ก่อน จะมาเรียนปริญญาโท ที่สถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัวมหาวิทยาลัยมหิดล เคยมีประสบการณ์ทำงานที่มูลนิธิแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นสถานที่สำหรับช่วยเหลือเด็กที่ถูกทารุณกรรม มาก่อน เมื่อมาเรียนก็ลาออก มาเรียนอย่างเต็มที่มีโอกาสกลับไปเยี่ยมเด็กๆบ้างเป็นบางครั้ง แต่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เพื่อนๆที่ทำงานก็โทรมาให้ ไปอยู่เวรตอนกลางคืนแทนเจ้าหน้าที่ที่ลางาน ก็เลยไป เพราะคิดถึงเด็กๆและเพื่อนๆ เมื่อไปถึงก็ต้องแปลกใจ เมื่อเจอเด็กหญิงคนหนึ่งซึ่งเคยได้รับการช่วยเหลือจากเราและได้รับการบำบัดฟื้นฟูเรียบร้อยกลับไปอยู่บ้านแล้ว ก็แปลกใจนี่นา บำบัดไปแล้ว กลับไปอยู่บ้านแล้ว แล้วทำไมมานั่งอยู่ที่นี่น๊า แต่ก็ไม่ได้ถามเด็กโดยตรงหรอก เพราะมันเป็นการทำร้ายจิตใจเด็ก ก็เลยคุยกับเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ก็ได้รับคำตอบที่เราสลดหดหู่มาก "เด็กถูกกระทำซ้ำมา จากคนคนเดิมซิ่งเป็นคนใกล้ชิดในบ้าน" คำตอบที่ได้ มันเศร้าใจมาก หลายคนอาจจะสงสัยว่า ทำไมคนเดิม กระทำซ้ำได้ไม่โดนจับเข้าคุกเหรอ การกระทำของเจ้าชั่วคนนั้น ครั้งแรก เราไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะเอาผิดได้ และที่สำคัญคือเด็กผู้ถูกกระทำ ไม่เปิดเผยความจริงแก่เรา จะด้วยเหตุผลอะไรแก็แล้วแต่ มาครั้งนี้เจ้าหน้าที่สังคมสงเคราะห์ที่ได้ไปช่วยเหลือเด็กมาบอกว่า เมื่อเด็กเปิดเผยก็คงไม่ยาก ที่จะเอาผิดได้ เราก็ภาวนาให้เด็กเปิดเผยด้วยเถิด คนเหล่านี้จะได้หายๆไปจากประเทศไทยบ้าง เพราะเด็กคงจะรู้สึกแย่ รู้สึกตัวเองด้อยค่ามากจริงๆ เพราะที่ร้ายไปกว่านั้น คนใกล้ชิดของเธออีกสองคนภายในบ้านและมีบทบาทที่สำคัญต่อเธอ และเป็นเพศเดียวกับเธอด้วยซ้ำ ไม่เชื่อในคำพูดของเธอ ไม่ว่าเธอจะพูดอย่างไร เขาเหล่านั้นก็หาว่าเธอโกหก เมื่อมีคนมาช่วยเธอ ซึ่งเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ (เธอขอความช่วยเหลือด้วยการส่งข้อความมาบอกเจ้าหน้าที่ที่เคยช่วยเหลือเธอ) คนใกล้ชิดสองคนของเธอ กลับโกรธเธอ หาว่าเธอเป็นตัวปัญหาภายในบ้าน สร้างปัญหาไม่รู้จักจบสิ้น แล้วบอกกับเธอก่อนที่เจ้าหน้าที่จะนำตัวมาว่า ไปแล้วไม่ต้องกลับมาอีกนะ หัวใจเธอคงสลายที่ได้ยินคำนั้น และเธอคงคิดว่าตัวเองทำผิดมากที่ขอความช่วยเหลือจากเรา เธอคงสับสนหลายสิ่งหลายอย่าง โลกน้อยๆของเธอคงพังทลายไปเมื่อได้ยินคำนั้น แทบไม่ต้องคิดต่อเลยว่า ถ้าเธอได้กลับมาอยู่ที่ที่เธอเรียกว่าบ้านอีกครั้งชีวิตเธอจะเป็นอย่างไร เมื่อมาอยู่กับเราเธอก็ทำตัวลำบาก เพราะเธอตัวโตและอายุเยอะกว่าเด็กคนอื่นๆ มาถึงตอนนี้ เราคิดว่า เธอคงจะรู้สึกเสียใจกับคำพูดของคนที่เธอรัก มากกว่าการกระทำของคนที่ย่ำยีเธอ ชีวิตเธอคงไม่เหลือใครที่รักเธอจริงๆ แต่เราก็ยังดีใจนะ ที่อย่างน้อย เราก็ได้ช่วยเหลือเธอไว้ ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้หัวใจที่ตกหล่นอยู่กลางทางของเธอมาด้วย แต่เรา(เจ้าหน้าที่และอาสาสมัคร)ก็จะพยายามตามไปเก็บหัวใจดวงนั้นมาให้ได้ แม้ว่ามันจะนานแค่ไหนก็ตาม เธอตกเป็นเหยื่อซ้ำแล้วซ้ำเล่า จากคนๆเดิม สังคมของเราเป็นอะไรไปแล้ว ที่น่าเศร้าใจคือ เธอเป็นเหยื่อของคนที่เธอรัก เป็นเหยื่อของคนที่เธอเคารพบูชา แล้วเราในฐานะที่เป็นคนในสังคมคนหนึ่งจะช่วยอะไรเธอได้มากไปกว่า ช่วยภาวนาให้เธอดำรงชีวิตอยู่ต่อไปได้ และช่วยกันดูแลสอดส่องสังคมของเราเท่าที่เราจะทำได้
สวัสดีค่ะ คุณปุ๊กลุก
สังคมที่เปลี่ยนไป หรือจิตใจของคนที่เลวร้ายลงกันแน่นะ ที่ทำให้เกิดเหตุการณ์อย่างนี้ซ้ำแล้ว..... ซ้ำเล่า..... เรื่องจริงที่ไม่ได้แต่ต่างจากละคร เพียแต่ละครเรารู้ว่าเป็นเหตุการณ์สมมติ แต่เรื่องนี้คือเรื่องที่เลวร้ายเหลือเกิน.... ชีวิตน้อยๆอีกกี่ชีวิตนะที่เกิดมาแล้วเจอกับเหตุการณ์เลวร้ายแบบนี้ มีอีกกี่ชีวิตนะที่ยังต้องกัดฟันยอมให้เค้าทำร้าย อยู่ทุกวันทุกวัน เพราะว่าเค้าคือคนที่เรียกตัวเองว่า " ผู้มีบุญคุณ" การตอบแทนมันมีมากมายหลายวิธีมากกว่านี้มิใช่เหรอ ทำไมต้องเป็นวิธีนี้ด้วย.......
ยังมีนะ ยังมีคนที่ยินดี และพร้อมที่จะช่วยเหลือคนที่สิ้นหวังเหล่านี้ ขอเพียงใครก็ตามที่เห็นพฤติกรมที่ทำร้ายชีวิตน้อยเหล่านี้ไม่นิ่งดูดายและเข้าไปช่วยเหลือ หรือแค่เพียงช่วยกันแจ้งเบาะแส ชีวิตของเด็กเหล่านี้คงจะดีขึ้น
ทำยังไงนะคนที่ไม่ดีพวกนี้จะสำนึกได้ ทำอย่างไงน้าคนแบบนี้จะหมดไปสักที หรือมีเพียงแค่กฎหมายเท่านั้นที่จะแก้ปัญหานี้ได้ ทำอย่างไงน้า......ทำยังไง......