ความขัดแย้ง...อุปสรรค...และโอกาสการพัฒนา


สวัสดีครับ...

เขียนเรื่องนี้ขึ้นจาก 

การได้สัมผัสถึงความไม่เข้าใจกัน  คิดไม่ตรงกัน

ของเพื่อนร่วมงาน...ของผู้ใหญ่หลายๆคน..ที่มีต่อกัน

ว่าด้วยเรื่องความคิดที่แตกต่าง....ว่าด้วยความมุ่งหวัง...ที่ต่ากัน

 

  มันเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน ....และน่าจะเชื่อมโยงกับเรื่องราวอื่นๆมากมาย

 

  เมื่อเรายังเป็นกล้าอ่อนของการเจริญทางปัญญา..หรือนักพัฒนาองค์กรวัยอ่อน

  เรามักจะกลัวความขัดแย้ง  หลีกเลี่ยง  หรือเข้าไปจัดการ ปะทะ...โดยขาดสติปัญญา...

 

  การเข้าไปในความขัดแย้งในวัยอ่อน..เหมือนการโยนหินลงไปในระบบอย่างไร้ทิศทาง..

 

    แต่เมื่อเวลาผ่านไป  ด้วยการสัมผัสกับความขัดแย้งซ้ำๆๆ...  ดีใจ เสียใจ  เข้าใจ..เห็นใจ

 

   เรากลับมองเห็น...

   ว่าแท้จริงแล้วนั้นความขัดแย้ง...เสมือนม่านบางๆที่บังตาของเรา

  ม่านบางๆที่กั้นระหว่างความคิด  และความเข้าใจของคนเรา หรือกลุ่มคน...

 

  

    อย่างเรื่องสุดท้ายที่ได้สัมผัส  รับรู้....

    เห็นว่า...มันเกี่ยวข้องกับเรื่องเหล่านี้...

      - ความต้องการของแต่ละคน

     - การสื่อสารกันและกัน

    - ความเข้าใจ เข้าถึงใจของกันและกัน

    - เป็นเรื่องของปัญญา..ที่มีมากน้อยต่างๆกัน

 

   บางครั้งผู้คนอาจจะไม่ได้มีเจตนาที่จะทำให้เกิดผลกระทบต่อคนอื่นๆ  ทั้งทางกาย ใจ

   บางครั้งสิ่งที่เกิดขึ้นจากกาย  วาจา  ใจ ของคน  อาจจะไม่รู้ว่าที่ทำนั้นดี ไม่ดี(ในมุมผู้รับรู้)

   เพียงแต่สิ่งที่ก่อเกิด....

            มันคือธรรมชาติ...  ธรรมชาติของตัวตน   ของเราเอง  ณ  ตอนนั้น  วินาทีนั้น....

 

   การที่จะรู้  เข้าใจ  ประเมินได้  ว่าผิดชอบ  ชั่วดีอย่างไรนั้น

  จำเป็นที่ต้องอาศัยเวลา  อาศัยความรู้...

  จำเป็นที่จะต้องปฏิบัติ...เพื่อยกระดับเปลี่ยนแปลงตน  ให้เกิด ให้มี..สติปัญญา...

 

  ความขัดแย้งจึงเป็นทั้งโอกาศและสิ่งที่คุกคาม  ผู้คน  หน่วยงาน  องค์กร

 

  คงมีแนวทางในการจัดการความขัดแย้งมากมาย...

  แต่แนวทางหนึ่งที่ผมกำลังเรียนรู้คือ

    การพัฒนาจิตใจ..ตนเอง..คนรอบข้าง  เพื่อน..และชุมชนนักปฏิบัติ...

     เพื่อเจริญสติ  จริญปัญญา  ให้ยิ่งๆขึ้น...

  

     องค์กรที่เปี่ยมด้วยพุทธิภาวะ... 

    แม้ไม่รู้จักเครื่องมือบริหารจัดการใดๆ

    แต่..คิดว่าการบริหารด้วยวิถีธรรม  ตามธรรมชาติของผู้คน  ตามธรรมชาติกลุ่มนั้นๆ

   ก็น่าจะส่งผล..

   ให้สามารถเกิดองค์กรแห่งความสุขได้....

   ลองคิดพิจารณาดูครับ..^_^

คำสำคัญ (Tags): #ความขัดแย้ง
หมายเลขบันทึก: 163540เขียนเมื่อ 5 กุมภาพันธ์ 2008 16:30 น. ()แก้ไขเมื่อ 25 มีนาคม 2012 23:22 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (11)

สวัสดีค่ะแวะมาทักทายท่าน kmsabai

- เมื่อพูดเรื่องนี้ทีไร ก็ปวดหัวกันเป็นแถว ๆ

- การไม่เข้าใจกัน การสื่อสาร หรืออะไรต่าง ๆ เหมือนม่านบาง ๆ มาบังตา

อยู่ที่ว่าจะแก้หรือไม่ หรือบางอย่างอาจไม่ต้องแตะ ปล่อยวางได้ก็ดี เพราะหากเข้าไม่ถูกจังหวะ ก็เหมือนเอาเรือเข้าไปขวางน้ำเชี่ยว พลอยให้เรือล่มได้ง่าย บางครั้งเวลาก็สามารถช่วยได้ แต่บางอย่างก็ต้องจัดการ  

ยากทีเดียว เรื่องความขัดแย้ง หากนักบริหารสามารถบริหารจัดการความขัดแย้งได้ ย่อมเป็นการวัดความสามารถอย่างยิ่ง แต่อยู่ที่เขาจะจัดการแบบไหน

เพราะบางครั้งองค์กรอาจแตกหัก หรือดีขึ้น ก็แล้วแต่เหตุและผลในตัว

ทางที่ดี ก็ต้อง รับฟังคนอื่นให้มาก ๆ ปล่อยวางความเป็นตัวเราเป็นใหญ่บ้างก็ดี

เปิดโอกาสให้แสดงความคิดเห็นหรือการกระทำ คอยดูเรือลำน้อยอย่างห่าง ๆ แต่ใช่ปล่อยตามยถากรรม

- เป็นกำลังใจค่ะ 

"ไม่มีสูตรไหนสำเร็จรูป เหมือนกินมาม่าในปัจจุบัน"

 

 

สวัสดีค่ะ อาจารย์หมอสุพัฒน์และ อาจารย์เพชรน้อยค่ะ

 

ป้าแดงว่า การเลือกใช้คำพูดที่เหมาะสม อาจจะพอลดความขัดแย้งได้บ้างนะคะ

อย่างช่วงนี้ ป้าแดง หงุดหงิดง่าย ใครพูดอะไรก็ดูไม่เข้าหู ต้องพยายามระงับอารมณ์และปากตนเองไว้ให้ดีเลยค่ะ ไม่งั้นได้เรื่องแน่เลย

 

ขอบคุณค่ะ

สวัสดีค่ะคุณหมอ สิ่งที่คุณหมอประสบอยู่เกิดขึ้นเกือบทุกองค์กร ความเห็นต่างกัน ความต้องการที่ต่างกัน ความมุ่งหวังหรือจุดหมายต่างกันเป็นสิ่งที่ไม่อยากเจอ แต่ก็เกิดขึ้นเสมอบางที บางคนอาจคิดว่าเป็นเรื่องธรรมดาปล่อยให้ไหลไปตามน้ำ  และเฉยเสีย แต่กับการที่เรา มีสำนึกรู้เหตุรู้ผล  รู้ว่า มันไม่น่าจะเป็นอย่างนั้น  ยอมรับกับตนเองว่าทำใจลำบากเหลือเกินค่ะ บางครั้งอยากทำอะไรบ้างแต่เกินความสามรถของตนเอง แต่ก็ใช้ธรรมในการปลงและทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด  ขอเป็นกำลังใจให้คุณหมอนะคะ  ขอบคุณค่ะ

สวัสดีครับพี่เพชรน้อย

    ....ความสามารถในการจัดการ  บอกถึงกึ๋นของความเป็นผู้นำ..

    .... ได้เรียนรู้ครับ...

 

   ความฝันเพียง...รู้ว่าขัดแย้ง  รู้ว่าไม่เหมือนกัน...

   แต่ไม่โกรธกัน  ไม่เกลียดกัน  และไม่ทำลายกันทั้งทางกายวาจา ใจ นะครับ..

สวัสดีครับ พี่P

    ไม่ได้แบ่งปันกันตั้งนานนะครับ
    ขอบคุณที่มาแบ่งปันครับ
   เป็นมุมมอง..หนึ่งนะครับ ^_^
สวัสดีครับคุณP
   ยินดีและขอบคุณมากที่มาแบ่งปันนะครับ

ทำไงได้ละครับท่าน

ในเมื่อยังมีความเป็นอัตตา  : ตัวตน ตัวตู ของตู อยู่

แล้วเราจะสร้างความจุดร่วม ความคิดร่วม เป้าหมายร่วม : ได้อย่างไรเท่านั้น

"ไม่มีวันไหน....ที่หัวใจไร้งาน"

ความสุขกับการทำงาน และเส้นทางคุณภาพ  ไม่ได้เกิดควบคู่กันตลอดเวลา  เพราะพวกเขาเหล่านั้น ยังมีความเป็นอัตตา  รวมทั้งตัวเราบ้างในหลายขณะ ...เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงในทุกองค์กร  แม้ว่าเราจะมีความพยายามที่จะเติมเต็มความสุขให้กับคนในองค์กร  เพียงหวังว่า เขาจะมีความสุขกับการทำงานที่มีคุณภาพ เพื่อประชาชนที่รอรับบริการ   แม้บางวันจะรู้สึกว่าเส้นทางที่ยิ่งเดิน ก็ยิ่งไกล  ...ยังดีนะที่..คุณหมอเป็นคุณหมอ  เพราะมีความจริงอีกอย่างในกระทรวงสาธารณสุข   ... คุณหมอคือบุคคลพิเศษที่พอมีศักยภาพเชื่อมโยงความคิดของกลุ่มคน บางส่วนได้  แม้ไม่ทั้งหมด ....แต่ผู้ประสานงานคุณภาพ  หลายๆแห่ง หรือเกือบทุก ๆแห่งยังต้องเกิดเรื่องราวที่น่าทุกข์ใจอีกมากมาย สำหรับการเชื่อมโยงความติดที่แตกต่างเหล่านั้น เข้าด้วยกัน  เพื่อก่อให้เกิดองค์กรแห่งความสูข เพื่อการทำงานที่มีคุณภาพ  และมีความสุข  กับการทำงาน

สวัสดีครับพี่กระท้อน

   ขอบคุณที่ทำให้ผมได้มีโอกาศเจริญปัญญา

   เรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น

   เราต่างมองเป็นโอกาส...

   เพื่อการพัฒนาภายในของเรานะครับ

สวัสดีครับพี่กระท้อน

   ขอบคุณที่ทำให้ผมได้มีโอกาศเจริญปัญญา

   เรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น

   เราต่างมองเป็นโอกาส...

   เพื่อการพัฒนาภายในของเรานะครับ

สวัสดีครับอาจารย์P  จิตติมา

      - เป็นเกียรติ  และขอบคุณมากๆครับ  ที่ท่านมาร่วมแบ่งปัน

      -ความสุขกับการทำงาน และเส้นทางคุณภาพ  ไม่ได้เกิดควบคู่กันตลอดเวลา  เพราะพวกเขาเหล่านั้น ยังมีความเป็นอัตตา  รวมทั้งตัวเราบ้างในหลายขณะ ...เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงในทุกองค์กร

 

    ความเห็นข้างต้น  เป็นการเติมเต็มและต่อยอดที่สมบูรณ์มากครับ

     ขอบคุณครับ

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท