เมื่อวานนี้ 27 กพ. 51 ตั้งแต่เช้า ณ ห้อง SC 1-311 คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร งานการเจ้าหน้าที่ กองกลาง สำนักงานอธิการบดี นำโดยท่านรองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ รศ.ดร.สุพักตร์ พ่วงบางโพธิ์ ได้จัดอบรมความรู้เชิงปฎิบัติการเกี่ยวกับการพิจารณาตำแหน่งทางวิชาการ ให้กับคณาจารย์ของ มน. ดิฉันเข้าร่วมฟังด้วยค่ะ เพราะชื่อเรื่องน่าสนใจมาก และที่สำคัญ อดีตท่านอธิการบดี มน. ศ.ดร.สุจินต์ จินายน แฟนในดวงใจของดิฉันเป็นวิทยากรเอก เสียด้วย ทำให้ดิฉันพลาดไม่ได้...
ไม่ต้องห่วงค่ะ ท่านที่ติดธุระ ภารกิจสำคัญ ดิฉันเก็บเรื่องดีดีมาฝากด้วย...แหม ก็จดเสียแทบจะทุกคำทีเดียว...เพราะเป็นเรื่องที่เราๆท่านๆ (คณาจารย์ในมหาวิทยาลัย)ควรใส่ใจทั้งน้าน...
ผู้ที่เข้าร่วมการอบรม จะได้รับแจกเอกสาร ประกาศ กพอ. เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการพิจารณาแต่งตั้งบุคคลให้ดำรงตำแหน่ง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์ และศาสตราจารย์ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๐ ซึงนับว่า update สุดๆ แล้วนะคะ ต้องไปหามาเป็นคัมภีร์ประจำกายไว้ หากท่านยังไต่ไม่ถึงบันไดขั้นสุดท้ายของวิชาชีพอาจารย์ (ศาสตราจารย์งัย !!)
แถมด้วย ข้อบังคับมหาวิทยาลัยนเรศวร ว่าด้วย หลักเกณฑ์และวิธีการประเมินผลการสอนและเอกสารที่ใช้ประเมินการสอน เพื่อขอกำหนดตำแหน่งทางวิชาการ พ.ศ. ๒๕๕๐ ท้ายเล่มอีกด้วย นับว่าครบสมบูรณ์ทีเดียว ต้องขอขอบคุณท่านรองสุพักตร์แทนคณาจารย์ทุกท่าน ที่ใส่ใจ ไวต่อเหตุการณ์เสมอ
เอาละค่ะ Note ย่อๆ แต่ไม่สั้น ที่ดิฉันจดมาจาก Lecture ท่าน อ.สุจินต์ พอสรุปเป็นข้อๆ อาจไม่ปะติดปะต่อ ได้ ดังนี้
1 | ultimate goal ของอาจารย์ทุกคนในมหาวิทยาลัย คือ ต้องจบ ป.เอก ต้องเป็นศาสตราจารย์ |
2 | สำหรับผู้ที่ต้องการขอ ผศ. หรือ รศ. จะขอวิธีพิเศษ ก็ได้ อยากให้ขอกันมากๆ สนับสนุนเต็มที่ หากมั่นใจว่าท่านมีผลงานอยู่ในระดับดีมาก ยกเว้น ศ. พิเศษ จะยากหน่อย |
3 | อยากให้คณบดีเข้ามาฟังกันเยอะๆ เพราะจะได้ทราบว่า การเข้าสู่ตำแหน่งทางวิชาการของอาจารย์ในคณะต้องการะบบ management ที่ดี |
4 |
คณะควรทำ profile ของคณาจารย์ ให้รู้ว่า
|
5 |
การบริหารงานบุคคลต้องชัดเจน ตั้งแต่
|
6 | งานวิจัยต้องมียุทธศาสตร์ ต้องแบ่งเป็น area ให้ match กับนโยบายของชาติ eg. Food+ agrculture มีคณะวิชาที่มา involve กี่คณะบ้าง แต่ละคณะทำด้านใด เพื่อจะได้ทำเป็นโครงการชุด |
7 | สำหรับ ผศ. ผลงานทางวิชาการ ต้องประกอบด้วย ผลงานวิจัย /ผลงานลักษณะอื่น และ ตำรา / หนังสือ / บทความทางวิชาการ ที่ดี |
8 | สำหรับ รศ. ผลงานทางวิชาการ ต้องประกอบด้วย ผลงานวิจัย /ผลงานลักษณะอื่น และ ตำรา /หนังสือ ที่ดี |
9 |
สำหรับ ศ. มี 2 วิธี
|
10 | ตำรา หมายถึงเนื้อหาต้องมีความลึก สมบูรณ์ในเนื้อหาสาระ มีความทันสมัย มีงานของตัวเองแฝงอยู่ พยายามเขียนให้แคบ เจาะให้ลึก |
11 | หนังสือ เช่น คู่มือปฏิบัติ เนื้อหากว้าง แต่มีบูรณาการในตัวเอง เช่นพวก pocket book |
12 |
งานวิจัย (proposal theme) หลักสำคัญต้องตอบคำถาม 4 ข้อ
|
13 | งานวิจัยต้องมีการ publication อาจารย์แนะว่าอยากให้รวมวารสารเป็น cluster ใหญ่ๆ |
14 |
อยากให้มหาวิทยาลัยมีสำนักพิมพ์ ไม่ใช่โรงพิมพ์ เพราะโรงพิมพ์ลงทุนสูงและเทคโนโลยีเปลี่ยนเร็ว ควรทำเป็นแบบ outsource เพื่อให้ผลงานของอาจารย์ที่ผ่านสำนักพิมพ์ มีชื่อของมหาวิทยาลัย มี logo ของมหาวิทยาลัย และมีระบบ peer review เพื่อช่วยดูเรื่องคุณภาพ เมื่อมีปรากฎ isbn ชื่อ peer (ที่ outstanding) เมื่ออาจารย์ส่งหนังสือ หรือตำราดังกล่าวไปขอกำหนดตำแหน่ง reviewer ก็แทบไม่ต้องตรวจ เพราะเท่ากับได้ตรวจมาแล้ว แต่ต้องตั้งเป็นกองทุน เพื่อให้มีค่าตอบแทนสำหรับ peer |
15 |
ต้องมีการ review journals ภายในมหาวิทยาลัยให้ได้ standard และให้ สกอ.รับรอง เพื่อให้อาจารย์ได้ตีพิมพ์ในวารสารที่มี IP |
16 | proceeding ที่จริงก็ส่งได้ แต่ควรเป็นแบบที่มี peer ตั้งแต่แรก (ไม่ใช่แบบโกย paper ) ถ้าไม่มีคุณภาพ จะทำให้เสียประโยชน์ เพราะจะเอาไปตีพิมพ์ซ้ำที่อื่นไม่ได้ เสียเวลาด้วย |
17 | อาจารย์แนะว่า ผลงานทางสังคมศาสตร์ ควรใช้เป็นหนังสือ จะง่ายกว่าตำรา |
18 | ด้านคุณธรรม จริยธรรม ส่วนมากจะเกี่ยวกับ เรื่องการ sharing ผลงาน ควรตกลงกันแต่แรกที่จะทำงานวิจัย ให้คนทำงานวิจยหลักเป็นชื่อแรก ให้ corresponding author เป็นชื่อท้ายสุด |
19 | ที่ควรแล้ว ควรใส่รายละเอียดว่า แต่ละคนที่ร่วมทำผลงานมีส่วนในการ contribute อะไร ที่กระทำกันอยู่โดยมากใส่แต่ % ที่แต่ละคนทำ |
20 | จริงๆ แล้ว ควรมีระบบ record ผลการประเมินไว้ด้วย เช่น ผลงานวิจัยที่ทำ 4 คน คนที่ 2 นำไปขอกำหนดตำแหน่งก่อน แล้วได้ผลประเมินดีมาก เมื่อคนที่ 1 3 4 นำไปขอคราวต่อๆ ไป reviewer ก็จะได้ไม่ต้องประเมินกันอีก ต้องให้ผลประเมินดีมากเช่นกัน เป็นต้น |
21 | อาจารย์ท่านใดที่จบ ป.เอกแล้ว ต้องกระตุ้นให้ ขอ ผศ.ภายใน 2 - 3 ปี |
22 | ข้อสำคัญอยู่ที่คุณภาพของผลงาน ถ้าขอ ผศ. ที่จริง ผลงานวิจัยที่ทำเองไม่น้อยกว่า 50% สัก 1 เรื่อง ที่มีคุณภาพดีก็พอ ไม่ต้องเอาผลงานเล็กๆ น้อยๆ ที่สะเปะสะปะมาใส่ให้มากนัก |
23 | การเข้าสู่ตำแหน่งทางวิชาการ เป็นการบ่งบอกให้สังคมรู้ว่าเราเชี่ยวชาญอะไร พยายามทำผลงานอย่างมี consistency อย่ากะโดดไปทำเรื่องที่แตกต่างกันมากนัก ทำให้จัดกลุ่มงานวิจัยก็ยาก และต่อไปจะได้รวมเขียนเป็นตำราได้ |
24 | การสอนหลายแบบ team teaching คนเดียวสอนหลายวิชา แต่วิชาละ 1 - 2 topic ไม่มีปัญหา สามารถเอามารวมกันได้ ให้ได้ไม่น้อยกว่า 3 เครดิต (45 ชั่วโมง lecture) |
25 | ใช้ power point ก็ได้ แต่ไม่ใช่มีไม่กี่หน้า ต้องมีให่ครบสมบูรณ์ |
26 | การประเมินการสอนล่วงหน้าก็ทำได้ เผื่ออนาคตที่ไม่แน่นอน (ได้เป็นคณบดี ไม่มีชั่วดมงสอนเสียแล้ว ในปีที่ขอ) |
27 | บางคนถามว่า ก็ต้องสอนอยู่แต่วิชาเดียวตลอด ชื่อวิชาที่ทำเป็นเอกสารคำสอน / ตำรา ใช้ชื่อเดิมได้หรือไม่ ? คือ จากเดิมที่ใช้ขอ ผศ. จะนำมาใช้ขอ รศ. อีกได้ไหม?? ตอบว่าได้ แต่ต้องมีการพัฒนาไปจากเดิม ต้องปรับปรุงให้ชัดเจน เพราะฉะนั้น ตอนขอ ผศ. ก็ไม่ต้องทำตำราสมบูรณ์นัก เพราะจะปรับปรุงได้ยาก เก็บไว้ตอนขอ รศ.บ้างก็ได้ |
28 | พอได้ รศ 2 ปีแล้ว ก็ขอ ศ. ได้ แต่ไม่แนะนำให้ขอแบบพิเศษ เพราะการ define ว่า ดีเด่น เป็นเรื่องยาก |
29 | ถ้าเราแน่ใจว่า reviewer อ่านไม่ดี เราสามารถอุธรณ์ได้ ส่วนใหญ่ 100% จะรับการอุธรณ์ แต่ที่สำคัญ ต้องอุธรณ์ในเนื้อหาสาระทางวิชาการเท่านั้น (ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว) ปกติก็จะให้กรรมการชุดเดิมกลับไปอ่านอีกที ถ้ายังไม่ ok เราก็สามรถอุธรณ์ครั้งที่ 2 ได้ อาจมีการตั้งกรรมการอ่านผลงานใหม่ |
30 | เอกสารแนบท้ายการมีส่วนร่วมในผลงานทางวิชาการ ถ้าส่งไปแล้ว จะแก้ไขเปลี่ยนแปลงไม่ได้ เพราะฉะนั้นต้องตกลงกันให้ดีเสียก่อน |
31 | กรณีวิทยานิพนธ์นิสิต contributor =50% ชื่อแรก อาจารย์ที่ปรึกษา corresponding autor =50% |
32 | การประเมินผลการสอน เป็นเรื่องที่ดำเนินการโดยคณะ ขอให้คณะ fair อาจให้อาจารย์ในกลุ่มสาขาเดียวกันประเมิน หรืออาจให้นิสิตประเมิน ด้วยก็ได้ |
33 |
เอกสารประกอบการสอน ก็คือ course syllabus ซึ่งประกอบด้วยสิ่งที่ต้องบอกนิสิตล่วงหน้าดังนี้
|
34 |
ผลงานทางวิชาการในลักษณะอื่น คืออะร? ส่วนใหญ่หมายถึง
บอกด้วยว่าเผยแพร่ไปยังที่ไหนบ้าง? อย่างไร? |
35 | การกำหนดสาขาวิชาที่จะขอกำหนดตำแหน่งทางวิชาการ ควรระบุให้ชัดเจน (กพอ. กำลังจะกำหนดสาขา และอนุสาขาอยู๋ ขอดูเอกสารจาก สกอ.) ต้องวางแผนแต่แรกว่าจะเชี่ยวชาญอะไร เพราะเวลาขอ ผศ. รศ. ศ. จะได้สัมพันธ์กัน ไม่อย่างนั้นจะต้องกลายเป็นขอวิธีพิเศษ |
สวัสดีครับ
ขอขอบคุณ อาจารย์มาก ๆ ครับ ที่แจ้งข่าวสารดี ๆ อย่างนี้
ติดตามอ่าน blog ของอาจารย์ตลอด ทำให้ไม่ตกข่าวครับ
หุ..หุ ขอบคุ้ณ... ขอบคุณ เช่นกัน ค่ะ อาจารย์วศิน ที่ติดตาม
แล้วจะสรรหาสิ่งดีดีมาฝากอีกนะคะ : )
ติดตามด้วยคนครับ (หัวหน้าภาคบริหาร คณะบริหารธุรกิจ ม.นเรศวร)