ลาที Mac OS X
ผมเปลี่ยนมาใช้ Ubuntu เป็นหลักในการทำงานได้เกือบสัปดาห์แล้วครับ ปล่อยให้ MacBook เป็นพระรอง เป็นการประชดพี่ Steve ที่ไม่ได้เห็นผู้คนในโลกที่สาม ออก MacBook Air มาให้เฉพาะผู้มีเงินในประเทศโลกที่หนึ่งใช้ ผิดหวังผมอย่างยิ่ง
ในงาน MacWorld ที่ผ่านมา ผมคาดหวังว่า Apple ในฐานะผู้นำเครื่องคอมพิวเตอร์ในตลาดการศึกษา จะออกเครื่องที่สร้างปรากฎการณ์ด้านการศึกษาใหม่ชนิดที่ OLPC ต้องอายม้วนเสื่อ ClassmatePC ต้องกลับไปทำการบ้านใหม่ และ EeePC เลิกผลิตไปเลย
แต่ปรากฎว่าไม่เป็นอย่างนั้น พี่ Steve ลืมไปแล้วว่า Apple นั้นเติบโตมาจากตลาดไหน ออก MacBook Air ที่แพงแม้กระทั่งเด็กอเมริกันธรรมดายังไม่มีปัญญาซื้อ เด็กในโลกที่สามนั้นไม่ต้องพูดถึง
Apple แม้จะ user-friendly แต่ไม่ people-friendly แล้ว
ไม่ไหว ผมไปใช้ Ubuntu เป็นหลักดีกว่า
ก็ใช้มาหนึ่งสัปดาห์ ก็มีความสุขดี ไม่มีปัญหา
แต่วันนี้เกิดอารมณ์ดี เห็น MacBook ตั้งอยู่เหงาๆ ก็เลยเอามา resize partition กะว่าจะลงเป็น dual-boot ระหว่าง Mac OS X กับ Ubuntu เพราะยังไง hardware ของ MacBook ก็ดีกว่าเครื่อง BenQ ที่ผมใช้ Ubuntu อยู่
diskutil resizePartition /dev/disk0s2 60G
เรียบร้อยดีไม่มีปัญหา restart ได้สบายดี
แต่ลองใช้ Disk Utility ทำการ verify ดู มีปัญหาแฮะ งั้น boot กับแผ่นแล้วทำการ repair แล้วกัน
repair ได้ไม่มีปัญหา อืมม.... เหลือ 50G สำหรับ Ubuntu ไม่ค่อยสวย เลยใช้ Disk Utility ทำการ resize partitions ให้เป็น 55G ทั้งสอง partitions
แล้ว restart
แล้วก็ไม่ขึ้น
แล้วยังไงล่ะ?
ตกลงว่าเจ้า Disk Utility มันมี bug ในการ resize partition หรือไง?
คิดอยู่สามตลบ พร้อมความเซ็งสุดขีด นี่ดีที่ผม backup data ไว้ตลอด ที่หายก็แค่รูปถ่ายที่ไม่สำคัญ ไม่งั้นคงเซ็งกว่านี้
คิดแล้ว ตัดสินใจว่า เลิก เลิก เลิก
เลิกใช้ Mac OS X แล้ว พอกันที ไหนๆ ก็ไม่พอใจเฮีย Steve อยู่แล้ว ลง Ubuntu อย่างเดียวบน MacBook ไปเลย
นี่ถ้าไม่ติดว่างานผมอยู่บน unix platforms ทั้งหมด ผมจะลง Windows Vista แล้วนะครับ ติดใจแนวคิด creative capitalism ของพี่ Bill จนอยากจะสนับสนุน
ที่ผ่านมาสินค้าของ Apple มีปัญหากับภาษาไทยมากมาย แล้ว Apple ก็ไม่ได้สนใจจะสนับสนุนภาษาไทยให้ดี ทำนองว่าตลาดไทยเราเล็ก ไม่น่าสนใจ ในขณะ Microsoft กลับให้ความสนใจในการพัฒนาให้การใช้งานภาษาไทยทำได้ดีในสินค้าของ Microsoft ทั้งๆ ที่ 90% ของการใช้งานสินค้าของ Microsoft ในประเทศไทยเป็นของเถื่อน
classic capitalism เจอกับ creative capitalism นะเนี่ย
เอาล่ะ สำหรับผมแล้ว MacBook Air สวยดีแต่ไม่เท่ ส่วน creative capitalism เท่มาก เดี๋ยวนี้ Steve Jobs สู้ Bill Gates ไม่ได้แล้วครับ ลากันที ลากันทีพี่ Steve ผมไปอยู่กับพี่ Bill ดีกว่า เท่กว่าเยอะเลย
ความเห็น (9)
โอ้โฮ!!!สำนวนวัยรุ่นเลย....
นี่ตกลงเลิกเป็นสาวก Macแล้วจริงๆเหรอคะ น่าเสียดาย ของเขาสวยนะ
พอดีพี่ มีNote book Mac อยู่เครื่องหนึ่ง key board เสีย เอาไปซ่อม แล้วไปที่Fortune เมื่อเดือนก่อนกับลูก เห็นMacBook Air เขาให้จอง เลย จะขายของเก่า และเพิ่มเงิน เปลี่ยนเป็นรุ่นนี้แทน ยังไม่มีของ แต่รอได้ อยากรู้ว่า จริงๆ จะดีอย่างโฆษณาไหม ถ้าไม่ดีกว่า คงเสียดายเงินแย่
แต่พูดจริงๆ ของMac เขาสวยจริงๆนะคะ
เห็นด้วยกับคุณศศินันท์ครับ ว่า Apple เขาออกแบบสินค้าได้สวยจริงๆ ครับ ตั้งแต่ Steve Jobs กลับมาเป็น CEO งาน industrial design เขาเป็นอันดับหนึ่งมาตลอดครับ
ถ้าตอนนี้ผมอยู่อเมริกาผมก็คงใช้ MacBook Pro อยู่แน่ๆ ครับ เพื่อนๆ ไม่ว่าจะมาจากค่าย Unix หรือ Windows ปัจจุบันเปลี่ยนไปใช้ Mac กันโดยส่วนใหญ่ครับ
แต่ช่วงนี้ผม "in" กับเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อประชาชนมากครับ เลยผิดหวังที่ Apple ไม่ได้ออกเครื่องคอมพิวเตอร์โดยเน้นราคาต่ำอย่างเช่น OLPC, ClassmatePC, หรือ EeePC ครับ เลยตัดสินใจไม่ใช้ Mac OS X แล้วครับ
เครื่องนี้ ฮิตมากที่อเมริกานะคะ EeePC
หลังจากที่ไม่ได้อ่านบล็อกของอาจารย์มานาน มาเจอโฟสต์นี้แล้วงงพอสมควร อันนี้เลยทำให้เอารูปที่กอด iMac ออกรึเปล่าครับ :-D
PS: ผมก็คิดว่าว่า Ubuntu ก็ดีพอแล้ว Happy ดี เหมือนๆอาจารย์ครับ
อยากบอกว่าอย่าโทษใครเลย
เขาก็แค่ทำตลาด
กลุ่มเป้าหมายเขาไม่ใช่ทั่วไป
แต่เป็นคอมพิวเตอร์คุณภาพ
ต้องเข้าใจครับเขาค่า R&D สูง
จะให้ตรงใจคนทุกคนคงไม่ได้
แต่อยากบอกว่าต่างคน ต่างความคิดอ้ะ
ohmoonnom
มากมายหลายสาเหตุ อันเกิดจากความผิดพลาดที่สตีฟ จับมือกับอินเทลหวังสร้าง MAC โดยเน้นความเสถียรแต่ปรับลดราคาให้เด็กบ้านเราซื้อกันได้
แต่ท้ายที่สุดอินเทลกับเป็นช่องโหว่ สำคัญต่อการพัฒนา เพราะในราคาที่เครื่องประกอบสามารถทำได้ แต่ในขณะเดียวกันสตีฟก็ต้องตกใจ เพราะในปีนี้ i7 ดันสร้างปรากฏการณ์แพงแต่ดีมาให้เห็น
แต่ถึงอย่างงั้นแผนนี้ซึ่งสตีฟคงรู้อยู่แล้วว่าถึงทำได้แล้วยังไงมันก็ต้องกลับมีเหมือนเดิมอีก แล้วจะต้องไปปั่นกระแสด้วยทำไม เพราะแพงแล้วก็ลด ใครก็หามาครอบครองได้ เลยให้ไปจับมือกับ CPU
ตัวใหม่เพื่อสร้างความต่างขึ้นมาดีกว่า เหมือนครั้ง PowerPC แต่เน้นที่กระตุ้นไม่ให้หยุดพัฒนาแบบครั้งที่แล้วก็พอ หันมาถามฝั่ง PC
มั่งดีกว่าว่าสะใจมั้ย เราประกอบเครื่องที่มีเสป็คเดียวกับแม็คแต่กับราคาหั่นกันไปตั้งสามเท่า แถมลงแม็คได้อีกมันยอดไปเลย เอาละสิ เพราะฝั่ง PC ล้วนแต่เป็น Hacker มือพระกาฬทั้งนั้น
นั่นคงเป็นสิ่งที่ไม่ต้องสงสัยว่าเมื่อ PC ใช้แม็คได้ แล้วไวรัสใน Mac มันมาจากไหน แล้วจะป้องกันยังดีหล่ะ ไม่ทันได้เตรียมโปรแกรมอะไรไว้ด้วยสิ คงต้องวอนให้ Product ต่างๆเร่งมือ
ผลิตให้ เห้อน่าสงสาร ตาเกตส์หร๋อคงไม่มองเรื่องนี้เป็นคู่แข่งหรอกก็ตัวเองมีหุ้นส่วนใหญู่ใน APPLE นี่ แถมใหญ่ซะด้วย ได้แต่มองสตีฟจะแก้ปัญหายังไง แตาเชื่อเถอะสตีฟต้องมีทางแก้
แบบยังคงคอนเซปเดิม ซอฟแวร์ Mac ก็ต้องใช้กับแม็คสิ จิงมะ มันน่าสนใจว่ามั้ยชีวิต 2 คนนี้ ครั้งนึงเกตส์เคยเป็นแค่ผู้ตอบปัญหาเล็กน้อยๆอยู่บนเวที Apple ที่มีสตีฟเป็นพิธีกรและ CEO
มันดูตลกถ้าหากย้อนไปดู ณ ตอนนั้น แต่มันไม่ตลกสำหรับสตีฟเอาซะเลย
macbook อยากจะขว้างทิ้ง hp tx2 ยังใช้สบายใจกว่าครับ
สวยแต่รู้จูบไม่หอมจริงๆ มีปัญหาเรื่องความร้อนตลอด แม้แต่ run OSx ไม่เกิน 30 นาที ใช้ที่รองระบายความร้อนของ mac เครื่องร้อนและทำให้มันช้าลง ตัว OS เบาก็จริงครับอันนี้ต้องยอมรับทำงานด้านงาน Graphic ดีครับ ...แต่เรื่องช่องระบายความร้อนเนี่ย Apple เขาไม่คิดจะขายเมืองร้อนหรือไง ทางเข้าทางออก แทบจะเป็นช่องเดี่ยวกัน ไอ้เราก็นึกว่าระดับ Apple จะออกแบบดีน่าเชื่่อถือ มาตกม้าตายในตระกูล Macbook เนี่ย ไอ้เราก็ไม่ได้เอะใจอ่ะเราที่เอาช่องระบายความร้อนไปใว้ตรงนั้นไม่นึกว่าจะทำให้เสียความรู้สึกกันได้ ความร้อนสะสมมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ปล. ได้ทำงานกับ iMac ไม่มีปัญหาเรื่องความร้อนสะสมเลย แต่ดันเป็นที่ตัว Macbook ซ่ะงั้น
เห็นคุณโอห์มใช้ hp tx2 ไม่ลองลงทั้ง mac OSX86 และ win7 ไปพร้อมกันเลยล่ะ
ดูใน youtube แล้วน่าสนุกดี โดยเฉพาะ win7
http://www.youtube.com/watch?v=dzUSGyri8-Q
http://www.youtube.com/watch?v=NFmt2iqCaew&feature=related
อันนี้วิธีการลง osx86 บน tx2
http://www.insanelymac.com/forum/lofiversion/index.php/t161438.html
http://www.insanelymac.com/forum/index.php?showtopic=149169&st=0&p=1097017&#entry1097017
ได้อย่างไรมาบ่นให้ฟังด้วย