เหตุใด น้ำใจจึงเลือนหาย


" ปัจจุบันการประชุมเกือบทุกแห่ง ทำไมจึงชอบใช้ความรุนแรง การตะโกน การพูดข่ม การเสียดสีส่อเสียด การเย้ยหยัน สิ่งเหล่านี้ไม่เคยก่อประโยชน์ใท้งสิ้น มีแต่จะเพาะศัตรู ความเป็นกัลยาณมิตรหายไป น้ำเอ๋ยน้ำใจ เจ้าไปอยู่ที่ไหนแล้วเอย "

ข้าแน่กว่าใคร ไม่ต้องเกรงใจใคร เราศักดิ์ศรีเท่าเทียมกัน ไม่มีแม้ศิษย์ ไม่มีอาจารย์ ไม่มีแม้แต่รุ่นพี่รุ่นน้อง ไม่มีอาวุโส ไม่ต้องเคารพนับถือใคร ทำไม สังคมไทยถึงแปรเปลี่ยนได้เพียงนี้ ทุกครั้งที่เข้าประชุม ( บางแห่ง ) แต่เกิดบ่อยมากๆ  จะรู้สึกเกิดอาการสังเวชใจ ทุกคนตั้งใจมาจับผิด ไม่สร้างสรร ไม่ออกความคิดเห็น ไม่สนใจ ขอให้มานั่งในที่ประชุมและรับเบี้ยเลี้ยง ทานอาหารและลาจาก  ความเป็นมนุษย์ผู้เจริญแล้ว ควรมีปิยวาจา ไม่ใส่อารมณ์ พูดด้วยเหตุและผล การยอมรับความผิดพลาด การให้อภัย การมีน้ำจิตนำใจต่อกัน ความปรารถนาดีทั้งต่อหน้าและลับหลัง กำลังเลือนหายไปจากสังคมไทย วัตถุนิยม บริโภคนิยม และ อำนาจเงินตรา กำลังมามีอิทธิพลในจิตใจมนุษย์ ความกระหายอยากในอำนาจ บารมี รวมทั้งเงินตรามีมากบ้างน้อยบ้าง ตามฐานานุรูปของแต่ละผู้คน เงินทอง เกียรติยศ วาสนา และบารมี เมื่อถึงสักวันก็หมดไป เหลือไว้แต่เถ้าถ่าน กองกระดูก ที่ขาวโพลนเท่านั้น เพลาๆ ลงบ้าง มนุษย์เอ๋ย !!!  โปรดระลึกเสมอว่า  " ตอนเกิดมาเจ้าได้อะไรมา ตอนเจ้าไปเจ้าจะได้อะไรไป " จงเป็นสุขๆ เถิด มนุษย์ผู้เวียนว่าย ตายเกิดในวัฏสงสารทุกผู้ทุกนามเอ๋ย เอวังก็มีประการล่ะ ฉะนี้ สาธุ !!!!!

 

คำสำคัญ (Tags): #uncategorized
หมายเลขบันทึก: 16652เขียนเมื่อ 24 กุมภาพันธ์ 2006 11:35 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 14:28 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)
เห็นด้วยมากๆ เลยค่ะ ที่ประชุมที่บริษัท มีคนพูด 4-5 คน นอกนั้น 10  กว่าคน เงียบเหมือนเป่าสาก นั่งซื่อบื้อ ไม่มีความเห็น แต่กินเงินเดือน กินเบี้ยประชุม กินอาหารเบรค อิ่มหนำสำราญ คิดว่าบริษัทคงอยู่ไม่นาน คงเจ๊งในไม่ช้า  คิดว่าต้องรีบหางานใหม่แล้ว
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท