อัปลักษณ์สาธารณสุขไทย
|
อัปลักษณ์สาธารณสุขไทย
อ้างอิง - ภาพ http://www.lomography.com/folkways แรกเริ่มเดิมที ตั้งใจตั้งแต่ตื่นหัวรุ่ง ว่าอยากเขียนเรื่องดีดีงามงาม นั่งคิดถึงชีวิตว่า เวลาผ่านงานหนักมามากทั้งวัน หากเราได้เริ่มต้นเอนหลังล้มตัวนอนด้วยใจเป็นสุข อาจเปิดเพลงเบาคลอฟังจนหลับไป เหมือนกล่อมใจด้วยสมาธิ หรืออ่านหนังสือที่มีเรื่องราวถึงด้านดีมนุษย์ เห็นไม้ผลิบาน มองต้นไม้ใบหญ้าและชีวิตด้วยใจเป็นสุข กระทั่งสามารถตื่นนอนยามเช้าได้ เพื่อมีโอกาสมองเห็นความงดงามของโลกและชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สำหรับชีวิตในรอบสามสี่ปี คำตอบหนึ่งในชีวิต ด้วยสุขเล็กเล็ก ผมชอบตื่นนอนตอนดึก ยิ่งตื่นได้สักตีสามตีสี่ ยิ่งเป็นช่วงกำลังดีของชีวิต จะมีงานบางอย่างที่สามารถทำได้อย่างรวดเร็ว เขียนอะไรค้างไว้ให้มาต่อยอด หัวจะโปร่งตัวจะโล่ง เขียนและอ่านเรื่องราวได้อย่างเข้าใจ ทั้งสิ่งรอบข้างใจที่แสนสงบ ผู้คนยังไม่วุ่นวายให้ได้ยินเสียงครึกโครม จะอ่านหนังสือ หรือลำดับหัวใจยิ่งดี ถ้าได้นั่งอ่านหนังสือธรรม ได้นั่งฟังธรรมยามเช้า หรือให้ดีต่อชีวิต ให้สามารถสวดมนต์นั่งสมาธิก็จะเป็นคุณกับตนเองและผู้อื่นไม่น้อย ไม่นับรวมกับการดื่มน้ำให้มาก ก่อนยามเช้าของชีวิตมาเยือน ให้ตัวได้โดนแดดเช้าพอให้เหงื่อได้สัมผัสใจ และพอให้ใจได้เข้าใจความเปลี่ยนแปลงของโลก และของตัวเอง แต่ขออภัยเถิดครับ สำหรับเช้าวันนี้ หลังจากที่เมื่อคืนที่ผ่านมานั้น ก่อนที่ผมจะหลับตานอน ผมได้ยินเสียงแว่วเข้าหู จากการเปิดตัวรัฐมนตรีแต่ละท่าน เมื่อยามพระยาย่างเหยียบกระทรวงแทนเหยียบนา เปิดตัววันแรกด้วยฤกษ์ผานาที ด้วยฤกษ์งามยามดี ต้องมีเก้า มีก้าว โดยจะมีเลขเก้าหน้าเก้าหลัง ประกบวันแรกเมื่อเดินเข้ากระทรวง ให้ชีวิตได้ปลอดโปร่งใจยิ่ง แต่คืนที่ผ่านมา ผมเจ็บปวดใจ กับคำตอบของรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เมื่อได้ยินเสียงตื่นเต้น พร้อมคำตอบเกี่ยวกับทะเบียนยา CL ที่ผู้คนมากมาย ต่างต่อสู้กับความอยุติธรรมของวงการยาระดับโลก ด้วยเกียรติยศ ความเชื่อมั่น และความรักที่มีต่อแผ่นดินไทย เพื่อคนไข้เจ็บป่วยคนไทย ปลดแอกสิ่งที่นักการเมืองหน้าไหนก็ไม่เคยกระทำมาก่อน จนสามารถไปยืนให้ฝรั่งดั้งขอชี้หน้าด่า ด้วยผลกำไรอันคับอกคับใจ พวกหากินกับผู้ป่วย ด้วยโครงสร้างราคายาอันเลวร้ายไร้ความดี และด้วยเงินที่ปิดปากนักการเมือง แต่ให้บังเอิญเหลือเกิน สำหรับวันแรกในงานแต่ละกระทรวง ที่นักข่าวประจำสายแต่ละกระทรวง จำต้องสัมภาษณ์ถึงประเด็นเร่งด่วนที่แต่ละว่าการต้องเร่งทำ รัฐมนตรีว่าการ และช่วยว่าการแต่ละท่าน จึงต้องถูกดักคอถาม ในประเด็นแหลมคมที่พอจะให้คนไทย ได้แลเห็นอนาคต
แล้วอนาคตก็เริ่มต้นขึ้น คุณไชยา สะสมทรัพย์ เริ่มต้น ด้วยประโยคที่ผมฟังไม่ผิดหูมากนัก กับการตีสำนวนฝีปาก ว่าเข้ามาเพื่อบำรุงให้เกิดความสุขกับคนไทย เพราะคำว่าสาธารณสุข ก็คือความสุขของคนไทย ช่างเป็นคำที่ไพเราะเพราะพริ้งอย่างยิ่ง หากไม่มีคำตอบเรื่อง ยาของผู้ป่วยโรคมะเร็ง โรคสำคัญซึ่งดูดกลืนชีวิตคนไทยด้วยความเจ็บปวดใจ โดยไม่นับกับความเลวร้ายของผู้ยากจน ซึ่งถูกกระทำจากโครงสร้างราคายาที่ไม่เป็นธรรม แค่เพียงลำพังเล่นตีสำนวนฝีปากนักการเมือง ยังไม่เจ็บปวดใจเท่ากับพฤติกรรม จากคำพูดเพื่ออธิบาย โดยส่งสัญญาณว่าอาจมีความเปลี่ยนแปลง ในบัญชียาดังกล่าว ซึ่งประเทศไทยได้ปลดแอกสู้กับบรรษัทยาข้ามชาติ แบบหมัดต่อหมัดตัวต่อดัว จะด่าว่าอดีตเจ้ากระทรวงว่าหากินกับเม็ดเงินก็ด่าไม่ได้ จะด่าว่ารับส่วนต่างราคายาก็ทำไม่ได้ เพราะสุดท้ายราคายาที่ต่ำลง ก็เพื่อผู้ป่วยแทบทั้งสิ้น แต่พอนักการเมืองหน้านี้ เดินเข้ากระทรวงวันแรกด้วยเหงือกยิ้ม เสียงพูดจากวีรกรรมของท่าน ผู้ไม่เคยมีผลงาน ไม่เคยออกมาต่อสู้เพื่อความสุขเป็นของคนไทย แทบจะไม่ปรากฎความเคลื่อนไหวใด ในงานการเมืองเพื่อพูดถึงยา ทั้งในงานสัมมนา สัมภาษณ์ข่าวที่เกี่ยวกับสาธารณสุขและชีวิตคนไทย แต่ดันกลับโผล่มากลางห้องรัฐมนตรีว่าการกระทรวง ด้วยปากคำปากคอที่ตรงใจผู้บริหารบรรษัทยาข้ามชาติ เข้ากันแบบเป็นปี่เป็นขลุ่ย เป็นเผือกเป็นมัน อย่างที่ไม่อาจหาได้จากสำนึกใดใดว่า พูดทำไม จะกล่าวหาว่า ผมอคติต่อรัฐมนตรีท่านนี้ก็ตาม ผมขอยอมรับ ด้วยจิตอันเป็นกุศล หากเพียงได้เห็นหน้าคนป่วย ผมเชื่อว่า ใครก็ต้องนั่งนึกถึงฝีปากของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขท่านนี้ ขออภัยหากจะกล่าวว่า จะบ้าหรือไรหากจะไม่กล่าวเรื่องนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อจำต้องกล่าวเพื่อแสดงอำนาจ ว่าตนจะเปลี่ยนแปลงผลของการต่อสู้ เมื่อยกที่ผ่านมาคนไทย ประชาชนไทย และหมอไทย สู้จนชนะมาแล้ว หากจะกล่าวเรื่องอื่น พูดเรื่องใดที่ไม่กระทบถึง ผลประโยชน์ผู้ป่วยคนไทยอันยากไร้ หรือไม่กล่าวถึงความแหลมคมที่ตนไม่เคยได้ร่วมต่อสู้ แต่กลับมานั่งปั้นหน้าเช่นนี้ พูดไม่ได้หรือครับ หากท่านไม่กล่าวแล้ว ท่านจะอกแตกตายหรืออย่างไรกัน ขออภัยครับโดยส่วนตัวผมรับไม่ได้ กับพฤติกรรมของนักการเมืองเช่นนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประโยชน์สาธารณะ สิทธิของผู้ป่วย และสิทธิความเป็นคนของคนไทย ที่ได้ต่อสู้กันมา เพื่อปลดแอกจากความฉ้อฉลประดามี ของการหากินบนหลังผู้ป่วย วันนี้ เรื่องไม่เป็นเรื่องไม่เข้าใครออกใคร แต่อยู่ในหัวใจคนไทย และผู้ป่วยไทย ท่านเข้าใจใช่ไหมครับ
|
ความเห็น (6)
ผมไม่ได้ดูข่าว
หากเป็นอย่างนั้น เอ้า ต้องออกแรงกันอีกแล้วหรือนี่....
สวัสดีค่ะคุณ kati
ดีใจที่สุดที่เห็นบันทึกอีกครั้ง และดีใจกว่านั้นคือพูดถึงเรื่องสิทธิบัตรยา
เบิร์ดนิ่งอึ้งกับ " วิสัยทัศน์ " และคำพูดที่ดูเหมือนจะไม่ได้ผ่านการไตร่ตรองถึงผู้ป่วยมาก่อนของท่าน รมต.คนใหม่ของเบิร์ดคนนี้.....เราประกาศCL ยามะเร็ง 3 ตัวเพราะไม่สามารถเจรจาลดราคายาลงได้ เฉลี่ยคร่าวๆคือยาที่ประกาศ CL ราคายาปกติจะแพงกว่าตอนที่ประกาศแล้วประมาณ 7 - 30 เท่า มีบางตัวมั้งคะที่เหลือ 7 บาทจาก 200 ! ( ราคาไม่ชัวร์นะคะ แต่คร่าวๆประมาณนี้ )
เหตุผลที่ท่านมองเป็นวาระเร่งด่วนคือมีบริษัทยาร้องเรียน / หมอมงคลเซ็นต์วันที่ 4 มค.51 ซึ่งใกล้หมดวาระการทำงานไม่ควรกระทำมีสิ่งใดซ่อนเร้นหรือไม่ / ยอดผู้ป่วยมะเร็งเรามากแค่ไหน สมควร คุ้มค่าหรือเปล่าที่ทำเช่นนั้น ...โอ้ ! แต่ละเหตุผลจับใจเป็นอย่างยิ่ง ...บอกได้ว่าถ้าเดินไม่ดี โอกาส " เป็นเรื่อง " มีสูงมากค่ะ...
เฮ่อ..เหนื่อย
ขอบคุณจริงๆนะคะที่เขียนเรื่องนี้
ประกาศข่าวให้คนไทยช่วยพิจารณา
อ้างอิง - รายงาน คมชัดลึก
http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=304722
"ไชยา"หยอกแรงให้กินดอกไม้จันทร์
19:29 น.
ผู้สื่อข่าวรายรายงานว่า ในช่วงบรรยากาศค่อนข้างวุ่นวาย หลังการหารือ ระหว่าง องค์กรพัฒนาเอกชน และ เครือข่ายผู้ติดเชื้อเอดส์ จำนวน 50 คน กรณี การ ทบทวน ซีแอลมะเร็ง 4 รายการ นั้น นายไชยา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้เดินออกมาทักทายกลุ่มผู้ติดเชื้อที่ ยืนรวมกลุ่มหารือหลังการเจรจาเพื่อให้รัฐมนตรี เดินหน้านโยบายซีแอลนั้น ได้หยอกล้อผู้ติดเชื้อด้วยภาษาที่ไม่เหมาะสม
นายไพศาล จงอนุรักษ์ อดีตประธานเครือข่ายผู้ติดเชื้อภาคกลาง กล่าวว่า ระหว่างที่ กลุ่มผู้ติดเชื้อกำลังหารือก่อนที่จะเดินทางกลับบ้าน นั้น นายไชยา ได้เดินออกมาทักทาย กลุ่มผู้ติดเชื้อและพูดว่า "ยังไม่กลับอีกเหรอ พวกคุณมาจากไหนกันบ้าง" ตนจึงตอบกลับไปว่า พวกเรากำลังหารือกันว่า จะทำอะไรต่อหากท่านรัฐมนตรี ทบทวน การทำซีแอล เพราะพวกเรากลุ่มผู้ติดเชื้อหากไม่มียากิน คงจะต้องไปกินยาฆ่าหญ้า ซึ่ง ขณะนั้น นายไชยา บอกว่า ถ้าเป็นผมจะกินดอกไม้จันทร์แทน" ตนจึงตอบกลับไปว่า "ผมจะกินกาม๊อกโซลแทน ผมไม่กินดอกไม้จันทร์"
นายไพศาล กล่าวว่า ได้ยินแล้วรู้สึกไม่ดีเลย แม้ว่าท่านอาจจะมีเจตนาหยอกล้อ แต่ก็เป็นการล้อเล่นที่ไม่เหมาะสม
coffee mania
- งั้นเราก็พูดได้เต็มปาก
- ว่าด้วยความอัปลักษณ์ของคณะรัฐบาล
- เริ่มต้นด้วย กระทรวงสาธารณสุข
- ขี้เหร่ก่อนใครเพื่อนเลย
- แหมเริ่มต้น ก็น่าจะแจกน้ำยาบ้วนปากแบบนี้
- คงมีอะไรให้เหนื่อยกันอีกแล้วนะคะ
ว่าแต่เค้าไม่มีหลักสูตร ปรับปรุงบุคลิกภาพและวิสัยทัศน์ของผู้บริหารระดับนี้เลยนะ
แบบคล้าย ๆ โรงเรียนดัดสันดาน
น่าจะให้มีจังเลย
มาบ่น ๆ ด้วยคนค่ะ ไหน ๆ ก็มีแนวร่วมหลายคน
สวัสดีครับ...
มันเศร้า..ที่สุดเลยครับ
...สู้เท่าที่ส้ได้..ตามปัจจัย..
...
ผมเงอเห็นข่าวนี้แล้วหงุดหงิดพอสมควร
สิ่งที่ท่านทำนั้นบ่งบอกถึงวิธีคิดของจ้าวกระทรวงสาธารณสุข ที่จริงๆควรต้องเห็นเรื่องสุขภาวะของประชาชนเป็นสำคัญมากกว่าผลประโยชน์ทางธุรกิจของคนบางกลุ่ม
ผมมองว่า การทำ CL พิจารณาตามสิทธิ+ขั้นตอน อาจขัดผลประโยชน์ชาติมหาอำนาจ แต่หากใช้ใจที่เป็นธรรมไม่ขูดรีดกันเกินไปก็คงไม่จำเป็นต้องทำ CL ถ้าจะทำเรื่องนี้จริงจัง ท่านน่าจะย้ายกระทรวงไปกระทรวงพาณิชย์ไปจัดการเทปผีซีดีเถื่อนจะดีกว่า
ผมอยากให้ท่านปรับมุมคิดเสียใหม่ ใช้ท่อยคำให้สมกับเป็นรัฐมนตรี ใช้ความเมตตา มากกว่า อำนาจ และมองผลประโยชน์ของชาติ ก่อนผลประโยชน์ด้านอื่น