เปิดกรุ "เมืองบางพาน"

               -   สวัสดีครับผู้ที่กำลังเข้ามาอ่านในวันนี้...ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณทุกท่านที่ได้ช่วยแนะนำและมาร่วม "เปิดบริสุทธิ์นักส่งเสริมการเกษตร"  ด้วยความขอบคุณจริง ๆ ครับ....

                  วันนี้เป็นเรื่องที่คงจะต้องขอแนะนำ  "เมืองบางพาน"  ก่อน   เพราะว่าผมเป็นอีกคนหนึ่งที่มาอยู่บ้านเมืองนี้ก็เป็นเวลา 2,000  กว่าวันแล้วครับ  ถ้านับเป็นปีก็เป็นเวลาร่วม  6 ปี เศษ...ก็มีเรื่องราวที่อยากจะนำมาเล่าให้ท่านได้อ่านบ้าง........

                  "เอกลักษณ์ภาษาถิ่น  หินอ่อนเมืองพาน  ตำนานถ้ำกระต่ายทอง  เห็ดโคนดองรสดี"  เป็นคำขวัญของอำเภอพรานกระต่าย  ซึ่งเป็นเมืองที่มีความเก่าแก่และน่าสนใจอยู่ไม่น้อย  เรื่องราวต่าง ๆ ของคำขวัญก็ต้องย่อมมีที่มาดังนั้น   วันนี้จึงเป็นโอกาสที่ผมจะได้นำเอาเรื่องของเมือง "บางพาน" มาเล่าสูกันฟังครับ......

                  -เมือง "บางพาน" เป็นอีกเมืองหนึ่งที่เก่าแก่ ในบรรดาเมืองแปบ  เมืองเทพนคร  เมืองไตรตรึง  เมืองคณฑี  เมืองนครชุม  เมืองชากังราว  เมืองรอ  เมืองแสนตอ  เมืองพอซังเซ  และบ้านคลองเมือง  ที่อยู่ในเขตเมืองกำแพงเพชร   ถูกค้นพบโดยซากโบราณสถานต่าง ๆ มากมายที่พอจะเล่าถึงประวัติได้ครับ..  ซึ่งถือได้ว่าเมืองเหล่านี้เป็นเมืองโบราณก่อนประวัติศาสตร์ไทยเสียด้วยซ้ำ...."เขา" เล่าว่ามืองพานในอดีตเมืองประมาณ  1,131  ปีก่อน  มีพระพุทธสาครเป็นกษัตริ์ปกครองเมือง  ซึ่งมีความเจริญรุ่งเรืองมากในสมัยนั้น  มีแม่นำคลองใหญ่ไหลผ่านเชื่อมกับแม่น้ำปิง  และเชื่อมไปสู่เมืองสุโขทัย จึงเป็นเส้นทางขนส่งสินค้าต่าง ๆมากมาย  จึงได้มีบ้านเรือน และส่งที่ด้บ่งบอกถึงความเจริญรุ่งเรืองสูงสุดนั้น ได้พบว่ามีการสร้างพระพุทธบาทสัมฤทธิ์ขึ้นเก็บไว้บน "เขานางทอง"  แต่ผมว่าน่าเสียดายที่ไม่ทันได้เห็นกับตาว่าเป็นอย่างไร  ก็เพราะว่ากรมศิลปากรได้เก็บไปรักษาไว้ที่พิฑิธภัณฑ์แห่งชาติแล้วนะสิครับ...น่าเสียดายจริง ๆ  แต่ที่น่าเสียดายยิ่งกว่าก็มาถึงเมื่อ เมือง "บางพาน"  ถึงกาลอวสานลง  ก็เมื่อพระมเหสีของเจ้าผุ้ครองเมืองได้เสียชีวิตลง  ทำให้เจ้าผุ้ครองเมืองเสียใจ  เป็นอย่างมาก  ยังความโศกเศร้าถึงประชาชนในสมัยนั้นด้วยนะสิครับ   เจ้าผู้ครองเมืองจึงได้อพยพผู้คนไปตั้งถิ่นฐานที่แขวงเมืองอยุทธยา   เมือง "บางพาน "จึงได้ถึงกับรกร้างและ "อวสาน"ลง......  คงเหลือไว้แต่ซากโบราณสถานที่ได้ขุดค้นพบ  และที่สำคัญ  ยังคงเหลือไว้ให้ลูกหลาน "เมืองพาน"ได้รำลึก ก็คือ  "นามสกุลของคนพรานกระต่ายที่ได้ตั้งไว้ว่า  "บางพาน"  จนถึงปัจจุบันครับ......

                                       เป็นอีกเรื่องราวหนึ่งที่ผมได้มาจากหนังสือและได้ฟังผู้เฒ่าผู้แก่เล่าบ้างและพี่ ๆ ที่สำนักงานเล่าให้ฟังบ้าง..แต่ ที่แน่ ๆ ท่านผุ้อ่านคงจะสงสัยใช่รึเปล่าครับว่าแล้ว  "พรานกระต่าย "  มีที่มาอย่างไง  ไม่เห็นเกี่ยวกับ "บางพาน" ซะหน่อย   เรื่องนี้ก็มีที่มาอีกละครับ  แต่ว่ามันเป็น  "ตำนาน" มาอ้างอิงซะมากกว่าที่จะขุดพบซากของกระต่าย หรือซากกระดูกของนายพราน..  ผมว่าพรานกระต่ายมีเรื่องราวอีกมากมายที่น่าสนใจครับ  ไว้โอกาสต่อไปท่านจะได้พบกับ ที่มาของเรื่อง  "เขานางทอง"  "เมืองพรานกระต่าย" "จระเข้ปูน"  และที่สำคัญอย่าลืมร่วมแสดงความคิดเห็นบ้างนะครับ  เพื่อเป็นกำลังใจต่อไปครับ...............หลังจากเปิดบริสุทธิ์ประวัติคร่าว ๆ แล้ว  ครั้งนี้ขอแนะนำ เมืองพานก่อน แล้วต่อไปคงจะได้นำเรื่องงานในพื้นที่มาแลกเปลี่ยนกันครับ............."อวสานเมืองบางพาน สู่ตำนานเมืองพรานกระต่าย".......................