นอนกรน..สิ่งที่ไม่อยากพบพาน


ไม่อยากบอกว่า การนอนกรน..เป็นสิ่งที่สุภาพสตรีอย่างเรา...ปฏิเสธไม่ได้

เคยไหมค่ะ ที่ไม่สามารถหลับตาลง หรือข่มตาหลับได้ เมื่อมีโรงสีไฟทำงานอย่างเอาเป็นเอาตายอยู่ข้างหู

เมื่อตอน "ป้า" เป็นวัยรุ่น เอวบางร่างน้อย เมื่อนอนรวมกับพี่ชาย  จะรู้สึกหงุดหงิดอย่างมาก เมื่อในยินเสียงรบกวนตอนดึกๆ  เป็นจังหวะบ้างไม่เป็นจังหวะบ้าง..จากเสียงที่เจ้าของไม่ปรารถนาให้ผู้อิ่นได้ยิน (ตกลงมันเสียงอะไรหว่า) จนบ้างครั้งต้องลุกขึ้นมาชะโงกหน้าดู...เคยไปแค้มป์ปิ้ง ดึกๆ ตื่นมาห้องน้ำ รู้หรือเปล่าคะบางเต๊นท์เสียงกรนทะลุผ้าเต๊นท์ป่าแทบแตก...สัตว์ป่าระส่ำระสายหมด...

แต่ตอนนี้ กรรมตามสนอง..

เรื่องกรนนี้ แม้ว่าจะมีอยู่คู่มนุษยชาติมาช้านาน แต่ไม่ว่าผู้หญิงผู้ชาย คงไม่มีใครอยากจะนอนกรน นอกจากมีผลต่อบุคลิกภาพแล้วยังเป็นการรบกวนเพื่อร่วมห้อง เพื่อนข้างห้อง (เช่นกรณีป่าแตก)  มันเป็นเรื่องของสุขภพ เกิดได้จากปัจจัยหลายๆ อย่าง  เช่น ความอ้วน และอายุที่เพิ่มมากขึ้น

ตอนนี้จากน้ำหนักเกือบจะเป็นเกณฑ์มาตรฐานที่ 56  กก. ตอนนี้เป็น 78-80 แล้ว

"ป้า" จึงได้พบพาน"การกรน"ของตัวเอง

ต้องขออภัยเพื่อนห้องที่ต้องนอนร่วมกันในการจัดประชุมสัมมนาทุกคน หรือบางครั้งต้องขออภัยอย่างยิ่งสำหรับผู้โดยสารรถทัวร์ ที่อิฉันเผลอหลับ...และกรนได้ไม่รู้สึกตัว เพราะรู้ว่าการกรนเป็นมลพิษทางเสียงและหากฟังติดต่อกันนานๆ จะมีพิษต่อร่างกาย

ข้อแนะนำ...(สำหรับผู้อื่น) ทุกครั้งที่ต้องร่วมเรียง(เคียงหมอน)กับคนแปลกหน้า  "ป้าจึงมักออกตัวเสมอว่า พี่นอนกรนนะคะ หากเป็นไปได้ หวังว่าน้องคงเป็นคนนอนหลับได้เร็วนะคะ" ถ้าไปราชการหากมีสิทธิเบิกห้องเดี่ยวได้ ไม่ใช้ไม่ช่วยหลวงประหยัด หรือรักสบายหรอกนะคะ...อิฉันอยากให้เพื่อนร่วมห้องสบายหูและสบายใจมากกว่า ดิฉันก็อยากจะขอนอนคนเดียว...ทั้งนี้ก็ด้วยสาเหตุนี้แหละค้า...ฮือๆ ไม่อยากให้สังคมรังเกียจเลย...และอยากให้ผู้ที่อยู่ร่วมกับภาวะการกรน พยายามฟังให้เป็นเสียงดนตรีก็แล้วกันนะคะ ซึ่งบางทีก็เรียกเสียงหัวเราะได้เหมือนกัน..ชิลด์ๆ ค่ะ..โลกละไมใจก็มีสุข...ครอกกกกๆ โครกกกๆ..และท้ายสุด "ป้า" ก็พยายามออกกำลังกายบ้าง เผื่ออะไรอะไรจะดีขึ้น

 

 

คำสำคัญ (Tags): #นอนกรน#อ้วน
หมายเลขบันทึก: 162467เขียนเมื่อ 31 มกราคม 2008 12:03 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 มิถุนายน 2012 20:12 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)
  • ผมนอนกรน
  • แถมชอบละเมอโวยวายอีกต่างหาก
  • เฮ้อ เวรกำ
หนูไม่กรน แต่ชอบนอนละเมอ บางครั้งก็หัวเราะจนตื่นหรือไม่ก็ร้องไห้จนน้ำตาเปียกหมอน แม่บอกว่าบางทีคุยซะเป็นเรื่องเป็นราว เคยมาแอบฟัง สงสัยจะรอเราละเมอเลขเด็ด อิ อิ

ปกติไม่ค่อยยอมนอนห้องเดียวกับใครเพราะเป็นคนนอนยาก กลัวคนอื่นทำให้เรานอนไม่หลับ และก็กลัวเราทำให้คนที่หลับไปแล้วตื่นขึ้นมา เพราะฉะนั้น นอนเดี่ยวเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดค่ะ

สวัสดีครับ

กระผมก็เป็นสมาชิกชมรมคนนอนกรนครับ

ก่อนหน้านี้กระผมก็สร้างความรำคาญให้กับผู้ซึ่งต้องพักห้องเดียวหรือพักเต้นท์ใกล้ๆกับกระผม จากการที่กระผมรู้สึกว่าเป็นผู้ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนจึงคิดว่าต้องหาวิธีรักษา แรกๆก็มองหาสาเหตุ เอ้ตัวเองก็ไม่ได้เป็นคนอ้วนแต่ทำไมถึงนอนกรน ศึกษาตำราก็แล้ว ทดลองนอนตะแคงก็ยังกรน จนกระทั่งไปหาหมอเพื่อรักษา จึงได้ทราบว่าเป็นเพราะตัวเองลิ้นไก่ยาวกว่าปกติครับ ทำให้ลิ้นไก่ไปอุดทางเดินหายใจจึงเกิดเสียงกรน  วิธีการรักษาก็มีหลายวิธีครับหนึ่งในนั้นคือการผ่าตัดซึ่งกระผมกลัวมาก ผลหลังการผ่าตัดก็ยังไม่สามารถยืนยันร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าจะไม่กรนอีก หลังจากนั้นกระผมก็หนีหมอเลยครับ(ไม่ไปหาหมอนานเลยครับ) จนกระทั่งทราบว่ามีการตรวจสภาพการนอนหลับเพื่อการรักษา ที่โรงพยาบาลรามากระผมก็ไปตรวจ จึงได้ทราบว่านอกจากปัญหานอนกรนแล้วยังมีภาวะการหยุดหายใจชั่วขณะด้วยครับ ซึ่งอันหลังนี้มีผลกระทบต่อสุขภาพอย่างมากครับ จึงคิดว่าต้องรักษา ตอนนั้นทราบว่ามีเครื่องอะไรสักอย่างที่เราจะต้องใส่ตอนนอน กระผมก็ลองถามคนที่เคยใช้ ปรากฏว่าคนที่เคยใช้เล่าให้ฟังว่ารู้สึกทรมานมาก มันไม่เป็นปกติ(ธรรมชาติ) กระผมก็หนีอีกรอบครับ ต่อมาถูกจับรักษาใกล้บ้านครับคือที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา(มอ.) คราวนี้ตรวจสภาพการนอนแล้วพบว่าหยุดหายใจขณะนอนหลับมากกว่าครั้งที่เคยตรวจที่รามา คือหยุดประมาณเกือบ 20 ครั้ง คุณหมอจึงนัดให้ผมมายืมเครื่องที่ผมเคยกลัวของโรงพยาบาล(ชื่อซีแพบหรือซีแพคนี่หละครับ) มาทดลองใช้ดูก่อน ตอนแรกก็รู้สึกแปลกๆและอึดอัด เพราะต้องสวมที่ครอบจมูกแล้วมีลมเป่าเข้ามาตลอดเวลา บางครั้งก็ถอดออกโดยอัตโนมัติเพราะความอึดอัด ลองเปลี่ยนที่ครอบจมูกหลายแบบจนคิดว่าได้แบบที่ถูกใจแล้วครับ เพราะใส่แล้วพอดีกับจมูกและใบหน้า ต่อมาคุณหมอก็ดูข้อมูลจากเครื่องว่าผลการใช้เครื่องเป็นอย่างไรเพื่อการตั้งค่าแรงดันลมที่เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละราย  แล้วจึงให้เราซื้อเครื่องส่วนตัวโดยคนที่ใช้สิทธิราชการสามารถเบิกค่าเครื่องได้ 20,000 บาท ซึ่งเท่ากับราคาเครื่อรุ่นที่ถูกที่สุด    ส่วนที่ครอบจมูกถูกที่สุดราคา 5,500 บาทครับ  ตอนนี้กระผมซื้อเครื่องมาแล้วครับส่วนที่ครอบจมูกรุ่นที่ผมต้องการหมดพอดีครับจึงต้องอาศัยยืมของโรงพยาบาลมาใช้อีกรอบครับ สัปดาห์นี้ก็จะเอาไปคืนแล้วครับ ตอนนี้กระผมนอนแบบไม่มีเสียงกรนรบกวนคนข้างๆแล้วครับ(ถ้าใช้เครื่องcpap) ขอขอบพระคุณทุกท่านที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการรักษาการนอนกรนและภาวะหยุดหายใจ โดยเฉพาะรัฐบาลที่สนับสนุนค่าเครื่องสูงถึง 20,000 บาท มา ณ ที่นี้ด้วยครับ

ตอนนี้กระผมใช้จนเกิดความคุ้นเคยแล้วครับ ใช้จนรู้ว่าถ้าเกิดอะไรเป็นเพราะอะไรครับ อนาคตคิดว่าจะทดลองแกะเครื่องดูภายในครับ ว่ามีระบบผลิตอากาศแบบเดียวกับเครื่องปั๊มลมทั่วๆไปหรือเปล่า และอนาคตคิดว่าราคาอาจจะถูกลง เพราะเทคโนโลยีนาโนคงจะย่ออุปกรณ์ต่างๆให้ต้นทุนต่ำแต่ประสิทธิภาพสูงขึ้นนะครับ

ลองสอบถามโรงพยาบาลขอนแก่นดูนะครับ เผื่อว่าจะได้มีสมาชิกชาวCPAP เพิ่มอีกหนึ่งหรือหลายๆท่าน

ดีค่ะคุณ suksom, น้อง Little Jazz, คุณว่าที่ ร.ต. วุฒิชัย สังข์พงษ์
  • เรื่องละเมอหน่ะ...ถือเป็นเรื่องหนุกหนาน..ออก
  • ...ทุกอย่างเป็นเรื่องธรรมชาติ...เนอะ
  • และขอบคุณสำหรับวิธีการรักษาที่ว่าที่ ร.ต. วุฒิชัย สังข์พงษ์ นำมาฝากนะคะ

สวัสดีค่ะคุณพรพิมล

ขอบคุณสำหรับการเข้ามาให้ข้อมูลเพิ่มเติม เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้นอนกรนค่ะ

เรื่องลมที่รั่วออกมา หากยังแก้ไขไม่ได้ อาจจะใช้วิธีการ post ไว้ในกระทู้ของ www.cpap.com เผื่อจะมีข้อแนะนำ และหากมีเวลา รบกวนคุณพรพิมลช่วยบอกต่อด้วยนะคะ

ขอบคุณคำแนะนำจากคุณ Art ค่ะ

ตอนนี้ตัวเองก็กินยาจีน (แก้สรรพโรค)ปรากฏตัวบวมๆ ยุบลง และไม่ค่อยกรนค่ะ...

มาเก็บความรู้ค่ะ ส่วนตัวเองก็นอนกรนและละเมอบ่อยๆค่ะ บางทีนอนๆอยู่ลุกขึ้นมาพูดไม่รู้เรื่องก็มี ออกบ่อยด้วยค่ะ

น้องเก๋น้อย...

วันหลังละเมอบอกหวย 2 ตัวมั่งดิ...

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท