เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2551 ชุมชนคนบ้านกร่างได้ต้อนรับคณะแขกผู้มาเยือนซึ่งเป็นคณะที่ใหญ่มาก เป็นการเริ่มต้นการทำงานที่ใหญ่มากของปีใหม่นี้ ผู้ที่ให้เกียรติมาเยี่ยมเราถึงบ้านกร่าง ได้แก่คณะสหวิชาชีพ จาก สสจ.นครปฐม และจังหวัดอ่างทอง มีจำนวนทั้งสิ้น 64 คน ประกอบด้วยแพทย์ พยาบาล นักวิชาการสาธารณสุข และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจากชุมชน
ในการมาครั้งนี้เพื่อมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้การดูแลผู้ป่วยเบาหวานบูรณาการ ทั้งในโรงพยาบาลต่อเนื่องเชื่อมโยงมาถึงชุมชน การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ครั้งนี้แปลกไปจากเดิม เมื่อก่อนนู๋รัตน์จะถูกเชิญให้ไปเล่าประสบการณ์การเรียนรู้ในห้องประชุม ที่โรงพยาบาลพุทธชินราช แต่ครั้งนี้ย้ายเวทีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้มาอยู่ที่ชุมชนคนบ้านกร่าง
ในฐานะเจ้าของพื้นที่ก็ต้องเตรียมงานต้อนรับกันอย่างเต็มที่โดยมีคุณปรีชา ศรีชัย บุคลต้นแบบ และคุณจำเนียร แตงนารา (คนข้างวัด) ทำหน้าที่อย่างแข็งขันร่วมกับชาวชุมชนอีกจำนวนหนึ่ง ทั้งเรื่องสถานที่ อาหาร การแสดง การเตรียมชุมชน เมื่อถึงเวลาก็ไม่ต้องผิดหวังเลยเพราะทุกอย่างถูกจัดเตรียมไว้อย่างเรียบร้อยสวยงาม
ประชาชนมารอต้อนรับกันตั้งแต่ 11.00 น โดย อบต.บ้านกร่างเลี้ยงข้าวต้มและอาหารกลางวันกันอย่างอิ่มหมีพลีมัน รับประทานอาหารกลางวันเสร็จ ก็จับจ่ายซื้อของจากชุมชนที่มีมาวางขาย เลือกได้ตามใจชอบ เพราะชุมชนทำเองขายเอง เป็นสินค้าเมตตา เหมือนที่คุณปรีชาเคยพูดไว้ จนบ่ายโมง...บ่ายสอง แขกก็ยังมาไม่ถึง..จึงเปิดเพลงมันๆเต้นกัน(เรียกน้ำย่อย)
<p>จนได้เวลา 15.00 น คณะจาก โรงพยาบาลพุทธชินราช สสจ.นครปฐม และอ่างทอง จึงเดินทางมาถึง หลังจากชมการแสดงร้องเพลงจากชมรมออกกำลังกาย ป้าเฮียง ป้าฮง และป้าเย็น เจ้าของเพลงมาร้องด้วยตัวเอง ....จากนั้น คุณปรีชา ศรีชัย ตัวแทนชุมชนคนบ้านกร่างทำหน้าที่พิธีกร และกล่าวต้อนรับ แนะนำตัวกันทั้งสองฝ่ายแล้วจึงเริ่มการแลกเปลี่ยนเรียนรู้</p><p> </p><p align="center"> </p><p>บรรยากาศของการเรียนรู้ในวันนี้แปลกไปไม่เหมือนที่เคย...พี่โต้ง (คุณลัดดาวัลย์) ทำหน้าที่ผู้นำกลุ่ม เชิญทุกคนมานั่งพูดคุยกันบนเสื่อที่ปูไว้ ....น้องอ้อ (คุณรัชดา)เริ่มเล่าเรื่องระบบการดูแลผู้ป่วยเบาหวานใน ร.พ (แทน อจ.นิพัธ ซึ่งป่วยมาไม่ได้) ดูเหมือนน้องอ้อ คงจะแปลกกับบรรยากาศเลยพูดน้อยกว่าที่เคย ต่อมาเป็นพี่อ้อ (คุณเปรมสุรียณ์) ที่เล่าเรื่องคลินิคเท้า และการจัดค่ายเบาหวาน แล้วพี่โต้งก็ให้ นู๋รัตน์ เล่าเรื่องระบบการดูแลผู้ป่วยในชุมชนและการจัดตั้งชมรมต่างๆที่มีอยู่มากมายหลายชมรม ซึ่งในวันี้ก็มากันอย่างพร้อมเพรียง (จำนวน 80 คน ที่มาร่วมให้การต้อนรับ)...และคนที่จะขาดเสียไม่ได้คือคุณปรีชา ศรีชัย ผู้ที่เป็นขวัญใจของใครๆอีกหลายคน เล่าเรื่องการเป็นเบาหวาน การดูแลตนเอง และการสนับสนุนให้ชุมชนสร้างสุขภาพได้อย่างไร...จากนั้นเป็นการซักถามข้อข้องใจ...... ได้เวลา สี่โมงเย็น จึงทำ AAR พร้อมทั้งออกกำลังกายร่วมกันกับชุมชนเพื่อความกระปรี้กระเปร่าก่อนกลับ</p><p> </p><p>ชุมชนคนบ้านกร่างทุกคนในวันนั้น ขอขอบคุณแขกผู้มาเยือนทุกท่านที่นำความสุข ความรู้สึกดีๆ และมิตรไมตรีมาให้คนบ้านกร่าง หลายคนกลับบ้านด้วยความสุขและรอยยิ้ม ป้าเวียงมาบอกกับเราว่า " หมอมีคนมาถามป้าว่าใช่คนที่อยู่ใน ซีดี หรือเปล่าเขาจำได้" สีหน้า แววตา และน้ำเสียงตื่นเต้น ป้าเวียงภาคภูมิใจและมีความสุขมาก และสมาชิกคนอื่นๆ ก็รออยู่จนส่งแขกกลับบ้านจึงได้แยกย้ายกันกลับ...หวังว่ากิจกรรมดีๆและสิ่งที่พวกเราได้แสดงออกและบอกเล่าให้ท่านฟังคงจะเป็นประโยชน์ให้กับคณะผู้ศึกษาดูงานได้นำไปปรับใช้กับงานที่ทำได้บ้างไม่มากก็น้อย....ขอให้สิ่งท่านหวังจงสำเร็จทุกประการเทอญ</p>
เก่งจังค่ะ เพลงเพราะด้วย
ขอคนบ้านกร่างมีสุข ทีมงานร่วมแรงร่วมใจ หัวหน้าเป็นสายใยสายใจของการทำงานอย่างต่อเนือง จะทำงานที่มอบให้ดีที่สุด
ขอให้พี่เนียรมีเรี่ยวแรงและมีพลังใจ ในการทำงานไปนานแสนนาน..เพื่อสุขภาพของคนบ้านกร่าง สำหรับน้องๆ ขอรับใช้ชุมชนบ้านกร่างอีกสักระยะหนึ่ง ก็แล้วกัน
ขอบคุณ ชาวตำบลบ้านกร่าง มั๊กๆ ไปแล้วทุกคนสนุก และได้เรียนรู้การทำงานไปด้วย
ยอมรับว่าไม่ผิดหวังที่ สสจ.นครปฐม+อ่างทองหอบหิ้วทีมงานกันไป เป็นกำลังในในการทำงานต่อๆไปนะค่ะ
เป็นวิธีการจัดการ "การดูงาน" ที่ได้ความรู้ทั้งทีมเหย้า และทีมเยือนมากเลยครับ
ขอบคุณมากครับ ที่แบ่งปันประสบการณ์ดีๆ ในครั้งนี้
สวัสดี คุณนู่รัตน์ อีกครั้ง
คราวนี้ทางนครปฐม ใช้บริการจากบ้านกร่างอีกแล้ว เมื่อวันที่ 21 มีค.51ได้เชิญพี่ปรีชาไปบรรยายแลกเปลี่ยนเรียนรู้เล่าประสบการณ์ทำงานเบาหวานความดัน
ให้กับ อบต/เทศบาลจ.นครปฐมฟัง ซึ่งก็ต้องบอกว่าไม่ผิดหวังพี่ปรีชาถ่ายทอดได้
ดีทีเดียว จนทำให้มีคนตอบแบบประเมินให้ สสจ.พา อบต.ไปดูงานที่บ้านกร่างอีก
หลายๆคนชอบรูปแบบที่เราทำให้ในวันนั้นทำให้ อบต.รู้ว่าระหว่างเราต้องสร้างเครือข่าย
ทำงานร่วมกัน จึงจะยั่งยืน นอกจากนี้ขอแสดงความยินดีกับพี่ปรีชาด้วยกับตำแหน่งผู้บริหาร จึงขอขอบคุณอีกครั้ง และเป็นกำลังใจให้ชุมชนบ้านกร่างสร้างสรรการทำงาน
ให้กับชุมชนต่อๆ ไป