จริงๆแล้ว 1 container ใช้ barcode 1 หมายเลข ที่มองเห็นเป็น 2
barcode ตามรูป เกิดจากขบวนการผลิตที่ผิดพลาด
(เราจ้างโรงพิมพ์ผลิตมาอีกที) ซึ่งจะมีบ้างที่การตัด sticker
ไม่ตรงตำแหน่ง ทำให้ได้ เสี้ยวหนึ่งของ barcode อีกแผ่นติดมาด้วย
บังเอิญเครื่องอ่าน barcode ที่ให้ไปเกิดเป็นแบบที่ดีเกินไป
คือเป็นแบบ multi scan ซึ่งจะยิง laser ออกมาทุกทิศทาง
ทำให้สามารถอ่านได้แม้กระทั่ง เสี้ยวนิดเดียวของ barcode
ที่สมบูรณ์พอที่อ่านได้ ก็คือไปอ่านดวงเล็ก ที่เป็นของที่ตัดผิดติดมา
(ตัดผิดนะครับ ไม่ใช่ติ๊กผิด ;p) แทนที่จะอ่านจาก
ดวงใหญ่ที่เป็นของจริง ในขณะที่ฝ่ายเก็บ specimen ที่เป็นคน patch
barcode กลับไปอ่านได้ดวงใหญ๋ในขั้นตอนการ patch
เลยทำให้ได้ข้อมูลไม่ตรงกัน ปัญหานี้แก้ไม่ยาก
ขึ้นกับว่าใครจะแก้และแก้อย่างไร
บางวิธีก็ได้กำหนดให้ใช้เป็นแนวทางแก้ไขไปแล้ว ดังนี้
1. ยกเลิกงานของโรงพิมพ์นี้ lot ที่มีปัญหาทั้งหมด เพื่อเป็นการ
ลงโทษและเตือนให้โรงงานระมัดระวังและรับผิดชอบงานของตนเอง
2. ไม่ใช้ barcode ดวงที่มีปัญหา (ยกเลิกเฉพาะดวงที่มีปัญหา)
ทั้งนี้การใช้ barcode จะเป็นหน้าที่ของผู้ใช้คนแรกที่หยิบเอา sticker
มาติด container ซึ่งได้เคยกำชับไปแล้วว่า หากเห็นเป็น 2 ดวงดังภาพ
ห้ามนำมาใช้ ส่วน barcode ที่เป็นปัญหาก็ให้รวบรวม ส่ง claim
กับโรงพิมพ์ต่อไป ข้อนี้ทำอยู่
3. ใช้เครื่องอ่าน barcode ที่ประสิทธิภาพต่ำกว่านี้
แต่คงไม่เลือกข้อนี้ เพราะจะทำให้เวลาที่ใช้ในการอ่าน barcode
แต่ละครั้งใช้เวลามากและต้องเล็งให้ตรงจึงจะอ่านได้
4. ค่าที่อ่านได้จาก bacode
จะต้องตรงกับค่าตัวเลขหรืออักษรที่กำกับ barcode เสมอ ดังในภาพประกอบ
คือ ต้องอ่านได้เป็น N53389
ตรงนี้ก็จะเป็นตัวยืนยันได้อีกทีว่าข้อมูลถูกหรือไม่
5. ไม่ใช้ barcode ดวงที่ไม่สมบูรณ์ดังกล่าว
ข้อนี้ก็กำชับกันอยู่แล้ว
ดังนั้นที่ กลุ่มสรุปว่า ไม่ควรใช้ barcode ดวงที่เป็นปัญหา
นั่นคือ ข้อสรุปที่ถูกต้องแล้ว ครับ ทาง IT
ก็เคยเตือนไปแล้วว่าห้ามใช้ ไม่ทราบว่าทำไม ถึงยังใช้กันอยู่
จริงอยู่ที่ว่า sticker barcode เบิกไปจาก IT
แต่เนื่องจากเวลาเบิกจะเบิกไปทีละ pack ซึ่งในแต่ละ pack
จะมีหลายแผ่นใหญ่ (แต่ละแผ่นใหญ่ก็จะประกอบด้วย bracode
หลายๆแผ่นเล็ก) ดังนั้นจึงอาจจะมีบ้างที่หลุดสายตาไปได้
แต่ผู้ใช้จะเป็นการหยิบมาทีละ 1 แผ่นเล็ก หรือเรียกว่า 1 ดวง
ซึ่งน่าจะมองเห็นตั้งแต่ตอนแกะออกมาจากแผ่นใหญ่ แล้วนำไปแปะบน
container ดังนั้น ก็ไม่น่าจะนำมาใช้ตามที่บอก
สิ่งที่ควรจะเป็นคือ
1. ห้อง lab ไม่ควรได้รับ container ที่มี barcode
ที่เป็นปัญหาดังกล่าวเลย เพราะไม่ควรมี sticker barcode
ที่เป็นปัญหาดังกล่าวติดอยู่
2. ห้อง เก็บ specimen ไม่ควรนำ barcode ที่มีปัญหามาใช้
3. ฝ่าย IT ควรจะได้รับ barcode ที่มีปัญหาเหล่านี้
แล้วรวบรวมเพื่อนำไปจัดการแก้ปัญหากับโรงพิมพ์ต่อไป ทุกวันนี้
จะเป็นการ claim
แบบให้ชดเชยแผ่นที่มีปัญหามาให้แต่หากพบว่ายังเกิดปัญหามาก
ก็จะได้พิจารณาเปลี่ยนโรงพิมพ์