สารสนเทศที่จำเป็นต่อการพัฒนาคุณภาพสถานศึกษา
ประกอบด้วย
1. ระบบสารสนเทศพื้นฐานของสถานศึกษา
2. ระบบสารสนเทศที่เกี่ยวกับผู้เรียน
3. ระบบสารสนเทศเพื่อการบริหาร
4. ระบบสารสนเทศเพื่อการบริหารจัดการ
การนำสารสนเทศมาใช้ในการพัฒนาคุณภาพสถานศึกษา
สถานศึกษาควรจัดตั้งศูนย์ข้อมูลและสารสนเทศของสถานศึกษา แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อรับผิดชอบงานด้านสารสนเทศ สร้างความเข้าใจให้แก่คณะครู พัฒนาศักยภาพบุคลากร ด้านกระบวนการจัดระบบสารสนเทศ ผู้บริหารและคณะครูร่วมกันกำหนดนโยบายและแผนการดำเนินงาน กำหนดวิธีการจัดเก็บและสร้างเครื่องมือ จัดเก็บและตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล ประมวลผลข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูลสารสนเทศก่อนนำไปใช้และร่วมกันประเมินผล ด้านระบบฐานข้อมูลและสารสนเทศ สถานศึกษาควรมีระบบที่สามารถปรับปรุงข้อมูลให้เป็นปัจจุบันและครบถ้วนสมบูรณ์ ด้านการประชาสัมพันธ์และการให้บริการข้อมูลสารสนเทศ สถานศึกษาควรมีการดำเนินการนำเสนอสารสนเทศหลายรูปแบบ มีการจัดนิทรรศการ ป้ายนิเทศ นำเสนอข้อมูลที่เป็นปัจจุบันและมีความต่อเนื่อง มีการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการนำเสนอสารสนเทศ
ความหมายของระบบสารสนเทศ
ระบบสารสนเทศ หมายถึง กลุ่มขององค์ประกอบที่มีความสัมพันธ์กันซึ่งทำการรวบรวมประมวลผล,เก็บรักษา และ กระจายสารสนเทศออกไป เพื่อสนับสนุน การควบคุม, การวิเคราะห์, การตัดสินใจ และการวางแผนที่เกิดขึ้นภายในองค์กร กิจกรรมที่เกิดขึ้นในระบบสารสนเทศ ได้แก่ การนำเข้า,การประมวลผล และการนำออก โดยการนำเข้าจะรับและรวบรวมข้อมูลดิบภายในองค์กร หรือ จากสภาพแวดล้อมภายนอก การประมวลผลจะเปลี่ยนข้อมูลดิบ ไปอยู่ในรูปแบบที่มีความหมาย หรือเป็นประโยชน์ต่อการใช้งาน และการนำออก จะนำเอาสารสนเทศที่ได้นั้นไปยังผู้ใช้ หรือ ไปยังกิจกรรมที่ใช้งานสารสนเทศนั้น ๆ นอกจากนี้ระบบสารสนเทศยังต้องการสิ่งป้อนกลับ (Feedback) เป็นสิ่งออกที่ย้อมกลับไปยังตำแหน่งที่เหมาะสมของระบบเพื่อช่วยในการประเมิน และแก้ไข ขั้นตอนนำเข้า หรือประมวลผล
1. ระบบสารสนเทศพื้นฐานของสถานศึกษา
เป็นการนำเสนอข้อมูลสารสนเทศพื้นฐานทางการศึกษาของสถานศึกษา ซึ่งสามารถสืบค้นได้ตามหมวดหมู่ เพื่อให้ผู้บริหาร ผู้เกี่ยวข้องใช้ประโยชน์ในการพิจารณาวางแผนพัฒนา ปรับปรุงการจัดการศึกษาของโรงเรียน เขตพื้นที่การศึกษาให้มีประสิทธิภาพ
ข้อมูลจำเป็นสำหรับระบบสารสนเทศพื้นฐาน ได้แก่
1. ข้อมูลสถานศึกษา เป็นข้อมูลทั่วไปของสถานศึกษา เช่น
- ประวัติการก่อตั้ง
- ข้อมูลอาคารเรียน อาคารประกอบ
- ข้อมูลสภาพภูมิประเทศ
- ข้อมูลชุมชน
- รายได้ผู้ปกครอง
- ภูมิปัญญาท้องถิ่น
- เกียรติประวัติ ของโรงเรียน
- จุดเด่น จุดด้อย
- ข้อมูลและสารสนเทศเกี่ยวกับภาพรวมของโรงเรียน
- สภาพเศรษฐกิจการเมือง สังคม ความต้องการของชุมชน
- สภาพการบริหารและการจัดการตามโครงสร้างและภารกิจ
- ปฏิทินปฏิบัติงานของสถานศึกษา
- กิจกรรมประจำวันของสถานศึกษา
- ระบบเอกสารที่จำเป็นในสถานศึกษา เป็นต้น
2. ข้อมูลนักเรียน เป็นข้อมูล
- ข้อมูลเกี่ยวกับเขตบริการ
- ข้อมูลเกี่ยวกับสำมะโนนักเรียน
- ข้อมูลเกี่ยวกับการบริการนักเรียนขาดแคลน เช่น เสื้อผ้า เครื่องเขียน แบบเรียน
อาหารกลางวัน
- ข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนและประเภทการบริการด้านสุขภาพอนามัย
- ข้อมูลเกี่ยวกับการบริการแนะแนว
- ข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมเสริมหลักสูตรและพัฒนาเยาวชน
- ข้อมูลเกี่ยวกับทุนการศึกษา
- ข้อมูลเกี่ยวกับโครงการเสริมความเสมอภาคในโอกาสทางการศึกษา
- สถิติการมาเรียนของนักเรียน
- จำนวนและอัตราซ้ำชั้นของนักเรียน
- จำนวนและอัตราการออกกลางคันของนักเรียน
- การจัดกิจกรรมชุมนุมของนักเรียน เป็นต้น
3. ข้อมูลบุคลากร เป็นข้อมูลเกี่ยวกับ
- ข้อมูลรายละเอียดใน ก.พ.7 และแฟ้มประวัติข้าราชการ ลูกจ้างประจำ,ชั่วคราว
- ข้อมูลเกี่ยวกับคุณลักษณะเชิงคุณภาพทางการศึกษา เช่น
วุฒิการศึกษา ความถนัด ความสามารถพิเศษ สถานที่พักอาศัย การเดินทาง
การศึกษาและประสบการณ์ สถานภาพครอบครัว
- ข้อมูลพื้นฐานของบุคลากร เช่น
ภูมิลำเนาเดิม ระดับชั้น เงินเดือน อายุราชการ ความดีความชอบ
เครื่องราชอิสริยาภรณ์ ประวัติทางวินัย
- การประชุม
- การลาของบุคลากร
- การพัฒนาตนเองของบุคลากร
- การเผยแพร่และแสดงผลงานของบุคลากร เป็นต้น
4. ข้อมูลอาคารสถานที่ เช่น
- จำนวนอาคารเรียนและอาคารประกอบ
- รูปแบบ ขนาด อายุ งบประมาณการก่อสร้าง สภาพของอาคาร
- ครุภัณฑ์โรงเรียน
- จำนวนห้องเรียน
- พื้นที่โรงเรียนและพื้นที่ใช้ประโยชน์
- สภาพพื้นที่
- กรรมสิทธิ์ที่ดิน
- อัตราพื้นที่กับนักเรียน
- ข้อมูลด้านสาธารณูปโภค
- บริเวณข้างเคียงกับโรงเรียน เป็นต้น
นอกจากนี้ระบบสารสนเทศพื้นฐานของสถานศึกษาจะประกอบด้วยข้อมูลและสารสนเทศที่เกี่ยวข้องกับภาพรวมของสถานศึกษา สภาพเศรษฐกิจ การเมืองสังคม ความต้องการของชุมชน สภาพการบริหารและการจัดการตามโครงสร้างและภารกิจ เช่น ปฏิทินการปฏิบัติงานของสถานศึกษา กิจกรรมประจําวันของสถานศึกษา ระบบเอกสารที่จําเป็นในสถานศึกษา ในการทําระบบสารสนเทศพื้นฐานของสถานศึกษา ถ้าระบบข้อมูลสารสนเทศไม่ครบถ้วน ไม่ชัด ไม่ถูกต้อง ไม่รู้ความต้องการของชุมชนก็จะไม่ สามารถที่จะหาสิ่งต่างๆเพื่อมาใช้ในการพัฒนาโรงเรียนได้
2. ระบบสารสนเทศที่เกี่ยวข้องกับผู้เรียน
เป็นระบบสารสนเทศที่รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้เรียนทั้งหมด เช่น ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียน คุณลักษณะที่พึงประสงค์ของผู้เรียน ผลงานและการแสดงออกของผู้เรียน รูปแบบการเรียนรู้ของผู้เรียน เป็นต้น
3. ระบบสารสนเทศเพื่อการบริหารวิชาการ
เป็น ผลการพัฒนากิจกรรม เช่น การจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน/กิจกรรมแนะแนว
การวิจัยในชั้นเรียน สถิตินักเรียน สถิติครู สถิติห้องเรียน เป็นต้น
4. ระบบสารสนเทศเพื่อการบริหารจัดการ
ระบบสารสนเทศเพื่อการบริหารจัดการ เป็นระบบสารสนเทศที่ต้องมีการประมวลผลรวม มีการเปรียบเทียบข้อมูลอย่างถูกต้องและทันสมัยจึงมีความหมายต่อการจัดการและการบริหารงานอย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพ โดยมีตัวอย่างรายงานของระบบสารสนเทศ เช่น สภาพการบริหารและการจัดการ ความสอดคล้องระหว่างวิสัยทัศน์ ภารกิจและเป้าหมายการพัฒนา สภาพและบรรยากาศการเรียนรู้ ทรัพยากรและสิ่งอำนวยความสะดวก การพัฒนาวิชาชีพ ความสัมพันธ์ระหว่างสถานศึกษากับผู้ปกครองและชุมชน อัตราส่วนระหว่างจำนวนนักเรียนต่อครู อัตราส่วนระหว่างจำนวนนักเรียนต่อห้อง และอื่น ๆ เช่น
- ยอดงบประมาณแผ่นดินตามหมวดเงินงบประมาณและแผนงานวงเงินงบประมาณ
ในปีที่ผ่านมา
- เงินนอกงบประมาณจำนวนและแหล่งเงิน
- เงินรายได้สถานศึกษา
- ทรัพย์สินของโรงเรียน
- จำนวนหนังสือเข้า-ออก รับ-ส่ง
- ระบบระเบียนและสถิติต่าง ๆ ที่จัดทำในโรงเรียน
- งานบัญชีประเภทต่าง ๆ
- แบบฟอร์มที่ใช้ จำแนกตามประเภทต่าง ๆ
- เงินสวัสดิการ จำแนกตามประเภท/จำนวน
- วัสดุอุปกรณ์และแหล่งบริจาคจำนวน/มวลค่า
- ข้อมูลเกี่ยวกับงานสารบรรณ
- ข้อมูลเกี่ยวกับทะเบียนพัสดุ/ครุภัณฑ์และการเงิน
- ข้อมูลการอยู่เวรรักษาการณ์
- จำนวนชั่วโมงผู้บริหารสถานศึกษาไปราชการ
- ข้อมูลเอกสารเกี่ยวกับนิเทศ เยี่ยมเยียน เป็นต้น
การนำระบบสารสนเทศไปใช้ในการพัฒนาการศึกษา
ระบบสารสนเทศในองค์กรหรือระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ มีวัตถุประสงค์เพื่อจัดการสารสนเทศต่าง ๆ เพื่อประโยชน์ในการบริหารจัดการองค์กรอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมเพิ่มความสามารถในการแข่งขันขององค์กรในยุคโลกาภิวัตน์ที่เกิดกระแสความเปลี่ยนแปลงในด้านต่างๆ ทั้งเศรษฐกิจ การเมือง และสังคมอย่างรวดเร็ว ดังนั้นองค์กรต่าง ๆ ต่างเล็งเห็นถึงความจำเป็นของระบบสารสนเทศเพื่อรองรับการดำเนินงานในด้านต่างๆ
(มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช 2549 : 25)
ในส่วนของสถานศึกษา การมีสารสนเทศที่เป็นระบบก็มีความจำเป็นและมีความสำคัญ
ต่อการพัฒนาคุณภาพสถานศึกษาเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะความสำคัญของการจัดการสารสนเทศอย่างมีระบบ ทำให้สามารถมีข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาคุณภาพการศึกษาด้านต่าง ๆ ผู้บริหารจึงต้องตระหนักถึงความสำคัญของการจัดการสารสนเทศที่มีประสิทธิภาพ ว่าต้องดำเนินการอย่างเป็นระบบทั้งในระดับปฏิบัติการ ระดับจัดการและระดับกลยุทธ์ เพราะส่งผลต่อคุณภาพการศึกษาอย่างต่อเนื่อง มีประสิทธิภาพและโปร่งใส
ดังนั้นจึงสรุปได้ว่า สถานศึกษาที่มีระบบสารสนเทศที่สมบูรณ์ ครบถ้วน เป็นปัจจุบัน เรียกใช้ได้สะดวกและตรงตามความต้องการ จะช่วยให้สถานศึกษาสามารถดำเนินงานพัฒนาคุณภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นการสร้างความมั่นใจที่ตั้งอยู่บนรากฐานของหลักวิชา หลักฐานข้อเท็จจริงที่สามารถตรวจสอบได้ มีกระบวนการวิเคราะห์และประมวลผลที่เป็นวิทยาศาสตร์ หลักตรรกและความสมเหตุสมผล เพราะสารสนเทศทั้งหลายนั้นนอกจากจะใช้ในการวางแผนการดำเนินงานและประกอบการตัดสินใจแล้ว ยังนำไปสู่การพัฒนาแนวความคิด และสร้างทางเลือกใหม่ๆ ในการดำเนินการต่างๆ โดยใช้ระบบสารสนเทศในการพัฒนาคุณภาพสถานศึกษาให้มีคุณภาพตามมาตรฐานได้เป็นอย่างดี
ไม่มีความเห็น