จิตกับควาย


จิตเราก็เหมือนกับควายที่คอยแต่จะกินต้นข้าว เห็นข้าวที่ไหนจิตก็คอยแต่จะวิ่งเข้าไปเสวยอารมณ์ที่นั่น

หลายวันก่อนเกิดความสงสัยขึ้นมาเฉยๆ ว่า "จิต" เนี่ยมันคืออะไร มันเป็นยังไงนะ เวลาไม่ได้ทบทวนการปฏิบัตินานๆ ก็เกิดความสงสัยขึ้นมาเฉยๆ 

โชคดีได้อ่านหนังสือหลวงปู่ชา เรื่อง"กุญแจภาวนา" (พิมพ์ครั้งที่ ๕ พ.ศ. ๒๕๔๔)   เลยรู้สึกเหมือนว่าได้รับคำตอบจากท่านพอดี ^ ^


จิต - อารมณ์ - ผู้รู้

 

เปรียบเหมือนกับเราเลี้ยงควาย

หนึ่งต้นข้าว สองควาย สามเจ้าของ 

ควายจะต้องกินต้นข้าว ต้นข้าวเป็นของที่ควายจะกิน 

จิตของเราก็เหมือนกับควาย 

อารมณ์ก็คือต้นข้าว

ผู้รู้ก็เหมือนเจ้าของ



เท่านั้นแหละค่ะ ดิฉันร้อง..อ๋อ...(ในใจ ^ ^) เพราะหลวงปู่ช่างหาเรื่องเปรียบเทียบให้ลูกศิษย์ลูกหาได้เข้าใจได้ง่ายจริงๆ

จิตเราก็เหมือนกับควายที่คอยแต่จะกินต้นข้าว  เห็นข้าวที่ไหนจิตก็คอยแต่จะวิ่งเข้าไปเสวยอารมณ์ที่นั่น  (เหมือนเรื่อง จิต..กับแมงมุม )  หลวงปู่ท่านว่า ก็ขึ้นอยู่กับเราหรือผู้รู้นั่นแหละค่ะ ที่จะคอยควบคุมควายหรือจิตหรือไม่  จะปล่อยให้กินข้าวไปตามใจ หรือจะคอยดูแลไม่ให้จิตไปเสวยอารมณ์ต่างๆ ตามยถากรรม

หมายเลขบันทึก: 162778เขียนเมื่อ 1 กุมภาพันธ์ 2008 23:48 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 22:34 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (39)

สวัสดีค่ะอาจารย์

พอพุดถึงเรื่องจิต  อยากคุยกับอาจารย์เหมือนกันค่ะ

มานึกถึงตัวเองนะคะ เป็นคนแปลกค่ะอาจารย์......

ถ้าอยู่ในภาวะ ปกติ  จะเป็นคน ค่อนข้างเฉยๆ สามารถมีความต้านทานกับเรื่องที่มากระทบใจได้ค่อนข้างดี เรียกว่า มีสติค่อนข้างใช้ได้ ถ้าไม่เจอเหตุการณ์เลวร้ายมากๆ

แต่ถ้า เมื่อไร มีสิ่งใดมายั่วความสนใจนะคะ จิตกระเพื่อมทันทีเลยค่ะ ประเภท ฟุ้ง ขึ้นมาทันใด เช่น ดูทีวี เห็นเขาสอนทำอาหารญี่ปุ่น และมีอุปกรณ์ ให้ทำด้วย เป็นต้อง โทร ไปซื้อเลย เช่น ทีวีไดเร็ก นั่นละค่ะ

พอได้ของ ต้องรีบทำทันที แต่นานๆเข้า ก็เบื่อ เป็นต้นค่ะ และก็หาเรื่อง ทำต่อไปอีก 

เรียกว่า ตั้งแต่ จำความได้ ไม่เคยเหงาค่ะ มีเรื่องโน้น เรื่องนี้ มายั่วความสนใจอยู่เรื่อย เป็นคนชอบความสนุกสนาน ที่จะทำอะไรใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา

แต่พอ ไปฝึก สมาธิ ก็นั่งได้ค่ะ ไม่กระดุกกระดิกได้ซัก 2-3 ชัวโมงเลย  เรียกว่า ฝึกจนหลวงพ่อ บอกว่า ใช้ได้

เลยรู้สึกตัวเองว่า เป็นคนแปลกๆอยู่เหมือนกันนะคะ

คือ จิตกระเพื่อมได้ ถ้า อยากจะให้กระเพื่อม และสงบได้ ถ้า อยากจะให้สงบ ....แปลกใจตัวเองอยู่เหมือนกันค่ะ

เมื่อจิตเราเป็นควาย เราก็ต้องหาทาง "สนตะพายจมูกควาย" แล้วผูกด้วยเชือก เพื่อให้ "นายสติ" ช่วยบังคับควายตัวนี้มิให้ไปกินข้าวน่ะซี...

อ.ตุ๋ยค่ะ บางครั้งก็ยังเป็นเช่นควายกับต้นข้าว แต่ก็ใช้การฝึก ฝึกให้รู้ทันจิตของตัวเอง

สวัสดีค่ะอาจารย์

 หลวงพ่อเปรียบเทียบได้ชัดนัก จิตกับควาย มันดื้อพอๆกัน ต้องสนสะพายเหมือนพี่บางทรายว่านั่นแหละค่ะ คือมีตัวดึงสติบอยๆ สักวันหวังว่าควายจะเชี่องลงนะคะ

ขอบคุณมากค่ะ

 

   พี่หน่อยแวะมาสวัสดีคะ   อ่านแล้ว ดีคะ  เจ้าของต้องเฝ้าดู สังเกต  แบบ ห้ามหลับ ใช่มั้ยคะ หลับ เผลอ แล้ว หลงทิศ  แหะๆ

   ระลึกถึงคะ

  • จิตมนุษย์ สุดลึกล้ำ คำบรรยาย
  • เปรียบเหมือนควาย เพลิดเพลิน เดินค้นหา
  • เห็นต้นข้าว ชูกอ ก็ตรงมา
  • แล้วกินหญ้า กินอารมณ์ สมดวงมาน

 

  • ควายของผมมีหลายตัวเหลือเกินครับ
  • ต้องฝึกเจ้าของดีๆหน่อยซ๊ะแล้ว
  • อิอิ

สวัสดีครับอาจารย์

เห็นชื่อเรื่องก็รีบคลิกแทบไม่ทัน  จิตกับควาย อิอิ

ตอนแรกนึกว่าอาจารย์จะเปรียบเอง  ที่ไหนได้หลวงปู่ชาแห่งหนองป่าพงนี่เอง  ผมชื่นชอบคำสอนของท่านมากเหมือนกันครับ  ท่านสอนง่ายๆ สั้นๆ ไทยๆ แต่คมและแรง

ถ้าจิตเป็นควายที่คอยจ้องจะกินแต่ต้นข้าว  ก็เป็นหน้าที่เจ้าของที่จะต้องคิดหนักว่าทำอย่างไร  ไม่ให้เจ้าควายตัวนั้นกินต้นข้าวได้

ลำบากเหมือนกันนะครับ  ถ้าหากควายที่เลี้ยงไว้นั้นตัวใหญ่และดุดัน

และจะลำบากกว่าถ้าไปกินต้นข้าวแปลงเพื่อนบ้าน อิอิ 

เอาไงดี  หรือจะขายควายทิ้งไปเลยดีไหมครับ?

ธรรมะสวัสดีครับ 

สวัสดีค่ะคุณพี่ศศินันท์

สำหรับตัวเองแล้วคิดว่า แต่ละคนก็มักจะมีจิตที่อ่อนไหวกับเรื่องบางเรื่อง เป็นเรื่องเฉพาะของแต่ละคน  บางคนถูกกระตุ้นได้ง่ายในบางเรื่อง   เช่น โดนคนขับรถปาดหน้าก็จะโกรธมาก  หรือเห็นหน้าคนที่ไม่ชอบจิตก็จะเสวยอารมณ์โกรธเสียแล้ว หรือบางคนเดินในที่มืดก็จะเกิดความกลัวไปก่อนแล้ว เป็นต้น

อ่านที่คุณพี่เล่าให้ฟังก็เหมือนกับว่าการที่จิตคุณพี่กระเพื่อมนั้นเป็นเพราะเป็นคนปล่อยให้เป็นไปเอง คือจะคุมก็ได้ เพียงแต่ไม่ได้เลือกที่จะคุม เพราะต้องการลองทำอะไรใหม่ๆ  ทำนองนั้น   คิดว่าถ้าเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับคุณพี่หลายๆ รอบ (ซื้อแล้ว ลองทำแล้ว เบื่อแล้ว) คุณพี่ก็คงเห็นวงจรเกิดดับของเหตุการณ์ ต่อไปก็อาจจะเลิกทำเองแหละค่ะ ^ ^ 

อันนี้เคยมีประสบการณ์เองในเรื่องการซื้อของใช้ทั้งหลาย...  เพราะได้เคยมานั่งพิจารณาของที่อยู่ที่บ้านที่ใช้ไม่หมด มีจำนวนมากไป... พอเวลาเห็นของที่ถูกตาถูกใจ...จิตมันเหมือนควายที่ถูกกำกับทันที ไม่ตรงรี่เข้าหาข้าวที่ล่อตาอยู่น่ะค่ะ ^ ^  

สวัสดีค่ะคุณ Conductor

อนุโมทนาค่ะ ^ ^

 

สวัสดีค่ะพี่บางทราย

เห็นด้วยเลยมากๆ ค่ะว่าเราต้องมีสติกำกับเสมอ.. แต่บางครั้งเวลาปฏิบัติก็จะติดกับดักคำศัพท์ เช่น จิตคืออะไร สติคืออะไร หน้าตาเป็นอย่างไร.. งงๆ  พอหลวงปู่ยกตัวอย่างก็ทำให้เกิดความกระจ่าง การปฏิบัติคล่องขึ้น เพราะเห็นภาพควายกำลังจะกินหญ้า... ตอนนี้ภาพควายนั้นก็จะมีการสนตะพายเรียบร้อยแล้วค่ะ ^ ^

 

สวัสดีค่ะ อ.หมู 

ใช่เลยค่ะ  จิตหากขาดการฝึกฝน ก็เป็นธรรมชาติของจิตที่เจออะไรก็จะไปรับมาเป็นอารมณ์เสมอ   ดูหนังดูละคร ดูข่าว ฟังคนโน้น คนนี้ ได้กลิ่นอาหารหอมๆ หรือกลิ่นเหม็นๆ รับรสอร่อย สัมผัสที่ชอบ หรือแม้กระทั่งความคิดถึงสิ่งต่างๆ  เหตุการณ์ต่างๆ (ที่เกิดไปแล้วหรือยังไม่ได้เกิดขึ้นจริง) ก็มักจะทำให้จิตไปจับอารมณ์ต่างๆ ได้เสมอ ..   ตัวเองก็ยังต้องฝึกเรื่อยๆ อยู่อีกมากค่ะ  บางทีก็จิตไปจับแล้วจึงจะรู้สึกตัว บางทีก็ดักเจ้าควายตัวนี้ได้ทันก่อนค่ะ ^ ^

สวัสดีค่ะคุณหมอ ตันติราพันธ์

สำหรับจิตของตัวเองนั้น หลังจากฝึกไป ๒ - ๓ ปี ก็พบว่าเชื่องลงบ้างแล้วค่ะ  บางครั้งก็สติก็จับจิตไม่ทันเหมือนกัน  เกิดอารมณ์ต่างๆ ตามประสา... คล้ายกับว่าควายได้กินข้าวไปแล้ว แต่กินได้หน่อยเดียว เจ้าของก็ไปคว้ามันออกมา  แล้วก็มานั่งพิจารณาต่อว่าเพราะเหตุใด ... จะได้เกิดปัญญาวันหลังจะได้ไม่ปล่อยควายไปตามยถากรรมแบบเดิมอีก ^ ^

 

สวัสดีค่ะพี่หน่อย  ดอกแก้ว

 ใช่เลยค่ะ  ถ้าหลับเป็นขาดสติค่ะ อิอิ  เหมือนกับเผลอไม่เฝ้าเจ้าควายที่น่ารักของเรานี้แหละค่ะ  และก็อาจหลงทิศหากันไม่เจอก็ได้นะ ^ ^

 แต่บางทีก็ต้องเข้าใจเจ้าจิตดวงน้อยของเราเหมือนกันนะคะ และก็ต้องรู้ว่าเราไม่สามารถควบคุมทุกอย่างได้ ของแต่ละอย่างมีธรรมชาิิติของมันเอง..ต้องเรียนรู้ธรรมชาิติของมันก่อน..เพราะบางครั้งการฝืน การบังคับก็ใช้ไม่ได้เลย..  ในบางครั้งจิตเหมือนควายจริงๆ เพราะเราอยากลากไปทางอื่น มันก็จะวกกลับมาที่เรื่องบางเรื่องเสมอ อิอิ  

สวัสดีครับ อาจารย์กมลวัลย์

บุญรักษา คนปฎิบัติธรรม และ ธรรมปฏิบัติ ครับ :)

สวัสดีอีกทีค่ะ

พี่เป็นอย่างที่อาจารย์บอกคือ จริงๆ ควบคุมจิตตัวเองได้ค่อนข้าง น่าพอใจ แต่ บางทีอยากจะแลกกับความสนุกๆ  และอยากจะได้ อยากจะทำอะไรแปลกๆไปมั่งค่ะ

พื้นฐานจิตจริงๆ เป็นคนเฉยๆกลางๆครึ่งหนึ่ง    อีกครึ่งหนึ่ง เป็นคนชอบความตื่นเต้น และความสนุกสนาน เบื่อความจำเจเป็นที่สุด

แล้วแต่ อยู่ในอารมณ์ไหนค่ะ

แต่พออยากสงบ ก็เบรคได้เลย  สามารถนิ่งได้

ถึงคิดว่า คนเรา มีหลายแง่มุม ตัวเรา จะรู้จักตัวเรามากที่สุด

คุยกันสนุกๆนะคะ ชอบคุยกับอาจารย์ค่ะ 

สวัสดีค่ะ อ.พิสูจน์

ลองเขียนกลอนดูบ้างค่ะ 

 

ข้าวชูช่อ กอไหว ล่อควายหลง

ให้เดินตรง เข้าไป เล็มใบหนา

แต่เจ้าของ กักควายไว้ ที่ปลายนา 

ป้อนฟางหญ้า ให้กินแทน แสนสบาย

 

คนเรามักจะเจอสิ่งล่อใจ เหมือนกับควายเห็นข้าว.. แต่ถ้าเรารู้จักเจริญสติ รู้จักกำกับดูแลจิตใจของเรา รู้จักธรรมชาติของจิต ก็จะดูแลรักษาจิตได้ง่ายขึ้นค่ะ ^ ^

 

สวัสดีค่ะคุณ  suksom

 มีหลายตัวหรือคะ ^ ^  ดูแลยากหน่อยนะคะ แต่ถ้าฝึกดีๆ ก็จะดูแลได้สบายๆ และสามารถนำควายหลายๆ ตัวของเรา มาเป็นกำลังในการปฏิบัติได้ยิ่งขึ้นด้วยค่ะ

ขอบคุณที่แวะมา ลปรร นะคะ 

สวัสดีค่ะคุณธรรมาวุธ

ให้เปรียบเองคงยังทำไม่ได้แน่ค่ะ   ความรู้กับการปฏิบัติยังไม่แน่นพอ  ^ ^  เรื่องที่คิดได้ส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องทั่วๆไปที่คนที่ปฏิบัติทั้งหลายสามารถคิดได้นั่นแหละค่ะ  แต่พอได้อ่านข้ิอคิดคำสอนของพ่อแม่ครูบาอาจารย์ทั้งหลายก็จะสามารถไปขยายผลปฏิบัติต่อได้ (นับว่ายังโชคดี อิอิ)

กลับมาพูดถึงจิตกับควาย...ถ้าควายของเราใหญ่และดุดัน  และไม่ฟังใคร... อันนี้ยากค่ะ เพราะไม่ฟังเจ้าของเลย  แต่จริงๆ แล้วคิดว่าน่าจะฝึกจิตได้เสมอค่ะ แต่ประเด็นคือเจ้าของไม่ได้ดูแลควายต่างหาก  คล้ายๆ กับขาดสติ ไม่ได้ monitor ไม่ได้สังเกตจิตไว้  เหมือนปล่อยควายไปเดินตามยถากรรมน่ะค่ะ มันก็ทำตามใจตามธรรมชาิติมันสิ ใช่ไหมคะ เที่ยวไปกินข้าว กินโน่น กินนี่ไปเรื่อยๆ อิ่มถึงจะหยุด ไม่สนใจว่าเป็นข้าวของเจ้าของหรือของเพื่อนบ้านหรอกค่ะ ^ ^

เอ...ถ้าจะขาย..จะมีคนรับซื้อหรือคะ...เดี๋ยวเขาก็จะมีนโยบายควายล้านตัวแล้ว.. อ้าว..ฉีกไปเรื่องนี้ได้ไงเนี่ย อิอิ 

สวัสดีค่ะ อ.วสวัตดีมาร

เป็นความบังเอิญจริงๆ ค่ะอาจารย์  เพราะท่านสอนได้ชัดเจน เป็นจริง ทำให้เราสนใจศึกษาและปฏิบัติตามที่ท่านสอนค่ะ  ตัวเองก็มีเขียนที่ท่านสอนไว้บ้างเหมือนกันค่ะ ดูได้ที่ลิงค์ข้างล่างนี้ค่ะ ^ ^

จิต..กับแมงมุม

ทุกข์...มันเกิดเมื่อไหร่นะ

หนักไหม...

ขอบพระคุณอาจารย์ด้วยครับ ... ธรรมช่างสร้างความเย็นและสงบให้จิตใจจริง ๆ ครับ :)

สวัสดีค่ะคุณพี่ศศินันท์

เป็นเรื่องดีมากๆ เลยนะคะที่สามารถควบคุมจิตได้ดี.. ตัวเองก็ได้อานิสงค์จากการปฏิบัติในช่วงหลายปีนี้ ทำให้ควบคุมจิต เจริญสติได้มากขึ้น  แต่ถ้าคุณพี่เกิดอาการจำเจบ่อยๆ ก็เจริญสติสร้างปัญญาทำความจำเจเบื่อหน่ายให้เป็นนิพพิทาดูนะคะ เหมือนที่เคยคุยกันในเบื่อจัง...น่ะค่ะ

คุยเรื่องนี้แล้วทำให้นึกถึง อ.พิชัย ขึ้นมาทันทีเลยค่ะ ^ ^ คนเราพอผ่านอะไรๆ มาหลายๆ อย่างแล้ว จะเห็นวงจรของสิ่งที่ผ่านมาจนเกิดความเบื่อหน่าย.. คล้ายๆ กับที่เจ้าชายสิทธิทัตถะเห็นชีวิตในวังที่มีแต่กิเลสตัณหา วนเวียนไม่สิ้นสุด เกิดความเบื่อหน่ายและรู้ว่าหนทางแห่งโลก มิใช่หนทางแห่งความสงบ ถึงได้ละทิ้งชีวิตเ้จ้าชายในวังไปแสวงหาหนทางแห่งธรรมแทน

คุยกับคุณพี่ เลยไปถึงอ.พิชัย ..ป่านนี้อาจารย์คงจามแล้วจามอีก ^ ^ 

สวัสดีค่ะ อ.วสวัตดีมาร

ขอบคุณอาจารย์เช่นกันค่ะ 

ธรรมรักษานะคะ ^ ^ 

ลึกซึ้งครับ มองเห็นความเชื่อมโยงที่สำคัญครับ

ของคุรสำหรับการนำเนื้อหาดีๆ ที่ไม่ยาวมาให้ครับ (ผมเองไม่ค่อยชอบอ่านอะไรยาวๆ)

สวัสดีค่ะคุณหมอโรจน์

หลวงปู่ชา ท่านมักเปรียบเทียบเรื่องที่เข้าใจได้ยาก ให้เป็นเรื่องที่เข้าใจง่าย โดยการยกตัวอย่างที่กระชับ ตรง และชัดเจนให้ลูกหลานและลูกศิษย์ลูกหาได้ฟังเสมอ ท่านไม่ค่อยใช้ techincal terms เท่าใดนัก ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีสำหรับนักปฏิบัติที่ไม่ค่อยได้เรียนปริยัติอย่างดิฉันเอง

เรื่องจิต อารมณ์ ผู้รู้ นี้ ดิฉันอ่านแล้ว รู้สึกว่าต้องเอามาลงเผื่อให้หลายๆ ท่านได้อ่านกัน เพราะตัวเองรู้สึกว่าเรื่องจิตนี้เข้าใจยากพอควร  แต่พอเข้าใจแล้วก็ง่ายเลย ^ ^ 

ขอบคุณคุณหมอที่แวะมา ลปรร ค่ะ 

ขออนุญาตอวยพรค่ะ ตามธรรมเนียม โชคดีค่ะ

ขอบพระคุณคุณพี่มากเลยค่ะ

ขอให้คุณพี่ มั่งมีศรีสุข เช่นกันนะคะ ^ ^ 

สวัสดีครับ...

ขอบพระคุณอาจารย์มากๆครับ

ทำให้ผมเข้าใจ อย่างมากเลยครับ..

 

ทุกวันนี้...พยามตามรู้ ตามดูจิตบ่อยๆอยู่ครับ...

       ตามความเข้าใจที่พอจะมีบ้างตอนนี้...ครับ

       เวลาตามดู...

      เหมือนว่าจะมีสองช่วง...หรือสองอย่าง

      คือ...

          1ช่วงที่เรารู้....รู้เนื้อรู้ตัว...รู้ความรู้สึก ...รู้...

          2.ช่วงที่ไม่รู้...คือช่วงที่จิตของเราหลุดไปในอารมณ์ต่างๆ  และไหล เคลิ้ม  ฟุ้ง  แช่..หลุด  ไปกับเรื่องนั้นๆ  อาจจะไม่ใช่เรื่องเดียว   แต่อาจจะหลุดไปหลายๆเรื่อง สิบเรื่อง ร้อยเรื่อง...หรือพันเรื่อง...หรืออาจจะเป็นนาที ชั่วโมง...จึงจะกลับมา...

        บางครั้งก็   หลุดไปจนเกิดการสร้างกรรมต่างๆ..

 

  จริงๆแล้ว กำลังสงสัยนะครับว่าจิตที่อยู่ในช่วงที่รู้ตัว  กับ จิตที่ไม่รู้ตัวนั้นเป็นอย่างเดียวกันหรือเปล่า....

 

   กำลังเพ่งพิจารณา...กับเรื่องจิตดูจิตอยู่นะครับ...

 

 พูดไปพูดมาก็อาจจะสับสนมากขึ้น....

ขอโทษนะครับ....กำลังเรียนรู้...ครับ

 ขอบพระคุณมากๆครับ

    

ได้ข้อคิดธรรมจากคำสอนของหลวงพ่อชา แล้วยังได้อ่านประสบการณ์ต่างๆของผู้ปฏิบัติธรรมฝึกฝนขัดเกลาจิตที่มาเขียนไว้ เป็นความรู้มากเลยค่ะ

ขอบคุณค่ะ

สวัสดีค่ะน้องหมอ kmsabai

 ต้องขอบคุณหลวงปู่ชาค่ะ เพราะพี่เพียงแต่เป็นผู้เล่าเรื่องที่ท่านสอนเท่านั้น ^ ^

สำหรับประสบการณ์ตามดูของพี่นั้น จะว่าไปก็คล้ายๆ กับของน้องหมอนะคะ  คือ

ช่วงที่รู้ตัวเต็มที่ เจริญสติมั่น.. ซึ่งช่วงเวลาจะไม่นานนัก เหมือนกับ รู้ตัว สลับกับการปล่อยจิตไปอยู่กับงาน หรือการกระทำต่างๆ เช่นอ่านหนังสือ ดูทีวี ฯลฯ   ซึ่งการปล่อยจิตไปอยู่กับงานหรือการกระทำนานๆ บางครั้งอาจปล่อยจนเลยไปมีอารมณ์ร่วมกับสถานการณ์ไปได้  เช่น ดูทีวี ดูหนังแล้วเกิดอารมณ์ร่วมกับสถานการณ์  กำลังหิวๆ เห็นเขากำลังปรุงอาหารในทีวีน่ากิน ก็เลยเกิดความอยากกินมากขึ้น ^ ^   หรือบางทีเห็นเหตุการณ์ที่ไม่ชอบ พาลให้อารมณ์ขุ่นมัวไปบ้าง (นัยว่าควายเริ่มกินข้าวไปหน่อยนึง ^ ^)   แต่พอมาถึงจุดนี้ก็มักจะถอนออกมาจากอารมณ์นั้นได้...  ก็วนเวียนอย่างนี้เรื่อยไป

แต่พี่ยอมรับว่าเรื่อง"จิตดูจิต"นี้เป็นเรื่องยากจริงๆ ตอนนี้ก็เลยเอาแต่ตามดูจิตไปเรื่อยๆ ก่อนค่ะ ^ ^

สวัสดีค่ะพี่นุช

ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมเยียนนะคะ เรียนรู้ไปด้วยกันค่ะ ^ ^ 

ได้ข้อคิด ขอบคุณที่บันทึกให้อ่านค่ะ

สวัสดีค่ะคุณเกศนี

ยินดีต้อนรับนะคะ

ขอบคุณที่มาเยี่ยมเยียน และ ลปรร ค่ะ 

Sasinanda

ปกติเป็นคนจิตค่อนข้างนิ่ง แต่2-3วันนี้ ขอจิตกระเพื่อมด้วยความสนุกสนานหน่อยค่ะ เดี๋ยวจะกลับมาเหมือนเดิม

จิตกระเพื่อมด้วยเรื่องดีงาม และความสุขที่เกิดขึ้น ไม่เสียหายหรอกค่ะ

เพราะเราจิตกระเพื่อมอย่างรู้ตัวอยู่แล้ว ^ ^ 

มีความรักและความสุขอย่างตั้งใจค่ะ  อิอิ 

สวัสดีค่ะอาจารย์กมลวัลย์

แวะเข้ามาเพื่อขอคำชี้แนะค่ะ น่าสนใจมากค่ะ พอดีเห็นหัวข้อแล้วต้องเข้ามาค่ะ คือต้องอ่านตั้งหลายรอบกว่าจะเข้าใจ สงสัยคิดช้าไปหน่อย เคยได้มีโอกาสตอนกลับบ้าน ไปปฏิบัติธรรม นั่งวิปัสนากรรมฐาน ของคุณแม่สิริค่ะ รู้สึกดีมากเลยค่ะ ฝึกให้เราอยู่กับปัจจุบัน มีสติ สารภาพว่าไม่ค่อยได้ฝึกต่ออย่างจริงจัง  พอได้เข้ามาอ่านเรื่องนี้ทำให้ได้ คิดตาม...เหมือนเตือนสติ... ขอบคุณอาจารย์ที่เขียนเตือนและแบ่งปันค่ะ....

ส่งบุญใส ๆ มาให้นะคะ เมื่อเช้าที่เรือนธรรมกำแพงแสนมีพิธีทำบุญใส่บาตรค่ะ  แล้วเย็นนี้..ที่สระน้ำหน้ามหาวิทยาลัย เหล่าลูกนนทรีจะร่วมกันทำบุญให้ชีวิตสัตว์เป็นทานด้วยการปล่อยปลาค่ะ คาดว่าประมาณ 100กว่ากิโลค่ะ ขอให้น้องตุ๋ยมีส่วนแห่งบุญด้วยนะคะ ...ขอให้สุขภาพแข็งแรง ๆ ค่ะ

พี่ตุ้มขออนุโมทนาบุญกับน้องตุ๋ยในการเขียนเรื่องราวเพื่อเป็น "ธรรมทาน" ด้วยค่ะ ....การให้ธรรม ชนะการให้ทั้งปวง....สาธุ สาธุ สาธุ

สวัสดีค่ะพี่อุ๊ a l i n l u x a n a =)

ต้องขออภัยที่ตอบช้าไปหน่อยค่ะ  น้องซูซาน text มาบอกเลยรู้ว่าตัวเองเป็นรุ่นน้องที่ ม.พ. น่าจะ 2-3 ปีค่ะ  ตอนแรกนึกว่าพี่อุ๊เป็นรุ่นเดียวกับซูซานค่ะ ^ ^

สำหรับเรื่องจิตกับควายนี้ ส่วนที่อยู่ในกรอบคัดลอกมาจากหนังสือคำสอนของหลวงปู่ชาค่ะ  อ่านแล้วรู้สึกว่าไขข้อข้องใจของตัวเองได้ ก็เลยนำมาเล่าสู่กันฟัง  ประมาณว่าเราต้องดูใจจิตใจของเรา ต้องมีสติ เหมือนกับเจ้าของควายนั้นรู้ว่าควายไปไหน กำลังทำอะไรอยู่น่ะค่ะ

พี่อุ๊อยู่ตั้งไกลแต่เคยปฏิบัิติที่สำนักคุณแม่สิริ ถือว่าเป็นโอกาสดีนะคะ เพราะตัวเองอยู่เมืองไทยแท้ๆ แต่ยังไม่เคยไปปฏิบัติที่สำนักใดเลยค่ะ เลยใช้วิธีปฎิบัติในชีวิตประจำวัน คอยตามดูน้องควายไปทั้งวัน (ถ้ามีสติ) บางทีน้องควายก็หายค่ะ 5555

ขอบคุณที่แวะมา ลปรร นะคะ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ 

 

สวัสดีค่ะพี่ตุ้ม ดร. ทิพวัลย์ สีจันทร์

สาธุค่ะพี่ตุ้ม สิ่งที่พี่ตุ้มเขียนและทำอย่างที่เห็นในบันทึก ก็เป็นธรรมทานเช่นกันนะคะ อ่านแล้วได้เรียนรู้เยอะเลยค่ะ

ขอบพระคุณมากๆ ค่ะที่คิดถึง และสำหรับส่วนบุญนะคะ ^ ^ ดีจังที่ได้มีโอกาสปล่อยปลาและใส่บาตรนะคะ

ขอบคุณที่แวะมาทักทาย และ ลปรร นะคะ ^ ^ 

จิตสงบ ก็ทำให้ใจ และกาย สามารถเดินไปอย่างมีความสุขhttp://gotoknow.org/blog/56485/161199

สวัสดีค่ะคุณศักดิ์ณรงค์

ขอบคุณที่มาเยี่ยมเยี่ยนนะคะ ยินดีต้อนรับและยินดีที่ได้รู้จักค่ะ

เมื่อครู่แวะไปเยี่ยมที่บันทึกมาแล้วค่ะ ^ ^

จิตกับควาย.....

เหมือน "จิตเป็นลิง"ผูกเชือกไหมครับ

ธรรมชาติของลิงมีนิสัยซุกซนไม่ชอบอยู่นิ่งๆ

มักกระโดดโลดเต็นวิ่งหนี

พอเรามีสติก็ดึงเชือกให้ลิงกลับมานั่งที่เดิมแล้วเราก็เฝ้าไว้

อย่าเผลอ

แต่ไม่นานก็เผลอจนได้ ลิงไปวิ่งเล่นอีก

เจ้าของก็รีบดึงเชือกให้ลิง(จิต)กลับมาอยู่ในสายตาของเราอีก

เราล่ามลิงด้วยเชือก(สติ)

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท