วย แต่มาต่างประเทศก่อน เลยไม่ได้ไปร่วมงาน เขาเพิ่งรับกันไปไม่กี่วันนี้แหละค่ะ ^ ^
สวัสดีค่ะคุณเอก
จริงๆแล้วคุณเอกได้ใกล้ชิดอยู่แล้ว ไม่ต้องรู้สึกเสียดายหรอก อันนั้นสำหรับคนที่ยังไม่เคยได้เห็น หรือเห็นระยะห่างมาก ๆ เห็นด้วยค่ะว่าเป็นคนดีก็เพียงพอแล้ว ขอบคุณนะคะ
สวัสดีค่ะ อ.ตุ๋ย
โชคดีจังเลย จังหวะดีด้วย พี่เองก็ว่าตัวเองโชคดีได้มีโอกาสถวายรายงานการใช้ อุปกรณ์ออกกำลังกาย ที่บ้านพักคนชราของสภากาชาด ให้พระองค์ แถมได้เข้ารับของที่ระลึกจากพระหัตถ์ด้วย มีเพื่อนหมอกรุณาถ่ายรูปให้ด้วย
เมื่อคืนพึ่งดูทีวีกับที่บ้าน ออยยังพูดเลยว่าไม่รู้พี่อุ๊ได้ไปรับเสด็จหรือเปล่า แหม...เพื่อนพี่นี่โชคดีจริงๆ นะ คงตื่นเต้นมากทีเดียว เราเคยแต่เห็นไกลๆ ไม่เคยได้เข้าไปใกล้ด้วยซ้ำ แต่ออยโอกาสดีกว่า เพราะเรียนในวังตั้ง 3 ปี ได้มีโอกาสเข้าเฝ้าและถวายงานใกล้ชิดหลายครั้ง น่าอิจฉาเนอะ เขาได้เข้าเฝ้ามาทุกพระองค์แล้ว
เราเคยเข้าเฝ้าแต่ตอนรับปริญญา น่าเสียดาย ส่วนใหญ่จะเห็นแต่ขบวนเสด็จผ่านไปแบบเร็วปรู้ด เคยมีครั้งหนึ่งตอนม.3 นั่นประทับใจสุดแล้ว เดินต๊อกแต๊กข้ามถนนจะไปขึ้นรถกลับบ้านตรงสามย่าน ตำรวจคงมองไม่เห็นเรา เราก็ไม่ดูว่าเขากั้นถนน มัวแต่คิดอะไรก็ไม่รู้ เดินไปถึงเกาะกลางตำรวจเป่านกหวีดเรียก แต่ไม่ทันแล้ว ขบวนเสด็จมาจากทางสี่พระยาผ่านหน้าเราไปเมตรกว่าๆ เราตกใจทำอะไรไม่ถูก เลยถอนสายบัวไปหนึ่งที พระราชินีคงเห็นว่าเป็นเด็กเลยแย้มสรวลและโบกพระหัตถ์ให้ งานนั้นโดนตำรวจดุด้วยล่ะ เป็นเรื่องบังเอิญที่คุ้มแม้จะต้องโดนดุก็ตาม
ที่เคยเห็นครบทุกพระองค์ในระยะ 500 เมตรก็เป็นตอนงานสมเด็จย่าที่สนามหลวง ตอนนั้นลงทุนไปนั่งเฝ้าอยู่สามชั่วโมงแน่ะ
ซูซาน..ว้าว ซูซานก็โชคดีนะ ออยยิ่งโชคดีใหญ่นะ ถ้าทำอะไรที่เกี่ยวกับศิลปะไทยๆ น่าจะดี มีโอกาสเยอะำกว่าคนอื่น แต่ก็ต้องมีความสามารถด้วยแหล่ะ ถึงได้เข้าเฝ้า พี่ยังบอกเพื่อนเลยว่า เข้าใจถวายเครื่องดนตรี เพราะพระองค์ท่านทรงโปรดดนตรี
สวัสดีค่ะคุณ เกษตร(อยู่)จังหวัด
จริงๆด้วยนะ ถ้าเป็นเราก็ปลื้มสุดๆเหมือนกัน เพราะได้เห็นกับตาว่าท่าน ทรงโปรดสิ่งที่เราถวาย
ขอบคุณนะคะที่เล่าสู่กันฟัง
สวัสดีค่ะคุณขจิต
ขอบคุณค่ะ อากาศที่ฮาวายดีมากค่ะ ไม่ร้อนไป ไม่หนาวไปค่ะ แต่เรื่องอาหารที่ไหนก็สู้บ้านเราไม่ได้ค่ะ
สวัสดีค่ะคุณกวินทรากร
ว่าจะทักหลายทีแล้วค่ะว่าชื่อ 5 พยางค์สมัยนี้ไม่ค่อยได้มีสักเท่าไหร่ แปลกดีค่ะ
ว่าแต่อยากมาฮาวาย หรืออยากมาหาไวน์กันแน่คะ หรือเพราะทั้งสองอย่างเพราะพ้องเสียงกัน ดูเป็นคนอารมณ์สุนรีย์...
สวัสดีค่ะคุณ naree suwan
โอ้โห...คุณนารีคงตื่นเต้นมากเลยนะคะ ดีจังเลยค่ะ พระองค์ท่านเป็นที่รักของทุกๆคนจริงๆค่ะ ขอบคุณค่ะที่เล่าประสบการณ์อันน่าประทับใจสู่กัน
ยุ่งๆอยู่หลายวัน เพิ่งไปตอบคุณอุ๊ที่บล็อกพี่ค่ะ
พี่ก็ได้ชมข่าวนี้ และยังนึกถึงคุณอุ๊ รู้สึกยินดีไปด้วยจากที่อ่านบันทึกนี้ค่ะ
สวัสดีค่ะพี่นุช
ขอบคุณมากค่ะที่นึกถึง ได้เข้าไปอ่านที่พี่นุชตอบแล้วค่ะ ยังรู้สึกเหมือนได้ทานแยมลูกแพร์ที่ที่นุชทานเผื่อเลยค่ะ น่าอร่อยจริงๆ ยังคิดเลยค่ะว่าจะลองทำดู แต่จะอร่อยหรือเปล่ายังไม่แน่ใจ
มาเยี่ยมค่ะ และจะเล่าว่า มีประสบการณ์ เคยเฝ้ารับเสด็จสมเด็จพระเทพฯอย่างใกล้ชิดเหมือนกันค่ะ มีรูปค่ะ แต่อยู่ที่เพื่อน คราวจัดงานรวมรุ่นอักษรศาสตร์เมื่อเร็วๆนี้ค่ะ
รู้สึกยินดีกับคุณอุ๊ไปด้วยจากที่อ่านบันทึกนี้ค่ะ
สวัสดีค่ะคุณพี่ศศินันท์
ขอบคุณค่ะที่แวะเข้ามาทักทายและยินดีค่ะ พอดีคุณพี่ลิงก์ไว้ก็เลยถือโอกาสเข้าไปอ่านรวมรุ่นอักษรฯ ด้วยดีจังเลยค่ะ น่ายินดีที่มีคนตั้งพันกว่าคนแน่ะและบริจาคกันมากมาย พระองค์ท่านน่ารักจริงๆค่ะ ทรงอารมณ์ขันอีกต่างหาก ทรงเล่าเรื่องธรรมดาให้คนหัวเราะได้
สวัสดีค่ะ คุณแณณและคุณบอล
ไม่สบายเป็นอะไรหรือคะ คุณแณณ ตอนนี้น่าจะหายแล้วนะคะ เลยเห็นได้ไปทำบุญที่วัดไทยด้วย ดีจังค่ะ
สมเด็จพระเทพฯ เป็นที่รักของทุกคนจริงๆค่ะ
ดูแลรักษาสุขภาพด้วยนะคะ