"ศีล" ชีวิต อนิจจัง
สายลมเอื่อย ๆ กับอากาศอันบริสุทธิ์ ช่างเป็นสิ่งที่ฉุดและดึงใจฉันให้พลิกผันและเดินตามไปในกระแสแห่งกิเลส
เปรียบดั่งยอดไม้ที่ต้องกับสายลมช่างมันช่วงเวลาที่ขื่นขมหากไม่ชิงวินาทีนี้เป็นการ “ภาวนา”
จิตที่จะต้องกระแสลมแล้วพลันกลับต้องหวั่นไหวไปตามอำนาจของใจที่เรียกร้องหาความสุขที่อยู่เบื้องหน้าอันฉาบทาด้วยหน้ากากที่แสนหวานหอม
กลิ่นหอมละมุนช่างยั่วเย้ารันจวนใจเสียนี่กะไร
ความสุข ความปรารถนาในทางโลก ช่างมีแรงฉุด รั้ง ดึง ดัน อย่างมหาศาล ให้คนซึ่งยังไม่เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์หลงใหล ใฝ่ฝัน เดินตามแรงปรารถนาแห่งกิเลสนั้นพร้อมที่จะพลันนำพาตามอานุภาพของกามกิเลส
กาม กิน เกียรติ เป็นสิ่งที่น่าหลงใหลและใฝ่ฝัน ในชีวิตทุกผู้ทุกคนที่ยังไม่มีอันที่จะปลดเปลื้องพันธนาการกรรมในวัฏสงสารแห่งนี้ได้
กลิ่นหอมภายนอกที่ถูกฉาบทาเป็นกลิ่นที่ยั่วยวนรันจวนใจทำไมสัตว์โลกทั้งหลายนั้นหลงใหลเพลิดเพลินเดินตามอารมณ์
แต่กลิ่นใดจะหอมแท้และหอมนานเท่ากลิ่น “ศีล”
กลิ่นศีลเป็น ที่ ซึ่ง อัน จะนำความสะอาด ประเสริฐ และบริสุทธิ์เข้าสู่กายและดวงใจ
จิตเดิมแท้อันประภัสสรโหยหาอย่างรัญจวนหาความหอมแท้แห่งศีลนั้นรอนแรมนับชาติต่อชาติ
กลิ่นศีล กลิ่นธรรมชาตินำพาดวงจิตลดภพลดชาติลดวิบากแห่งเวรภัย
กลิ่นศีล อันหอมหวนรันจวนใจเกิดขึ้นได้เพียงมีจิตคิด “ภาวนา”
ภาวนาเพื่อต่อสู้กับกิเลสให้แดดิ้น
ให้กิเลสลงล้มนอนเกลื้องกลิ้งและดิ้นพล่านทรมาน โดยเราหยุดตามใจ
ใช้ศีลเป็นเครื่องป้องนำทางชีวิต จิต กาย ใจ ให้พ้นภัย
ตั้งศีลไว้เป็นแนวทางแห่งการ “ภาวนา”
สรรพสิ่งในโลกล้วนแล้วแต่เป็นอนิจจัง
มีความเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไปเป็นธรรมดา
ความอยาก สิ่งยั่วเย้าของกิเลสก็เป็นเฉกเช่นนั้น
มีความเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไปเป็นธรรมดา
มีศีลเป็นตัวคิดเพื่อแนบจิตชิดสนิทตามดูและรู้ทัน
ชีวิตจะภาวนาเพื่อปลดเปลื้องอย่างรู้ทัน
ตัดกรรมนั่นลดทุกข์ ปลดสุข อันจอมปลอม
อันชีวิตที่เดินทวนกระแสกิเลสก็เป็นเฉกเช่นนี้
หลากครั้งหลายที มีบททดสอบ การบ้านมาให้ต้องขบคิด
หากเพียงเรามีศีลตั้งมั่นอยู่ใจจิต
จะนำพาชีวิตพลิกผันผ่าน
กลับกลายเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นโดยตามกาล
ที่มนุษย์ทุกผู้ต้องพบพานเป็นธรรมดา...
