การใช้ชีวิตนอกบ้านด้วยการออกไปอยู่กลางแจ้งแบบแคมป์ไฟ (campfire) เป็นที่นิยมในเมืองไทยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับพัฒนาการของอุปกรณ์การตั้งแคมป์ที่หลากหลายรูปแบบมากขึ้นด้วย
อุทยานแห่งชาติในเมืองไทยก็ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ และจัดเต้นท์ให้พักในราคาย่อมเยา รวมทั้งบริการก่อกองไฟ ทำให้การจัดแคมป์ไฟสมบูรณ์แบบขึ้น
แคมป์ที่ค่อนข้างถาวรขึ้นมาหน่อย ซึ่งเป็นบ้านพักที่สมาชิกในกลุ่มสามารถพักรวมกันได้หลายคน ก็จะมีพื้นที่ที่จัดไว้ให้สำหรับก่อกองไฟและจัดกิจกรรมรอบกองไฟ
อาหารการกินของชาวแคมป์ในเมืองไทยยังไม่มีสิ่งใดที่จัดว่าเป็นธรรมเนียมปฏิบัติจนเป็นเอกลักษณ์ของการอยู่แคมป์ แต่ในสหรัฐอเมริกาและแคนาดามีค่ะ
ของกินที่ว่านี้คือ มาร์ชแมลโล (marshmallow)
มาร์ชแมลโลจัดอยู่ในกลุ่มขนมหวานค่ะ แบบที่ทำขายในสมัยนี้มีส่วนผสมหลักคือ น้ำตาล ไข่ขาว และเจลาติน ส่วนใหญ่จะเป็นสีขาว แต่สีอื่นๆก็มี เช่น ชมพู ฟ้า คุณสมบัติประจำตัวของมาร์ชแมลโลคือ นุ่มและหยุ่น ดูเผินๆ จะเหมือนฟองน้ำหรือสำลีก้อนกลมๆ
ชื่อเรียกกันอย่างนี้ก็เพราะในสมัยแรกๆ ที่มีผู้คิดทำขึ้น ซึ่งก็ประมาณ 200 ปีมาแล้ว จะใช้รากของต้นมาร์ชแมลโลซึ่งมีสารที่ทำให้เกิดความหยุ่นแบบเจลาตินมาทำ ก็เลยเรียกกันอย่างนี้แม้ว่าจะไม่ได้ทำจากต้นมาร์ชแมลโลแล้ว
เด็กๆ ชาวอเมริกันและแคนาดารู้จักมาร์ชแมลโลเป็นอย่างดี ส่วนมากจะพบมาร์ชแมลโลลอยอยู่ในถ้วยโกโก้ร้อนๆ ส่วนคนที่มีประสบการณ์แคมป์ไฟก็จะรู้จักวิถีกินมาร์ชแมลโลด้วยการย่างกับกองไฟ
ก้อนมาร์ชแมลโลจะถูกนำมาเสียบที่ปลายไม้ยาวๆ แล้วยื่นออกไปย่างเหนือกองไฟ หมุนไม้เสียบให้ผิวนอกของมาร์ชแมลโลถูกความร้อนโดยทั่วถึงกัน ผิวนอกก็จะกลายเป็นคาราเมลกรอบๆ และเนื้อภายในจะละลาย รอให้เย็นลงสักนิดก่อนส่งเข้าปาก
บางคนก็ชอบที่จะแหย่มาร์ชแมลโลเข้าไปในกองไฟจนติดไฟลุกท่วมชิ้น แล้วรีบแกว่งไม้ที่เสียบให้ไฟดับ ซึ่งจะได้มาร์ชแมลโลย่างอีกแบบหนึ่ง
บางคนย่างผิวนอกช้าๆจนกรอบ นำมาลอกกินเฉพาะผิวนอก แล้วย่างต่อ เรียกว่าย่างไปกินไปทีละชั้นอย่างละเมียดละไม
ธรรมเนียมใหม่ที่เกิดในยุคนี้คือ ส’มอร์ (s’more) มาจากคำว่า some more ซึ่งหมายความว่าอร่อยจนต้องกินอีก ส’มอร์ เป็นการนำก้อนมาร์ชแมลโลย่างร้อนๆ วางบนขนมปังกรอบแกรมแครกเกอร์ (graham cracker) ซ้อนทับด้วยชอกโกแลต แล้วประกบปิดด้วยขนมปังกรอบอีกชิ้น บีบเบาให้ติดกันแบบแซนวิช เวลากินก็จะพบว่าได้ลิ้มรสความหวาน กรอบ นุ่ม มัน เค็ม ไปพร้อมๆกัน
มาร์ชแมลโลย่างและส’มอร์ จึงถือได้ว่าเป็นธรรมเนียมการกินของแคมป์ไฟค่ะ
เด็กไทยในครอบครัวของฉันก็ชอบเช่นกัน รวมทั้งผู้ใหญ่ด้วย ทุกครั้งที่ออกไปเที่ยวพักผ่อนแบบตั้งแคมป์ไฟ เราไม่ลืมที่จะพกมาร์ชแมลโลไปด้วย ช่วยเสริมบรรยากาศกลางแจ้งได้ดีมากค่ะ เด็กๆ เองก็จะเตือนทุกครั้งก่อนออกเดินทางว่ามีมาร์ชแมลโลหรือยัง
ลองเพิ่มการย่างมาร์ชแมลโลเข้าในรายการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกครอบครัวหรือกับมิตรสหายดูบ้างสิคะ
ขอบคุณครับสำหรับข้อมูล
เคยดูหนังฝรั่งเห็นเขาชอบกินแบบนี้กัน ที่มีขายในเมืองไทยเห็นหลาน ๆชอบซื้อมากินกันก็หวาน ๆ หยืด ๆ คงไม่ใช่ของแท้
***
จากประโยคที่ว่า
อาหารการกินของชาวแคมป์ในเมืองไทยยังไม่มีสิ่งใดที่จัดว่าเป็นธรรมเนียมปฏิบัติจนเป็นเอกลักษณ์ของการอยู่แคมป์
ขอเพิ่มเติมข้อมูลว่า เดี๋ยวนี้ตามจุดกางเต้นท์อุทธยานแห่งชาติหน้าหนาว จะมีหมูกระทะแทบทุกเต้นท์
เพราะฉะนั้นถือได้ว่าตอนนี้บ้านเราเทียบเท่าอเมริกาแคนาดาได้แล้ว อิอิ
ปล.แถมเป็นที่เดียวในโลกที่แย่งกันกางเต้นท์ แย่งกันจอดรถ คนจอดข้างในใครจะเป็นจะตายกลางดึกก็ไม่ต้องออกไปไหนหล่ะ เพราะรถจอดขวางกันหมด
ภาพจากที่กางเต้นท์ลำตะคอง เมื่อต้นธันวา
ขอบคุณสำหรับข้อมูล ถือเป็นอาหารสมองค่ะ เพราะตอนแรกดูหนังเห็นเค้าเอาอะไรย่างกัน ตอนนี้เข้าใจแล้วค่ะ ที่จริงตอนซื้อให้ลูกทานก็เห็นรูปกองไฟหน้าซองขนมค่ะ และเขียนว่า A True American Tradition ขอบคุณนะค่ะจะได้อภิบายให้ลูกฟังตอนลูกหยิบทานนะค่ะ