the Jedi Warrior... นักรบแห่งโพธิสัตว์ (๔)


การฝึกฝนนี้เพื่อให้เราก้าวข้ามความคุ้นชินเดิม ความไม่มีสติ ไม่รู้ตัว เปลี่ยนเป็น การมีสติ การตื่นรู้

๑๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๑

ช่วงเช้า

             และแล้วการอบรมก็ถึงวันสุดท้าย... วันนี้เริ่มด้วยการทำสมาธิประมาณ ๔๕ นาที  จากนั้นวิทยากรเน้นว่า การเจริญภาวนา เป็นสิ่งสำคัญของพระโพธิสัตว์  จึงได้แนะนำและท้าทายให้ลองฝึก step การนั่งสมาธิแบบ Tong Len ที่ยากขึ้นเรื่อยๆ  วิทยากรเรียกว่า วิธีแห่งความเป็นเลิศ ๓ ประการ ดังนี้

            step ที่ ๑  เวลาที่ลืมตาตื่นขึ้นมาแต่ละวัน  วินาทีแรกที่ตื่นเราก็รู้ว่าเราตื่นแล้ว  เพราะเดี๋ยวนี้คนส่วนใหญ่มักตื่นขึ้นมาทำกิจกรรมต่างๆ แบบอัตโนมัติไม่รู้ตัว  บางครั้งรู้ตัวว่าตื่นก็ตอนนั่งที่โต๊ะทำงานแล้ว    ดังนั้นวินาทีแรกให้รับรู้ว่า  เราตื่นขึ้นมาแล้วพร้อมกับยิ้มให้กับตัวเอง  จิตใจจะได้ผ่องใสเบิกบาน   และในระหว่างวันถ้ารู้สึกว่าตัวเองลืมตัวหรือเผลอตัว ไม่รู้ตัว เมื่อรู้ตัวแล้วก็ให้ตื่นขึ้นโดยทำอะไรสักอย่างบอกกับตัวเองว่าเรารู้ตัวแล้วนะ..... step นี้ ถ้าจะให้ท้าทายขึ้นไปอีกคือ เวลาที่ลืมตาตื่นขึ้นมารู้ตัวหรือไม่ว่าหายใจเข้าหรือหายใจออก...

           step ที่ ๒  เมื่อผ่าน step แรกแล้วให้เพิ่มเติมว่า  เวลาตื่นขึ้นมาให้ตระหนักว่าเราเป็นหยดน้ำหยดหนึ่งในมหาสมุทร  เป็นหยดน้ำที่มีศักยภาพ มีความดีงาม เหมือนกับหยดน้ำหยดอื่นๆ   เพราะบางครั้งเราเองมักไม่รู้ตัวว่าตัวเองก็มีสิ่งเหล่านั้นเหมือนคนอื่นเช่นกัน   การฝึกขั้นนี้ทำให้เราระลึกว่าทุกคนมีคุณค่า มีประกายของความดีงามทั้งนั้น ซึ่งจะทำให้เราหลุดพ้นจากความทุกข์ทั้งปวง

การฝึกฝนนี้เพื่อให้เราก้าวข้ามความคุ้นชินเดิม ความไม่มีสติ  ไม่รู้ตัว  เปลี่ยนเป็น การมีสติ  การตื่นรู้

          step ที่ ๓  ให้เราตระหนักรู้ว่าเราไม่ได้ทำสมาธิเพียงลำพัง  ถึงแม้จะนั่งอยู่เพียงคนเดียว ก็ให้ระลึกอยู่เสมอว่า เรากำลังนั่งสมาธิ เจริญภาวนา เจริญสติ  ร่วมกับผู้อื่นและทำเพื่อผู้อื่น

         การฝึกฝน step ทั้ง ๓ นี้ ทุกครั้งก่อนจบการดำเนินชีวิตในแต่ละวัน หรือ ก่อนนอน  ให้อุทิศการกระทำที่ดีงานนี้ให้คนอื่นๆ ด้วย

         ประเด็นในการแลกเปลี่ยนในกลุ่มใหญ่ที่สำคัญคือ  คนไทยเราส่วนใหญ่ไปวัดกันมากแต่ไปเพื่ออยากได้  อยากขอ  ให้กับตัวเองต่างๆ เช่น ไปวัดเพื่อให้ตัวเองสบายใจ  ไปวัดเพื่อขออะไรสักอย่างให้ได้  ให้สมหวัง เป็นต้น  แต่ไม่ได้อยากฝึกให้ตัวเองตื่นรู้    คนเรามักจะเชื่อในสิ่งที่พระบอกหรือสิ่งที่พระพุทธเจ้าสอน  แต่คำสอนจริงๆ คือ เมื่อได้ยินได้เห็นแล้ว ต้องพิจารณา  ตรวจสอบ  ใคร่ครวญ  ทดลองทำ  แล้วจึงเชื่อ 

        สำหรับกิจกรรมต่อไปวิทยากรเชื่อมโยงให้เห็นภาพรวมของการฝึกจนถึงวันนี้ ดังภาพข้างล่าง ซึ่งดิฉันขอยอมรับว่าไม่ค่อยเข้าใจสักเท่าไร (อาจเป็นเพราะสมองทึบ ไม่สั่งการ)  เพราะวิทยากรเชื่อมโยงและอธิบายในเชิงลึกเรื่อง พรหมวิหาร ๔  บารมี ๖  อินทรี ๕  พละ ๕ ฯลฯ

         กิจกรรมสุดท้ายของเช้านี้  ก็ให้จับกลุ่มย่อยแลกเปลี่ยนสิ่งที่ได้เรียนรู้ที่ผ่านมาตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ และจะนำสิ่งที่ได้เรียนรู้นี้ไปทำอะไรต่อไป --- เหมือน AAR เลยคะ

ช่วงบ่าย

         กิจกรรมช่วงนี้ต่อจากตอนเช้าแต่ให้รวมกลุ่มใหญ่  โดยวิทยากรให้คำถาม ๒ ข้อ คือ ๑. ในฐานะปัจเจกสิ่งที่ได้เรียนรู้จะนำไปใช้ต่ออย่างไร  และ ๒.ในฐานะเป็นกลุ่ม เครือข่าย กันจะช่วยเหลือกันอย่างไร  โดยกิจกรรมนี้แล้วแต่ความสมัครใจ ใครมีข้อเสนอก็เสนอออกมา  แต่จะถือเป็นคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับกลุ่ม... 

         สุดท้ายก็จบด้วยการนั่งทำสมาธิแผ่เมตตาแล้วก็แจกที่คั่นหนังสือรูป YODA  (ดังรูป) ให้ไว้เป็นที่ระลึกว่าทุกคนเป็นนักรบโพธิสัตว์ที่ยิ่งใหญ่เปรียบเหมือน YOD ในเรื่อง STAR WARS  ล้อมวงจับมือกัน.... แยกย้ายกันกลับบ้าน

         จากที่เล่ามาทั้ง ๔ บันทึกนี้  เป็นกิจกรรมโดยรวมที่ดิฉันได้เรียนรู้มา อาจจะไม่ละเอียดเท่าที่ได้ตอนฝึกจริงๆ เพราะการฝึกฝนจริงมีรายละเอียดเยอะมาก  ไม่สามารถถ่ายทอดออกมาได้หมด..    สำหรับบันทึกต่อไป (ตอนที่ ๕) ดิฉันจะขอสะท้อนในมุมมองของคนๆ หนึ่งที่ได้เข้าร่วมกระบวนการนี้.. ซึ่งแตกต่างจากผู้เข้าร่วมคนอื่นๆ ที่เดินทางตามสายพระโพธิสัตว์มาแล้วเบื้องต้น มีความคุ้นชิน และรู้จักกันดีแล้ว.. ติตตามบันทึกต่อไปนะคะ

URAImAN

                 

คำสำคัญ (Tags): #bodhisattva
หมายเลขบันทึก: 168071เขียนเมื่อ 29 กุมภาพันธ์ 2008 01:04 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 18:49 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท