พระเอกชือดังชาวออสซี่ ตาย ปัญหาเสพยาเกินขนาด


ในช่วงสัปดาห์ มีข่าวหนึ่งที่อยู่ในความสนใจของคนทั่วโลก ก็คือ ข่าวการตายของ พระเอก ฮิธ เลดเจอร์  พระเอกชือดังในภาพยนตร์  Broke back mountain
  

แหล่งข่าวระบุว่า พระเอกชือดังเสียชีวิต ที่ห้องพักในนิวยอร์ค โดยสันนิษฐานว่า ใช้ยาเกินขนาด    วันนี้เลยอยากแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหายาเสพติด

ยาเสพติดเป็นปัญหาระดับโลกเลย  และก็มีการแก้ปํญหาหลายรูปแบบ แต่ก็ดูเหมือนปัญหาก็ยังคงอยู่

  • ยิ่งแก้คนยิ่งตายมากขั้น
  • ยิ่งแก้ ยายิ่งแพง
  • ยายิ่งแพง คนยิ่งเข้ามาทำธุรกิจยาเสพติดมาก
  • ยิ่งแก้  ยิ่งมียารูปแบบไหม่มากขึ้น
  • ยิ่งแก้  มีสายการดำเนินธุรกิจแปลกๆ มากขึ้น

ตอนนี้มีแนวคิดใหม่ในการรับมือกับปัญหายาเสพติดคือ  Harm mininization  โดยแนวคิดนี้มองว่า   การใช้ยาเสพติดเป็นเรืองส่วนบุคคล  ไม่แก้ ไม่ปราบปราม อยากใช้ อยากฉีด เชิญตามสบาย   ดังนั้นในหลายประเทศได้เปิดใช้ยาตามอิสระ  เพียงแต่ให้ชื่อยาจากร้านขายยา หรือตัวแทนจำหน่าย (ที่ลงทะเบียน เสียภาษี)  จากนั้นก็ขอให้ใช้อย่า่งถูกวิธี ระมัดระวัง  

  • ระวังเรืองการใช้ยาเกินขนาด
  • ระวังเรืองการติดเชื่อจากการเสพ
  • ระวังปัญหาสุขภาพที่จะตามมา
  • ระวังการเมามายอาละวาด คนอื่น
  • ระวังอย่าให้มีผลกระทบต่อ ฐานะการเิงินและการทำงาน 

ถ้าสามารถรับผิดชอบเรืองที่กล่าวได้  อยากเสพ อยากกิน อยากทำไร เชิญตามสบาย จะไม่มีคนมาคอยห้ามให้เสียอารมณ์  ด้วยกันทั้งสองฝ่าย (ฝ่ายเสพ กับฝ่ายปราบปราม) 

เมือสองปีก่อน ที่แคนาดา และที่ออสเตรเลีย ก็ถกเถียงกัน เรืองการอนุญาิตให้ขายกัญชาได้ในร้านขายยา  ซึ่งผลสุดท้าย ผมคิดว่าน่าจะได้ เพราะกระแสเรือง สิทธิในการเสพยา น่าจะถูกเอามาเป็นเหตุผลประกอบการถกเถียง

ตอนแรกๆ ผมไปเที่ยว  ตามห้องน้ำ เห็นมุมหนึี่ง  มีเข็มฉีดยา และถังทิ้งเข็ม  และมีภาพประกอบการฉีดยาอย่างถูกหลักอนามัยด้วย  แสดงว่า เมืองที่ผมไปเที่ยว่เปิดเสรีเรืองการเสพยา  รวมถึงมีอุปกรณ์ช่วยชีวิตเบื้องต้นในกรณีเกิดอาการน็อคยา 

ในเมืองไทย สาเหตุที่ คนต่างชาิติมาตายเพราะใช้ยาเกินขนาด ส่วนหนึ่งคงเผลอคิดว่าบ้านเราจะมีอุปกรณ์ หรือระบบช่วยเหลือแบบบ้านเขา  เลยเอาซะเต็มเหนี่ยว สุดท้ายไม่มีออกซิเจนข้างเตียง เลยตายเอาง่ายๆ

ผมกลัวเหมือนกันว่า  ในอนาคต  จะมีคนที่เคยใช้ชวิตในเมืองนอก  เคยใช้ยาเสพติด จะลุกขึ้นมาเรียกรอ้งสิทธิ์  โดยอ้างเรือง สิทธิมนุษยชน และสิทธิ ในการเสพยา  จนกระทั่งเมืองไทย กลายเป็นประเทศเสรีของการเสพยา

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 161275เขียนเมื่อ 25 มกราคม 2008 05:26 น. ()แก้ไขเมื่อ 30 พฤษภาคม 2012 01:27 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)

สวัสดีค่ะอาจารยื

อ่านแล้วน่าคิดนะคะถ้าการเสพยาเปิดเสรี

ถึงตอนนี้ยาเสพติดมีอะไรบ้าง?? ดูเหมือนจะมีหลากหกลายชนิดจนไม่รู้จัก...บางทีอ่านหนังสือพิมพ์ก็ไม่รู้จักอย่างที่เขาเขียนว่าเสพโค๊ก งงๆ  เจอคำว่า เสพเนื้อ ..ก็ว่าเอ๊ะกัญชาหรือเปล่า หรือว่า เสพยาเลิฟ มันคืออะไร แล้วทำไมเขาถึงหากันได้ง่ายๆนัก.....ฯลฯ

อาจารย์พอจะมีข้อมูลชื่อยาเสพติดที่ใช้ๆกันบ้างหรือเปล่าคะ

หวัดดีครับ อาจารย์จันทรรัตน์

ขอบคุณมากนะครับที่เข้ามาแลกเปลี่ยนเรียนรู้

เรืองของยาเสพติด  มีชื่อเรียกมากมาย จนเรียกแทบไม่ถูก  บ้างก็เป็นยาเสพติดตัวใหม่ที่นำเข้ามาใช้โดยกลุ่มคนที่เคยใช้ชีวิตในเมืองนอก

บ้างก็เป็นยาเสพติดตัวเก่า ที่มีการผสมผสาน กับของที่มีอยู่ เช่น ผสมโค้ก ผสมยาแก้ไอ โดยเชือว่า ทำให้ฤทธิ์ของยา เคลิบเคลิ้ม ได้นาน และแรงขึ้น

ถามว่าทำไมหาได้ง่ายจัง  การผลิตยาใช้เองในกลุ่มวัยรุ่น เป็นที่รู้กันในกลุ่ม   เช่น ยาบางตัวเกิดจากการเอายานอนหลับหรือยาทีใช้ในทางการแพทย์ จากนั้นทำการอบที่อุณหภูมิ จนทำให้เกิดเป็นผงแล้วเอามาเสพ  โดยจะมีกลุ่มผุ้เสพหัวใส ที่เก่งในเรืองการเล่นแร่แปรธาตุ ทำการผลิตใช้เอง  (น่าสนใจว่า ผุ้เสพบางราย หรือผู้ผลิตบางราย เรียนจบมาทางด้านเคมีซะด้วยซ้ำ  น่าเสียดายที่ใช้ความรู้ในทางที่ผิด)

ปัญหาของการผสมยาเสพติดเพือใช้เองอย่างมั่วๆ ก่อให้เกิดผลเสียมาก เช่น   ทำให้ฤทธิ์ของยา หรืออาการหลังเสพ ไม่ได้เป็นไปตามที่เราเคยเรียนๆมา     หรือในกลุ่มที่เสพจนมีอาการทางจิตจะมีอาการที่ซับซ้อน   ทำการรักษายาก และใช้เวลานาน  ตลอดจนบางรายดื้อยาก็มีครับ

 ในเรืองของ นโยบาย  Harm minimisation  ถ้าหากสนใจ ลองเข้าไปอ่าน ได้ ที่

ี้harm minimisaiton ของ  The drug prevention network

และของ humehealth  ออสเตรเลีย

 

 

สวัสดีค่ะ อ.recovery 

อาจารย์ เคยได้ยินชื่อองค์กร /โครงการ Harm reduction ไหมคะ

เค้ามีแนวคิดเกี่ยวกับเรื่องของการเสพ ยาเสพติดอย่างนี้ค่ะ

"ยาเสพติด เลิกได้ให้เลิก ...เลิกไม่ได้ไม่ฉีด(ใช้วิธีอื่นที่ปลอดภัยกว่า) ... เลิกฉีดไม่ได้ ไม่ share (งดแชร์เข็มป้องกันการติดเชื้อเอดส์)... ให้เสพอย่างปลอดภัย"

ช่วงหลายปีก่อน ที่โรคเอดส์กำลังระบาดอย่างหนึ่ง  Harm reduction ดูเหมือนกิจกรรมทางเลือกที่ จะช่วยให้ผู้ติดยาเสพติด มีทางเลือก ทางออกและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น แต่เอาเข้าจริง ๆ โครงการนี้ไม่ได้เหมาะกับบริบทไทย และไม่ได้รับการยอมรับ" การให้ผู้เสพ เป็นผู้ป่วย" เป็นความยืดหยุ่นที่มากที่สุด  ที่ทางการไทยให้ได้ค่ะ 

เห็นบางประเทศ ที่เค้ายอมรับว่าปํญหานี้มีจริงและไม่สามารถต่อกรกับภัยยาเสพติดได้  เค้าจัดให้มี dropin center คนที่ติดยาเสพติด ต้องเอาเข็มเก่ามาทิ้ง แล้วมาแลกเอาเข็มใหม่ไป  มีบางทีขนาดจัด sterize water ให้ด้วยซ้ำไปค่ะ

ที่เอามาแลกเปลี่ยน ก็คือมองว่า แนวทางแห่งการแก้ปัญหาอย่างยืดหยุ่นมีจริง ๆ แต่แก้ปัญหาได้ไหม คงไม่ได้ดีที่สุด  นึกถึงการทำงานช่วงก่อนประเทศไทยประกาศสงครามกับยาเสพติด  ช่วงนั้นการเข้าหมู่บ้านไปพูดคุยไปหากลุ่มเป้าหมายทำได้ง่ายมาก  ใครติดยายกมือขึ้น  นี่ก็ยกกันพรึ่บ  ใครอยากบำบัดยกมือขึ้น ก็อีกพรึ่บ

มาถึงตอนนี้  เข้าหมู่บ้านไปที กลุ่มชาวยา  แตกกระเจิง มาตรการที่แข็งกร้าว ทำให้พวกเค้าต้องระแวดระวัง และ ระแวง  ทำงานยากขึ้นค่ะ 

น่าเศร้าจริงๆนะคะ เคยดูหนังเขาเล่นเสียด้วย

หวัดดียามเช้า คุณ  Coffee mania 

ขอบคุณมากนะครับสำหรับการร่วมแสดงความคิดเห็น

เรืองของ harm reduction  กับ harm mininisation  ก็มีแนวคิดแบบเดียวกันครับผม  ก็คือ  ทำการสอนผุ้เสพให้เสพอย่า่งปลอดภัย  และป้องกันผลข้างเคียง   โดยหน่วยงานเกี่ยวข้อง จะทำงานเชิงรุกในการสอนผู้เสพ และตรวจร่างกายประจำปี  ขณะเดียวกันก็จัดเตรียมอุปกรณ์ต่าง ตามจุดที่คนไปเสพ  เช่น ห้องน้ำ  ศุนย์การค้า โรงแรม เป็นต้น  เพื่อป้องกันปัญหาการใช้เข็มซ้ำ  หรือ เกิดอาการช๊อคจนแก้ไม่ทัน 

ถามว่าเหมาะไหม สำหรับเมืองไทย

คิดว่าในตอนนี้ก็คงยังไม่เหมาะ  เพราะ ทัศนคติของบุคลากรต่อผู้เสพจึงทำให้เกิดความลำเอียงที่จะดูแล  ตลอดจนสังคมไทยที่บอกว่าเป็นเมืองพุทธจึงมีการตัดสินผู้เสพด้วยมุมมอง ศิลธรรม  ดังนั้นการทำแบบนี้เท่ากับส่งเสริมให้คนผิดศิลข้อห้า   อีกทั้งระบบเกือหนุนต่า่งๆ คิดว่าไม่เพียงพอสำหรับผู้เสพ (อันเป็นคนกลุ่มน้อย)  ทรัพยากรเกื้อหนุนจึงถูกจัดให้กับปัญหาอื่นที่มีขนาดและความรุนแรงมากกว่า

ส่วนในเรืองของ การทำสงครามกับยาเสพติด  อันนี้จะเห็นว่า ไม่สามารถแก้ปัญหาได้จริง  เพราะมันก่อให้เกิดวงจรปัญหาอื่นๆ ตามมามากมาย   ตลอดจนเป็นปัญหา "ปากว่า ตาขยิบ"  จึงคิดว่า สักวันก็จะเลือนหายไปเอง

ในอนาคต   การแก้ปัญหาจึงต้อง  มีการแก้ปัญหาในเชิงบูรณาการ และมีลักษณะของ   Friendly management มากกว่านี้ครับ

เพราะจะว่ามี   มีคนใช้ยาเสพติดอีกมากมาย ที่เขาทำประโยชน์และสิ่งดีๆ ให้กับสังคม  เพียงแต่การเสพยา เป้นความนิยมส่วนบุคคล 

 

อรุณสวัสดิ์ครับ พี่  Sasinanda 

ขอบคุณมากนะครับ ที่แวะมาเยี่ยมเยียน 

ช่วยเอาภาพมาประกอบให้จ้า

^___^

อยากได้ข้อมูลเกี่ยวกับปัญหายาเสพติดระดับโลกน่ะค่ะ ว่าประเทศใดมีปัญหาเรื่องยาเสพติดมากที่สุด....ช่วยหน่อยได้มั๊ยคะ??

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท