Sex...กับความเป็นครอบครัว


อด 3 ห้าม 1

เมื่อวาน มีโอกาสไปฟังการบรรยายเกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมสำหรับการใช้ชีวิตครอบครัว จัดโดยกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เราในฐานะนักศึกษาสังเกตการณ์ดูตื่นเต้นกันไม่น้อยทีเดียว ก็แหงล่ะ ผู้เข้าร่วมคนอื่นๆไปกันเป็นคู่ๆหน้าตาสดใสปิ๊งปั๊ง กันทั้งน้าน รู้สึกดีใจมากๆที่อย่างน้อยคนกลุ่มหนึ่งก็เห็นความสำคัญ ของการมีครอบครัวที่อบอุ่น อุตส่าห์ไปอบรมกัน น่าปลื้มใจแทนคู่ชีวิตคนเหล่านี้มาก ส่วนเรานักศึกษาทั้ง 10 คน ชายสองหญิงแปด เตรียมตัวไปฟังอย่างดี วิทยากรแต่ละท่านเซียนๆกันทั้งนั้น

เริ่มด้วยหัวข้อแรก ครอบครัวอบอุ่น ต้องทำอะไรบ้าง อันนี้ฮามาก อาจารย์พรรณี จากกรมสุขภาพจิต ท่านใช้ประสบการณ์ล้วนๆมาสอน ตลกแต่เต็มไปด้วยสาระมากๆ อาจารย์บอกว่า คนสองคน ที่พร้อมจะแต่งงานกันจงท่องให้ขึ้นใจ จำให้แม่นว่า การใช้ชีวิตคู่มีข้อพึงปฏิบัติ อยู่สี่อย่าง คือ อดสามห้ามหนึ่ง ทีนี้มาดูกันทีละข้อ

อดตัวที่หนึ่ง คือ อดทน ไม่ว่าคู่ชีวิตจะประสบความทุกข์ขนาดไหนให้ใช้ความอดทนในการแก้ปัญหาร่วมกัน

อดตัวที่สองคือ อดออม คู่ชีวิตควรอยู่อย่างพอเพียง ไม่เป็นหนี้เป็นสิน มีสิบใช้แปดเก็บสอง (แต่ละคู่อาจจะแตกต่างกันได้ อาจารย์บอก)

อดตัวที่สามคือ อดกลั้น ในสิ่งที่ไม่ชอบของกันและกัน ก็พยายามอดกลั้นเอาไว้ แล้วต้องหันหน้าคุยกัน ไม่ฉะนั้นสิ่งทีอดกลั้นมันจะระเบิดชีวิตคู่อาจจะพังได้

ทีนี้มาถึงตัวห้ามหนึ่งนี่สิ อาจารย์ถามว่า ข้อห้ามก็คือห้ามอด......? เราก็งงกันใหญ่ มีห้ามอดไรหว่า ไม่มีใครตอบ จนอาจารย์ต้องเฉลย......

ห้ามอดเอา(อาจารย์พูดคำนี้นะคะ) อาจารย์บอกว่าเราโตๆกันแล้ว บรรลุนิติภาวะกันหมดแล้ว พูดได้ เพราะเรามาพูดกันในฐานะนักวิชาการ พูดกันในฐานะที่เรื่องนี้มันเป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์และสัตว์ เราถึงได้รู้ว่าที่จริงเรื่องนี้ก็สำคัญนะ สำหรับบางคู่เรื่องนี้สำคัญที่สุดเลยทีเดียว เพราะเรื่องของ sex ที่ไม่ลงตัวกันของชีวิตคู่ก็อาจเป็นปัจจัยหนึ่ง ที่ทำให้ชีวิตคู่ต้องจบลงได้

ส่วนอาจารย์อีกท่านที่ฮาแต่มีสาระมากเช่นกัน คือ อาจารย์สุขกมล จิตแพทย์ทางด้าน ครอบครัว และเพศ อาจารย์ก็มาสอนเรื่อง ที่เกี่ยวข้องกับปัจจัยของการ make love ที่อาจทำให้คู่ชีวิตอาจเลิกกันได้ เช่น การเป็นโรคที่เกี่ยวข้องทางจิตใจ  ยกตัวอย่างหนึ่งอย่าง ที่ฟังแล้วรู้สึกทึ่ง อาจารย์บอกว่า มีผู้ชายคนหนึ่งอีเมลล์มาปรึกษาอาจารย์ว่า ตัวเอง รักภรรยามาก จนไม่อยากมีเซ็กส์กับภรรยา เพราะตัวเอง มองว่า ภรรยาคือแม่พระ เป็นคนดี เป็นคนมีบุญ ไม่ควรมาแปดเปื้อนด้วยเรื่องนี้ ตัวเอง จึงอยากปรึกษาหมอ ว่าจะทำไงดี แต่อันนี้หมอไม่ได้บอกนะคะ ว่าหมอให้คำปรึกษาไปยังไง อาการแบบนี้เป็นอาการที่ทางเพทย์เรียกว่าmadona-whole-syndrom ทางรักษาคือ คงจะเปลี่ยนทัศนคติ ของผู้ชาย โดยการทำจิตบำบัด นอกจากนี้อาจารย์ก็ยกตัวอย่าง อีกหลาย case ให้ฟัง เราก็เลยรู้สึกว่า แสดงว่าเรื่องนี้มันเป็นเรื่องที่สำคัญมากที่เดียวของการใช้ชีวิตคู่ของคนสองคน มันต้องมีการเตรียมตัวเตรียมใจ และหาความรู้บ้าง เพราะอย่างน้อย ถ้าวันหนึ่ง เรามีครอบครัว ก็จะได้รับมือกับปัญหาได้

ส่วนอีกท่านนึง คือ หมอนิตยา กุมารแพทย์ จาก โรงพยาบาลรามา ซึ่งเป็นอาจารย์ของพวกเราเอง อาจารย์ก็มาสอนเรื่องที่พวกเราเรียนนี่แล่ะ เกี่ยวกับความพร้อมในการตั้งครรภ์ ก็เป็นเรื่องสำคัญที่ทั้งคนที่จะเป็นพ่อแม่ ต้องเตรียมตัว แบบว่าเราก็ได้ความรู้กันถ้วนหน้า เจ้าหน้าที่จากกระทรวงก็ให้ความรู้เป็นอย่างดี ถ้ามีโอกาสก็อยากจะมาอบรมอีก คราวหน้าว่าจะกลับมาอบรมอีก แต่จะมาในฐานะ ผู้เข้ารับการอบรม อิอิ เพราะจะได้เตรียมตัวเป็นครอบครัวที่ดี

ที่จริงเราก็เกิดข้อคิดนะ ว่าทำไม พ่อแม่ปู่ย่าตายาย ไม่เห็นจะต้องมาอบรมเลย แต่เขาก็อยู่กันมาราบรื่นดี แต่พอมาวันนี้จึงได้รู้ว่า สังคมมันเปลี่ยนไป วัฒนธรรมบางอย่างมันเปลี่ยนไป อัตราการหย่าร้องของครอบครัวไทยมีมากขึ้น และแนวโน้ม ของการอยู่เป็นโสดก็มีมากขึ้นด้วย จึงจำเป็นที่จะต้องเตรียมความพร้อม สำหรับคนในยุคนี้ ซึ่งอย่างน้อยก็มี หน่วยงานราชากรอย่างกระทรวง พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์นี่แล่ะหรือที่เราเรียกย่อๆว่า กระทรวงพ่อแม่ที่จัดโครงการแบบนี้ขึ้นมา ก็นับว่าเป็นสิ่งที่ดี หน่วยงานอื่นก็อาจจะมีแต่เราอาจจะไม่ทราบกัน แต่ก็อยาให้มีโครงการแบบนี้ เกิดขึ้นเพื่อเป็นประโยชน์กับสมาชิกของสังคมค่ะ

คำสำคัญ (Tags): #sex#ครอบครัว
หมายเลขบันทึก: 163318เขียนเมื่อ 4 กุมภาพันธ์ 2008 15:35 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 มิถุนายน 2012 08:29 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)
  • สวัสดีครับจ้ะ ปุ๊กลุก  ผมอ่านเสร็จ ได้แต่นั่งอมยิ้ม ^_^
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท