สักทอง ร่มไม้ใหญ่ใกล้ทาง ได้มีโอกาสเดินทางไปเยือนพี่น้องทางฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง ณ วังเวียง แห่งเมืองลาวเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2551 ที่ผ่านมา มีรูปภาพติดไม้ติดมือมาฝาก และเพื่อให้เข้ากับบรรยากาศจึงได้นำบทเพลง "ข้างหลังภาพ" ของ หนู มิเตอร์ มาประกอบเพื่อให้การทรรศนาภาพได้อรรถรสยิ่งขึ้น.....
ธาตุหลวง ณ นครหลวงเวียงจันทน์งดงามยิ่งนัก
ประตูชัย ศูนย์กลางนครหลวงเวียงจันทน์
ความงดงามของศิลปะล้านช้างเมื่อแหงนหน้าชมประตูชัย
วิจิตรพิศดาร และ อลังการ
หอพระแก้ว ศิลปะล้านช้าง
Intro : Dm/Gm/Am/Dm/Dm/Gm/Am/Dm C/
[บรรยากาศยามเย็นน้ำซองที่วังเวียง]
มองภาพถ่ายด้วยใจคิดถึง เฝ้ารำพึงคิดถึงแต่เธอ...
[คนงามล้านช้าง]
มั่นในรักสม่ำเสมอ ยังรักเธอมิมีเสื่อมคลาย...
[น้ำซอง วังเวียง]
ไกลแสนไกลสุดโค้งขอบฟ้า ไกลสุดตาฟ้ามิอาจกั้นใจ.....
[ฉากหลังเป็นภูเขาหินปูน]
หวงสุดห่วงใจนั้นแสนห่วงใย.....
[เรือนรักชาววังเวียงริมน้ำซอง]
ไกลแสนไกลใจนั้นสุดคิดถึง...
เฝ้ารำพึงถึงรวงข้าวหล่น...
[Elephant Crossing Hotel Vang Vieng]
บ่นอยู่กลางท้องนา...
ครวญตามสายลมมา...
[ความอุดมสมบูรณ์ของป่าที่วังเวียง]
บอกว่าข้าคิดถึง...
[เด็กน้อย...นักรียนชนเผ่า น่ารักใสซื่อ และ Innocent]
[ดนตรี] Gm/F/Gm/F
ข้างหลังภาพจารึกอักษร.....
[สะพานไม้ข้ามแม่น้ำซอง ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมให้รัฐก่อนถึงผ่านได้]
เป็นบทกลอนรักอันหวานชื่น.....
[เมืองวังเวียงริมน้ำซอง]
มีความรักมาให้ มีหัวใจมาฝาก.....
[ก้อนกรวด หิน ทราย ที่ถูกแม่น้ำพัดพามาจากบนภูเขา]
หากว่าเธอต้องการก็เก็บรักษาไว้.....
เพราะหัวใจดวงนี้มีความรัก.....
เพราะหัวใจดวงนี้มีความภักดี.....
เพราะหัวใจดวงนี้มีความจริงใจ.....
บ้านหลังน้อยที่อยู่หลังสวน.....
หอมอบอวลด้วยมวลดอกไม้.....
ฝากความรักและความห่วงใย...
ส่งมาให้เก็บไว้นะเธอ.....
[สะพานข้ามไปถ้ำจัง]
[ดนตรี] : C/Am?Dm/C,Am/Dm/
ภายในถ้ำจัง,วังเวียง
[ธรรมชาติที่วังเวียง]
ตลาดวังเวียงยามเช้า
โรงพยาบาล
วิถีชาวบ้าน
ที่พัก+อาหาร
โดย...สักทอง ร่มไม้ใหญ่ใกล้ทาง
ดีมากครับ
เป็นเมืองที่น่าอยู่มาก เป็นธรรมชาติ หวนคิดถึงอดีตเมื่อครั้งที่บ้านเรายังไม่เจริญ
อยู่อย่างสงบ ถ้ามีโอกาศก้ออยากจะไปเที่ยวนะ
ผมเคยทำงานอยู่ที่โรงหมอที่นี่ประมาณสามปี ตำแหน่งที่ปรึกษาทางการพยาบาล ของประเทศเบลเยี่ยม จุดประสงค์เพื่อพัฒนาระบบสาธารณสุขที่นี่ให้ดีพอที่จะดูแลประชาชนในท้องถิ่นได้ เมื่อโครงการจบ ก็ต้องกลับมาที่ไทย การทำงานที่่นี่ไม่ยากไม่ง่ายเท่าไรขึ้นอยู่กับใจสู้กับอุปสรรคต่าง ๆ ได้หรือไม่ และผมก็ฝ่าฟันจนสิ้นสุดของโครงการ มองชาวต่างชาติ นักท่องเที่ยวทั่วโลกที่เดินทางมาสู่ดินแดนอันสวยงาม ผ่านแล้วก็ผ่านไป ต่างก็มีข้อคิดเห็นต่าง ๆ นานา ส่วนมากจะประทับใจในธรรมชาติ น้ำซอง บลูลากูน การล่องน้ำ ดื่มเบียร์ลาว ฯลฯ
ส่วนผมช่วยสนับสนุนในเรื่องการผ่าตัด เพราะเมื่อก่อนจะมีโรงพยาบาลหรือโรงหมออันสวยงามเช่นนี้ ชาวบ้านที่พอมีจะกินจะมาใช้บริการที่เวียงจันทน์หรือเมืองไทยเลย มีแต่ชาวบ้านที่ยากจน และจนมากๆ มาใช้บริการ ชาวต่างชาติก็มีแต่คำติ ไม่ได้ช่วยทำอะไรเท่าไร ที่ผมภูมิใจคือ เขาสามารถ ผ่าตัดได้หลายโรคแล้ว และอัตราการติดเชื้อมีเล็กน้อยหรือไม่มีเลย ในช่วงที่ผมอยู่รู้สึกมี 1ราย แต่เป็นแผลที่ปนเปื้อน คือลำไส้แตก แต่ต่อมาก็ติดดี การผ่าตัดที่จะต้องเดินทางมาเมืองใหญ่ ห่างจากวังเวียงประมาณ ร้อยกว่ากิโลเมตร ถนนหนทางค่อนข้างขรุขระ แต่เป็นลาดยางนะครับ มี สองเลนส์ รถใหญ่ รถเล็ก ต้องค่อย ๆ แล่น หนทางคดเคี้ยว แต่ไม่สูงชันเท่าไร
โรงเรียนชนเผ่า อยู่ใกล้ ๆ โรงหมอ นักเรียนเป็นนักเรียนที่พ่อแม่เป็นชนเผ่า ถูกคัดเลือกมา มาจากหลาย ๆ เมืองทั่วประเทศ เป็นนักเรียนกินนอน ผมเคยเข้าไปเล่นวอลเลย์ บอลกับน้อง ๆ เคยให้ลูกวอลเลย์ ราคาประมาณ สองแสนกีบ ให้เขาเล่น เป็นเด็กตัวเล็ก ๆ ไม่สูง ใช้ชุดนักเรียนเล่น รองเท้าแตะ มีการพนันรวมทีมด้วย คนละ สองพันกีบ รวมกันถ้าทีมไหนชนะ ก็ได้ หนึ่งหมื่นสองพันกีบ เอาไปซื้อน้ำหวานและปิ้งไก่กินด้วยกัน ไม่ค่อยพอหรอกส่วนมากผมจะออกช่วย และเรียกทีมแพ้ไปกินด้วย
เวลานักเรียนชนเผ่าไม่สบาย เขาจะมีหัวหน้า รายงานให้ครูยาม และหัวหนัานักเรียนจะมาส่งคนป่วยที่โรงหมอ มีสมุดส่งคนป่วยมาด้วย ส่วนมากจะเป็นไข้ บางคนได้รับการตรวจจากท่านหมอ ให้ยา ฟรี และกลับไปที่พัก แต่ถ้าพิจารณาว่าอาการน่าจะพักรักษาก็ส่งแอดมิด ฟรี ที่โรงหมอมีที่นอนผ้าห่ม แต่ไม่มีอาหาร คนไข้ต้องเอามาจากบ้านหรือซื้อจากข้างนอกโรงหมอ(โรงหมอยังไม่มีร้านค้าขายของ) กรณีนักเรียนชนเผ่าเพื่อนจะเอาข้าวที่แจกให้นักเรียนมาให้ มีครั้งหนึ่งตอนเที่ยง ผมเดินไปดูว่าคนไข้ตามปกติ เตียงนั้นเตียงนี้ ห้องพิเศษเราก็มี นักเรียนชนเผ่าคนนั้นกำลังทานข้าวเปล่า ๆ กับน้ำเปล่าๆ โดยมีเพื่อนยืนดูข้าง ๆ เตียง โรคที่เขาเป็นอยู่คือไข้ยังไม่ทราบสาเหตุ ผมซื้ออาหารมาทานกลางวันเป็นปลานึ่ง ก็เลยให้เขาหมดเลย ให้กินร่วมกับเพื่อนของเขา ไม่มีอะไรจะกล่าว
เวลาผมกลับมาไทยประมาณเดือนละครั้งขากลับ ผมจะหาขนมไทยไปฝากคนไข้ทุกคนเกือบทุกครั้ง ให้เขาชิมขนมไทยที่เขายังไม่เคยพบ พวกเจ้าหน้าที่ท่านหมอก็อยากกิน ก็เลยให้ทั้งท่าหมอที่ทำงานและคนไข้ มีความสุขจริง ๆ
เสียดายหมดโครงการเสียก่อน อีกทั้งเงินเดือนที่องค์กรณ์ให้ค่อนข้างสูง คงไม่มีที่ไหนจะจ้างเราอีกแล้วละ และเราก็สนับสนุนให้เขาช่วยเหลือตนเองได้แล้ว ถึงเวลาเขาต้องช่วยเหลือตนเองตามความสามารถของเขา เราก็กลับ เจ้าหน้าที่พากันผูกข้อมือ เลี้ยงส่ง และมอบใบย่องยอให้ข้าพเจ้า เอาไว้เป็นตำนายเกียติยศต่อไป
กลับมาทำงานที่ประเทศไทย ที่ภูเก็ต โรงพยาลชั้นหนึ่ง ที่ผู้มารับบริการเลือกเป็นอันดับแรก นี่เป็นวิสัยทัศน์ของเขา มาใช้ชีวิตที่ดูแลคนป่วยไม่ว่าเขาจะรวยหรือจน ตามมาตรฐานของผมต่อไปเรื่อยๆ เฮ้อคิดถึงนะ.....วังเวียง