แดดช่วงบ่ายวันนี้ร้อนอบอ้าว จนเจ้าหมาสองตัวที่เลี้ยงไว้หลบไอแดด เข้ามานอนลิ้นห้อยอยู่บนเนินดินเย็นใต้ถุนบ้าน มันเหลือบตาดูผมนั่งทำกังหันเล่นอยู่คนเดียว ส่วนพ่อกับแม่ง่วนอยู่กับเย็บจากใบตาล ไว้ซ่อมหลังคารับฝนปีนี้
ผมนั่งทำกังหันจากเศษใบตาลที่พ่อนำมาเย็บจาก โดยเหลาไม้ไผ่และเตรียมหลอดเล็กๆจากโคนขนไก่ การทำก็ไม่ยากเย็นอะไร ก่อนอื่นต้องตัดใบตาลมาสองชิ้น กว้างสักหนึ่งนิ้ว ยาวประมาณสี่-ห้านิ้ว ตัดปลายให้มนทั้งสองข้าง นำมาวางซ้อนกันแล้วใช้ปลายมีดเจาะตรงกลางให้ได้ขนาดพอเอาหลอดที่ได้จากขนไก่ยัดลงแล้วแน่นพอดี จับปลายใบพัดแยกออกจากกัน เราก็จะได้กังหันสี่ใบพัดเกือบจะสมบูรณ์แล้ว
ส่วนแกนทำจากไม้ไผ่ยาวสักคืบกว่าๆ แบ่งเป็นสองส่วนข้างปลายเหลาให้กลมเล็ก กะว่าพอสอดเข้าในหลอดขนไก่แล้วให้พอหลวมๆ อีกส่วนก็เว้นไว้สำหรับถือเวลาเล่น
ก่อนจะเอากังหันที่เราทำเสร็จแล้วมาใส่กับแกน ให้ทำแป้นเล็กๆจากใบตาลอีกสองอัน อันหนึ่งเป็นฐานไว้รองรับกังหัน อีกอันเอาไว้ปิดด้านปลายสุดป้องกันไม่ให้กังหันหลุดออกมาเวลาเราวิ่งแกว่งไปมา
พอเสียบฐานไว้รองรับกังหันแล้ว ใส่กังหันที่เตรียมไว้เข้าไป ปิดปลาย แค่นี้ผมก็ได้ของเล่นชิ้นใหม่ไว้เล่นได้ทั้งวัน ทดลองแกว่งดูถ้ามันหมุนไม่คล่องก็ลองจับปลายใบพัดบิดไปคนละทางให้พลิ้วเล็กน้อย ทำให้สัมพันธ์กันทั้งสี่ใบพัด มันก็จะหมุนได้คล่องเมื่อโดนลมพัด
ผมกำลังทดลองดูว่าหลังจากที่ผมปรับใบพัดทั้งสี่ให้สัมพันธ์กันแล้วมันจะหมุนคล่องดีไหม พลันได้ยินเสียงแม่ตะโกนเรียกพร้อมบอกว่าให้ไปนากับพ่อ
ผมเหลียวไปดูเห็นพ่อแบกจอบ พร้อมผ้าโพกหัว กำลังเดินออกประตูบ้านไป ผมหยิบกังหันได้วิ่งตามไปติดๆ
สักพักเราก็มาถึงแปลงนาที่พ่อไถไว้แล้วทั่วทั้งแปลง แต่บริเวณ ชายนา หรือริมแปลงนาที่ติดกับคันนา ยังมีหญ้าขึ้นรกเพราะไถเข้าไปไม่ถึง พ่อมองดูรอบๆแปลงนาคงจะเป็นการกะระยะเวลาว่า วันนี้จะทำเสร็จไหม ทำนองนั้น
พ่อเริ่มใช้จอบ ขุด ถาก หญ้าที่ขึ้นรอบๆชายนา และตกแต่งขอบคันนาให้ดูเรียบร้อย ขณะที่ผมก็เพลินกับกังหัน สักพักพอรู้สึกเบื่อจากกังหันก็เข้าไปใกล้ๆกับที่พ่อกำลังทำงาน ไปช่วยพลิกดินที่พ่อขุดขึ้นมาให้หญ้ามันคว่ำลงไปอยู่ข้างล่าง บางทีก็พบกับแมงกะชอน จิ้งหรีด ตัวด้วง และไส้เดือนดิน บางจังหวะผมก็เพลิดเพลินไปกับการวิ่งไล่อยู่กับเจ้าจิ้งหรีดที่มันคอยหลบซ่อนตัวใต้ก้อนดิน หรือจับแมงกะชอนมากำไว้หลอมๆให้มันใช้ขาที่แข็งแรง ดันเพื่อหาทางออกจากมือ ก็สนุกไปตามประสา
ผมเงยหน้าขึ้นมองดูไปทางทิศตะวันตก หลังจากที่เพลิดเพลินอยู่นาน เห็นดวงตะวันสีแดงส้มถูกเมฆดำคลุมเกือบมิด และยังมีเมฆดำก้อนโตซ้อนกันอยู่เป็นชั้นๆสูงขึ้นไปจากขอบฟ้า มองดูเหมือนควันไฟหนาทึบมาปกคลุม นกกระยางนาสีขาวตัดกับสีท้องฟ้ามองเห็นชัด ต่างก็บินกลับที่พักเป็นกลุ่มๆ นกเอี้ยงฝูงใหญ่มารวมตัวกันบนต้นไทร ส่งเสียงเซ็งแซ่ เสียงวัวร้องดังมาแต่ไกล
พ่อปลดผ้าโพกหัวมาเช็ดเหงื่อตามใบหน้าและลำคอ สลัดดินที่ติดจอบออก แล้วตวัดขึ้นบ่าอย่ารวดเร็ว พยักหน้ากับผมแล้วรีบจ้ำไปยัง "ไอ้ขาว" กับ"ไอ้เพชร" ที่ล่ามให้กินหญ้าอยู่ไม่ไกลนัก ผมจูง "ไอ้ขาว" มาให้กินน้ำในแอ่งน้ำก่อนมุ่งหน้ากลับบ้าน เสียงฟ้าร้องครืนๆดังมาแต่ไกล ลมเย็นพัดมาปะทะใบหน้าวูบหนึ่ง พ่อแหงนมองดูฟ้าแล้วเปรยกับผมว่า "คืนนี้ฝนน่าจะตก"
นาข้าวพ่อจะได้ผลสมบูรณ์หรือไม่ก็อยู่ที่ฝนฟ้าธรรมชาติมาช่วยอำนวยให้ ปีไหนฝนฟ้าดีก็ได้ข้าวเป็นกอบเป็นกำ ในใจพ่อคิดอะไรผมไม่รู้ รู้แต่ว่าคืนนี้ถ้าฝนตกหนัก พรุ่งนี้ผมก็จะได้หาปลาที่ขึ้นมาจากหนองน้ำ เพื่อรับน้ำใหม่ตอนฝนตกแล้วติดค้างอยู่ตามแอ่งน้ำในท้องนา ปูนาก็จะเปิดรูหลังจากฝังตัวอยู่ในดินหน้าแล้งมานานนับเดือน ตกดึกคงได้ยินเสียงดนตรีธรรมชาติวงใหญ่บรรเลงเพลงประสานเสียงจากเจ้า อึ่งอ่าง คางคก กบ เขียด ที่ทุกชีวิตล้วนเริงร่ารับฝนแรกของปีนี้ และคืนที่ฝนตกหนัก ผมก็จะนอนหลับอย่างเป็นสุขขณะซุกตัวอยู่ในผ้าห่มเก่าๆผืนนั้น
******************
สวัสดีครับ อาจารย์