สิ่งที่เขานำเสนอบ่งบอกให้ “ตื่นรู้” อย่างชัดเจนว่า เขาวางแนวทางพัฒนาระบบเศรษฐกิจที่มีการสร้างสรรค์ – จัดหา – ดัดแปลง - เผยแพร่และนำความรู้ มาใช้อย่างมีประสิทธิภาพในการขับเคลื่อนและสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและสังคม ได้อย่างไร ?
เพราะเหตุอันเนื่องมาจากการได้รับมอบหมายให้
“ออกแบบ”
โครงการพัฒนาเครือข่ายเทคโนโลยีชีวภาพ (Biotechnology)
โดยท่านผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร นายมานิต
วัฒนเสน
นำพาให้ผมได้พบปะพูดคุยกับบุคคลในแวดวงไบโอเทคหลายท่าน
หนึ่งในนั้นก็คือ นายศุภชัย หล่อโลหการ
ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (สนช.)
เราพูดคุยกันมากมายหลายเรื่องเกี่ยวกับแนวทางการส่งเสริม
/ สนับสนุนให้ชุมชน-ท้องถิ่น และนักธุรกิจ SMEs
พัฒนาอาชีพของตนเองโดยการสร้างสรรค์
นวัตกรรม (Innovation)
เพื่อเพิ่มมูลค่าผลผลิตภายใต้ระบบการแข่งขันและกลไกตลาดเสรี
ที่ต้องการ ความแตกต่าง
(Difference), ดีที่สุด (The
Best) และ เป็นรายแรก
(The First)
เรื่องหนึ่งที่คุณศุภชัยซึ่งกำลังเรียน
วปอ. (วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร) อยู่ในขณะนี้
และมีโปรแกรมจะมาดูงานจังหวัดทางภาคใต้ในช่วง 2-3 เดือนนี้
ฝากบอกมาและผมเห็นว่าน่าจะนำมาบอกต่อ ขยายความ
ให้สังคมชุมพรได้เรียนรู้ร่วมกันก็คือ คณะนักศึกษา วปอ.
แทบจะเดาไม่พลาดเมื่อเข้ารับฟังการบรรยายสรุปสภาวะเศรษฐกิจ-สังคมของจังหวัดต่าง
ๆ จะมีเรื่องหลักซ้ำไป-ซ้ำมา วนเวียนกันอยู่ 2 เรื่อง คือ
ปัญหาผลผลิตทางการเกษตร
และการท่องเที่ยว
ถามว่า 2
เรื่องนี้ สำคัญหรือไม่ ? ตอบได้ว่า
“สำคัญ”
แต่ดูเหมือนว่า แนวทางการแก้ปัญหา การพัฒนา ที่หยิบยกมานำเสนอ
(และเรียกร้องความช่วยเหลือแบบไม่ค่อยมีทางออก) คณะนักศึกษา วปอ.
ฟังกันมาแล้วหลายรอบ อาการเบื่อก็เลยเกิดขึ้น
ตามมาด้วยท่าทีที่บอกให้รู้ว่า ... รีบ ๆ
จบกันเลยดีกว่า
การเดินทางมาศึกษาดูงานก็เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้
รับฟัง รับทราบ นวัตกรรมที่สร้างสรรค์
ภายใต้การบริหารงานที่เข้มแข็งแตกต่างไปจากที่อื่น
แต่สิ่งที่ได้รับกลับเป็นการเรียกร้อง บ่งบอกให้รู้ตำแหน่งใน
Boston’s
Model ว่าตกอยู่ในสภาวะ
หนูน้อยงอแง...พ่อแม่กลุ้มใจ
ตรงกันข้ามกับการศึกษาดูงานในต่างประเทศที่เดินหน้าไปอย่างเข้มแข็งภายใต้แนวทาง
เศรษฐกิจฐานความรู้ (Knowledge
Economy) สิ่งที่เขานำเสนอบ่งบอกให้
“ตื่นรู้” อย่างชัดเจนว่า
เขาวางแนวทางพัฒนาระบบเศรษฐกิจที่มีการสร้างสรรค์ –
จัดหา – ดัดแปลง - เผยแพร่และนำความรู้
มาใช้อย่างมีประสิทธิภาพในการขับเคลื่อนและสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและสังคม
ได้อย่างไร ?
คำตอบมีอยู่แล้วอย่างชัดเจนว่า
จะต้องอาศัยปัจจัยพื้นฐาน 4
ประการเป็นองค์ประกอบสำคัญ คือ
-
ระบบนวัตกรรมและการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี
(Innovation
System & Technological Adoption) หมายถึง
การมีระบบนวัตกรรมที่มีประสิทธิภาพในทุกระดับ ทั้งในระดับกิจการผลิต
ศูนย์วิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัย กลุ่มคนที่มีความรู้
รวมทั้งองค์กรที่ปรึกษาจากภาครัฐและเอกชน ที่มีความสามารถในการจัดหา
เผยแพร่
แลกเปลี่ยนและรับเอาความรู้มาปรับใช้อย่างเหมาะสมกับความต้องการในท้องถิ่น
ตลอดจนสามารถนำความรู้นั้นๆ มาใช้ปรับปรุง
ต่อยอดเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีขึ้นใหม่
-
ประชากรที่มีการศึกษาและแรงงานที่มีความรู้-มีฝีมือ
(Educated,
Creative & Skilled Labor Force) จะเป็นตัวกลางในการสร้าง
(Knowledge Creation) การใช้ (Knowledge
Utilization) และการกระจายความรู้ (Knowledge Diffusion)
สู่ระบบเศรษฐกิจและสังคม
ในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ระดับคุณภาพจะต้องอาศัยโครงสร้างพื้นฐานด้านการศึกษาทั้งในระบบ
นอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัยที่เน้นการค้นคว้า ทดลอง
เพื่อสร้างความเข้าใจและทักษะในเชิงปฏิบัติ
ร่วมกับการฝึกอบรมที่มีคุณภาพและมาตรฐานระดับสูง
ซึ่งจำเป็นต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต เนื่องจากความรู้ /
ความสามารถของบุคคลอาจถดถอยหรือหมดสิ้นไปหากขาดการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
-
เทคโนโลยีสารสนเทศและโทรคมนาคม
(Information
& Communication Technologies) โลกปัจจุบันพึ่งพาเทคโนโลยีหลัก
3 สาขา ได้แก่ เทคโนโลยีชีวภาพ นาโนเทคโนโลยีและวัสดุศาสตร์
ซึ่งเมื่อถูกนำมาผนวกเข้ากับเทคโนโลยีสารสนเทศและโทรคมนาคมแล้ว
จะเกิดพลังที่กระตุ้นให้มีการแพร่กระจายและใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีได้อย่างกว้างขวางและรวดเร็วยิ่งขึ้น
นอกจากนี้
ยังทำให้ประชาชนและธุรกิจสามารถเข้าถึงข้อมูลสารสนเทศจากทั่วทุกมุมโลกได้
และนำข้อมูลนั้นมาสังเคราะห์
กลั่นกรองให้เป็นความรู้ที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อเศรษฐกิจและสังคมโดยรวมอย่างมีประสิทธิภาพและเหมาะสม
-
สภาพแวดล้อมและสถาบันทางเศรษฐกิจ
(Economic &
Institutional Regime) ได้แก่
กฎระเบียบข้อบังคับ ความเชื่อ
ค่านิยมของสังคมที่เปิดกว้างยอมรับแนวความคิดใหม่ๆ
ที่เป็นตัวกระตุ้นให้คนในสังคมกล้าคิดค้นวิธีปฏิบัติ และความรู้
ความคิดใหม่ๆ ที่เป็นประโยชน์
รวมถึงนโยบายของรัฐที่ส่งเสริมให้ภาครัฐและเอกชนร่วมมือกันในการสร้าง
และแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างกัน
ปัจจัยทั้ง 4
ข้อนี้ ผมได้มาจากเว็บไซต์ของสภาพัฒน์ฯ www.nesdb.go.th
ยังมีรายละเอียดอีกมากมาย
ขอเชิญท่านที่สนใจเข้าไปติดตามโดยพลัน.